'ธีระชัย' แนะกองทัพเดินหน้าสร้างกำแพงบอกหยุดยิงต้องหยุดเสียอธิปไตยด้วย

31 ธ.ค.2568 - นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล นักวิชาการอิสระ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “หยุดยิง: ต้องหยุดการเสียอธิปไตย” ระบุว่า ถ้อยแถลงร่วม Joint Statement ที่ลงนามกันระหว่าง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหมไทย กับ พล.อ.เตรีย เซยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา เมื่อ 27 ธันวาคม 2568 สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) นั้น มีข้อตำหนิเกี่ยวกับเรื่องเขตแดนและพรมแดน ดังนี้

“3. ทั้งสองฝ่ายตกลงว่าข้อตกลงทั้งหมดภายใต้แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ไม่กระทบต่อการกำหนดเขตแดนและพรมแดนระหว่างประเทศระหว่างสองประเทศ

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการเขตแดนร่วม เพื่อให้ดำเนินการสำรวจและปักธงเขตแดนอีกครั้งโดยเร็วที่สุด ตามข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างสองประเทศเพื่อบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนตามแนวชายแดน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะใช้กลไกที่มีอยู่ของคณะกรรมการเขตแดนร่วม เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของทีมสำรวจร่วมในพื้นที่ รวมถึงความปลอดภัยจากทุ่นระเบิด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าคณะกรรมการเขตแดนร่วมจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการสำรวจและปักธงเขตแดนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบซึ่งมีพลเรือนอาศัยอยู่”

ข้อตำหนิคือ เงื่อนไข “ให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการเขตแดนร่วม เพื่อให้ดำเนินการสำรวจและปักธงเขตแดนอีกครั้ง”

ดังนั้น การระบุเช่นนี้ จึงหมายความโดยอัตโนมัติว่า การสำรวจและปักธงดังกล่าว จะดำเนินการในกรอบ MOU 2543 และยังไปย้ำอีก ในเงื่อนไข “ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างสองประเทศเพื่อบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนตามแนวชายแดน” ซึ่งก็ย่อมหมายถึง MOU2543 อีกเช่นกัน

ทั้งนี้ MOU 2543 ข้อ 1 (ค) อ้างอิงแผนที่อยู่เพียงฉบับเดียว คือแผนที่ 1:200,000 ที่กองการแผนที่ รัฐบาลฝรั่งเศส เป็นผู้จัดทำ และในแผนที่ฉบับนี้เอง ที่ฝรั่งเศสขีดเส้นพรมแดนผิด อย่างส่อเจตนาว่า วางหมุดฝังเรื่องเอาไว้ ให้เกิดปัญหาปะทุขึ้นอีกในเวลาถัดมา

เพราะในแผนที่ 1:200,000 ระวางดงรัก ฝรั่งเศสขีดเส้นล้ำ เลยแนวสันปันน้ำ เข้ามากินแดนของไทย
ตั้งใจแสดงตำแหน่งปราสาทพระวิหารและปราสาทอื่นตรงนั้น ให้ไปอยู่ในดินแดนกัมพูชา ทำให้ไทยแพ้คดีเขาพระวิหาร!

เงื่อนไขให้การสำรวจและปักธง ดำเนินการในกรอบ MOU 2543 จึงไม่เป็นผลดีแก่ไทยอย่างแน่นอน

ถามว่า มีเหตุผลใดที่สนับสนุนให้รัฐบาลไทย สมควรเก็บ MOU 2543 เอาไว้? และ รมว.กต. คนปัจจุบัน ที่เป็นลูกหม้อกระทรวงการต่างประเทศ ก็เห็นตามนี้ (ซึ่งข้าราชการ กต. ส่วนใหญ่ก็แสดงท่าทีเช่นนี้) บางคนเข้าใจว่า การเก็บ MOU 2543 เอาไว้ จะเป็นรั้วป้องกันมิให้ประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซง คือมีกรอบเจรจา ดีกว่าไม่มีกรอบ แต่เป็นการเข้าใจผิด เพราะกรณีสองประเทศใดมีข้อขัดแย้งเรื่องพรมแดน ถึงแม้ไม่มี MOU ระหว่างกัน ก็ไม่มีกฎใดของสหประชาขาติ ที่อนุญาตให้ประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซงไกล่เกลี่ย
ส่วนการมีกรอบเจรจา ดีกว่าไม่มีกรอบนั้น ก็ต้องบีบให้ยกเลิก MOU ก่อน แล้วยกร่างใหม่ ไม่ใช่ยอมรับสิ่งที่ขัดกับสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส (หลักสันปันน้ำ) ดังเช่นใน MOU 2543

บางคนเข้าใจว่า ควรเก็บ MOU 2543 เอาไว้ เพราะแผนที่ LiDar 1:25,000 กำลังจะเข้ามาแทนที่ แต่เป็นการเข้าใจผิด เพราะใน MOU 2543 ไม่ได้เปิดช่องให้อ้างอิงแผนที่อื่น นอกเหนือจากแผนที่ 1:200,000 ในข้อ 1 (ค)
ดังนั้น ไม่ว่าการทำงาน จะใช้แผนที่ละเอียดแค่ไหน ก็จะถูกตีกรอบใหญ่ด้วยแผนที่ 1:200,000

ส่วนการที่บางคนหวังว่า กัมพูชาจะยอมรับให้มีการแทรก คำว่า แผนที่ LiDar 1:25,000 เข้าไปใน MOU 2543 ก็เป็นการฝันกลางวัน กัมพูชาไม่มีวันยอม ไม่ว่าจะมีฮุนเซน หรือบุคคลอื่น เพราะกัมพูชาล็อกตัวเอง เอาไว้กับแผนที่ 1:200,000 เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนานแล้ว

กองทัพไทยจึงควรเดินหน้าสร้างกำแพงไปเลย อย่าไปสาละวนกับ ถ้อยแถลงร่วม Joint Statement หรือ MOU 2543 และรัฐบาลหน้า ก็ควรยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 ไปเลย เพื่อบีบให้เจรจากันใหม่ กำหนดเงื่อนไขตามที่คนไทยต้องการ