อัยการเลื่อนสั่งฟ้องคดีแตงโม

อัยการ จ.นนทบุรีเลื่อนสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหาคดีแตงโมออกไปปลายมิ.ย. หลังส่งสำนวน 18 แฟ้มกว่า 100 หน้าให้อธิบดีอัยการภาค 1 ต้องใช้เวลาพิจารณา "มงคลกิตติ์" จัดใหญ่ส่งทีมทนายดูแลคดีแตงโม "ภนิดา" ประกาศทวงคืนความยุติธรรมให้ลูก เชื่ออาจไม่ใช่อุบัติเหตุ "เต้" ส่งซิกไม่ให้ตอบส่งมือถือลูกสาวให้บังแจ็ค "อัจฉริยะ"  ร้อง "ปปป.ตร." ฟัน "ผบก.สส.ภ.1-ผกก.เมืองนนท์" อีก

ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 พ.ค. เวลา 11.00 น. น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่า อัยการจังหวัดได้ดำเนินการพิจารณาความเห็นทางคดีเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมส่งสำนวนมีความหนา 18 แฟ้ม ต่ออธิบดีอัยการภาค 1 ไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อพิจารณาสำนวนอีกครั้งว่าเห็นชอบตามความเห็นของอัยการนนทบุรีหรือไม่

“ตอนนี้จึงต้องรอความเห็นจากอธิบดีอัยการภาค 1 ว่ามีความเห็นอย่างไร ซึ่งความชัดเจนว่าจะมีคำสั่งอย่างไรนั้น จะทราบในช่วงบ่าย และจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และในวันนี้ (27 พ.ค.)ได้นัดผู้ต้องหาทั้ง 6 คนมารายงานตัว เพื่อรับฟังคำสั่งทางคดีด้วย” อัยการจังหวัดนนทบุรีกล่าว

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ผู้ต้องหาคดีแตงโม เดินทางมาฟังคำสั่งของอัยการเป็นคนแรก โดยเซ็นชื่อรายงานตัว และเซ็นรับทราบคำสั่งเลื่อนสั่งฟ้อง จากนั้นไม่ถึง 2 นาที เดินออกจากสำนักงานอัยการรีบขึ้นรถกลับทันที จากนั้น น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก, นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน เดินทางมารถคันเดียวกัน ส่วนนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ และนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวคนละคัน หลังจากเข้าไปเซ็นชื่อรายงานตัว และเซ็นรับทราบคำสั่งเลื่อนสั่งฟ้อง รีบเดินออกมาขึ้นรถทันที

น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก กล่าวว่า อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นปลายเดือน มิ.ย. แต่ไม่ทราบเหตุผล ทั้งนี้ไม่ได้กังวล การเลื่อนนัดเป็นเรื่องปกติ คดีนี้สำนวนค่อนข้างเยอะ เชื่อว่าต้องใช้เวลาพิจารณา แต่นัดหน้าไม่เลื่อนแล้ว

ทั้งนี้ 6 ผู้ต้องหาต้องเข้าฟังคำสั่งส่งฟ้องของอัยการจังหวัดนนทบุรี ในวันที่ 23 มิ.ย.65 เวลา 10.00 น.

จากนั้น น.ส.สุภาภรณ์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ชี้แจงกรณีที่อัยการเลื่อนสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคนว่า วันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนมารายงานตัวและเซ็นรับทราบนัดฟังคำสั่งครั้งต่อไป โดยอัยการได้เลื่อนนัดฟังคำสั่ง เพราะขณะนี้สำนวนคดียังอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาสำนักงานอัยการภาค 1 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของอธิบดีอัยการภาค 1 ขณะนี้อัยการจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งเสร็จแล้ว แต่ตามระเบียบจะต้องส่งสำนวนพร้อมกับความเห็นให้อธิบดีอัยการภาค 1 ซึ่งได้ส่งไปเมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 โดยสำนวนที่ส่งไปมีทั้งหมด 18 แฟ้ม กว่า 100 หน้า ดังนั้นการพิจารณาจึงต้องใช้ระยะเวลา และจะมีการแจ้งวันนัดหมายอีกครั้ง

ถามว่า การเลื่อนสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหา เกี่ยวข้องกับที่นายอัจฉริยะไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมที่สำนักงานอัยการสูงสุดหรือไม่ อัยการจังหวัดนนทุบรีกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับกรณีที่มีบุคคลภายนอกไปร้องขอความเป็นธรรม เพราะคดีนี้มีการร้องขอความเป็นธรรมกันหลายกรณีอยู่แล้ว แต่การเลื่อนครั้งนี้เป็นเพราะระยะเวลาที่ส่งสำนวนและความเห็นไปเมื่อ 2 วันที่แล้ว และสำนวนที่ส่งไปเป็นของพนักงานสอบสวนที่ส่งมา 8 แฟ้ม และที่อัยการสอบเพิ่มอีก 10 แฟ้ม รวมเป็น 18 แฟ้ม จึงต้องใช้ระยะเวลา รวมถึงรายละเอียดคำสั่งทางโฆษกสำนักงานอัยการจะแถลงอีกครั้ง

ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงคดีการเสียชีวิตของแตงโม

นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ขณะนี้อัยการยังไม่ได้สั่งฟ้องเลื่อนไป 12 วัน จึงยังพอมีเวลาที่เราจะดำเนินคดีต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (7) ทั้งคดีแพ่งและอาญา ซึ่งการดำเนินคดีครั้งต่อไปคนที่รับผิดชอบจะประกอบด้วย ตนในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ และนายอัจฉริยะ ส่วนที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประกอบด้วย พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ อดีตผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม, พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และทีมทนายความได้แก่ นายวินัย ชุมสวัสดิ์ และนายสุธีพงศ์ ชีวิตเจริญ ทนายความชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นอกจากนี้มีทีมที่ปรึกษากฎหมาย ได้แก่ นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์, นายศฤงคาร ข่ายสุวรรณ กรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายบัญชา สุชญา สมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยมอบหมายให้นายบัญชาเป็นทนายและโฆษกประจำตัวนางภนิดา

 “ผมและ น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จะทำหน้าที่ดูแลนางภนิดาแทน น.ส.นิดา ในช่วงระหว่าง 2 ปีครึ่งจากนี้ จนกว่าการดำเนินคดีจะแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปี 2567 ซึ่งการดำเนินคดีครั้งนี้เพื่อคืนความยุติธรรม” นายมงคลกิตติ์กล่าว

ด้านนางภนิดาได้อ่านแถลงการณ์ ตอนหนึ่งระบุว่า ตนจะต้องทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวคนเดียวที่ตนมีและรักสุดหัวใจ ต้องการให้ลูกได้รับความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามความจริงอย่างถึงที่สุด ตนเข้าใจว่าลูกสาวอาจไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่อาจจะเป็นการเสียชีวิตจากการฆาตกรรมอำพราง จึงตัดสินใจดำเนินคดีต่อศาลด้วยตนเอง

 “คุณแม่เสียเวลาไปแล้ว 3 เดือนเต็ม ตอนนี้คุณแม่ก็จะสู้ ลุกขึ้นมาสู้ด้วยความถูกต้อง จะสู้เพื่อลูก จริงๆ ที่ผ่านมาก็สู้ แต่ไม่ได้บอกใคร คุณแม่มีหลักฐานเยอะแยะ เก็บหลักฐานเอง แต่ประชาชนคิดว่าไม่เห็นคุณแม่ทำอะไรเลย คุณแม่ไม่ออกมาช่วยลูกเลย คุณแม่อยากทราบว่าต้องออกมาประกาศด้วยหรือ ถ้าคุณแม่ไม่ช่วยลูก คุณแม่คงไม่ผอมแบบนี้” แม่แตงโมระบุ

ส่วนนายอัจฉริยะกล่าวว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากนางภนิดาอย่างเป็นทางการโดยชอบด้วยกฎหมาย ในการใช้สิทธิ์ฟ้องร้องบุคคลบนเรือทั้งหมด วันนี้ตนได้นำหลักฐานบางส่วนให้นางภนิดาดู และเชื่อว่านางภนิดาเข้าใจในสิ่งที่ตนทำในเรื่องเกี่ยวกับฆาตกรรมอำพรางที่เกิดขึ้น

ถามถึงสาเหตุที่แม่ส่งโทรศัพท์มือถือให้บังแจ็ค นางภนิดาเอาแต่ก้มหน้าแสดงท่าทีเคร่งเครียดและไม่ยอมตอบคำถาม ส่วนนายมงคลกิตติ์พยายามบอกนักข่าวว่าให้ทนายความเป็นผู้ตอบคำถาม เมื่อสื่อพยายามจี้ถามอีก โดยร้องขอให้แม่เป็นผู้พูดเอง นางภนิดาเงยหน้าแล้วหันไปทางนายมงคลกิตติ์ แต่นายมงคลกิตติ์ได้โบกมือส่งซิกไม่ให้พูด

นายอัจฉริยะกล่าวว่า ได้คุยกับคุณแม่แล้วว่าเรื่องของบังแจ็คจะไปแถลงข่าววันที่ 2 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายอัจฉริยะเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อกล่าวโทษ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 และพวก ฐานร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยการแก้ไขเวลาคลิปกล้องวงจรปิดนาทีที่ 22.18 และร้องกล่าวโทษ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา โดยมี พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. เป็นตัวแทนรับเรื่องดังกล่าว

วันเดียวกัน พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่นายอัจฉริยะร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 4 นาย ในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ตลอดจนนำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนการสอบสวน

พล.ต.อ.มนตรีกล่าวว่า เบื้องต้นคณะกรรมการฯ จะเร่งสอบให้ครบทั้ง 4 นาย ภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงอาจมีการเชิญนายอัจฉริยะมาให้ปากคำ หรือส่งเอกสารหลักฐานเพิ่ม และจะสรุปผลการตรวจสอบและมีมติส่งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์

แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พิจารณาภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน นับจากมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหากพบว่ามีตำรวจนายใดไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย หรือมีข้อบกพร่อง ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอีกชั้น ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการพิจารณาบทลงโทษ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง