คิมจองอึน ยกย่องความจริงใจของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในโอกาสอำลาจากตำแหน่ง

คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ส่งข้อความแสดงความขอบคุณไปยังประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ที่กำลังจะหมดวาระและก้าวลงจากตำแหน่ง ในความพยายามที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี อันเป็นการแสดงความปรารถนาดีที่หาได้ยากยิ่ง

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ (ขวา) กำลังกอดคิม จองอึน ผู้นำของเกาหลีเหนือ หลังการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ที่เกาหลีเหนือ บริเวณหมู่บ้านปันมุนจอมในเขตปลอดทหาร (ดีเอ็มซี) ถ่ายภาพเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 และเผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ผ่านหนังสือพิมพ์ ดงอา อิลโบ (Photo by Handout / Dong-A Ilbo / AFP)

เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 กล่าวว่า คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือแสดงความขอบคุณไปยังมุน แจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบันที่กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 9 พ.ค. สำหรับความพยายามในการปรับปรุงและพัฒนาความสัมพันธ์ของสองเกาหลี มาตลอดระยะเวลา 5 ปี

สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงานว่า คำขอบคุณที่แสนอบอุ่นจากผู้นำคิมถึงประธานาธิบดีมุน มีที่มาจากการเขียนจดหมายถึงกันในช่วงสามสัปดาห์ก่อนมุนจะอำลาจากตำแหน่ง ก่อนเกาหลีใต้จะสานต่อภารกิจของคาบสมุทรไปยังว่าที่ประธานาธิบดีอนุรักษ์นิยมที่อาจทำให้ความสัมพันธ์ของสองชาติสั่นคลอนไปจากเดิม

“คิม จองอึน ชื่นชมความเจ็บปวดในความพยายามของมุน แจอิน เพื่อความสัมพันธ์อันดีของสองประเทศจนถึงวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง และการส่งจดหมายถึงกันเป็น “การแสดงออกถึงความไว้วางใจอย่างลึกซึ้งของพวกเขา” เคซีเอ็นเอกล่าวในรายงาน

“มุน แจอิน ได้ส่งจดหมายหาคิมเมื่อวันพุธ และสัญญาว่าจะพยายามวางรากฐานสำหรับการรวมชาติตามปฏิญญาที่บรรลุร่วมกันในการประชุมสุดยอดเมื่อปี 2561 แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบากมากก็ตาม” เคซีเอ็นเอเสริม

ด้านสำนักงานของประธานาธิบดีมุนก็ได้ออกมายืนยันว่าผู้นำทั้งสองได้แลกเปลี่ยน "จดหมายแห่งมิตรภาพ" กันจริงๆ

“ข้อความบางส่วนของมุนกล่าวว่า "ยุคแห่งการเผชิญหน้า" ควรลงเอยได้ด้วยการเจรจา และการรวมเป็นหนึ่งระหว่างสองเกาหลีเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของการบริหารประเทศในยุคต่อไป นอกจากนี้ มุนยังแสดงความหวังว่า การเริ่มต้นเจรจาครั้งใหม่ในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือจะสามารถเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้”  โฆษกหญิงของสำนักงานประธานาธิบดีมุน กล่าวในการบรรยายสรุป

“ทางด้านผู้นำคิมกล่าวในการตอบกลับของเขาเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การประชุมสุดยอด "ประวัติศาสตร์" ของพวกเขาทำให้ประชาชนมี "ความหวังต่ออนาคต" และทั้งสองเห็นพ้องกันว่าความสัมพันธ์จะพัฒนาหากทั้งสองฝ่ายจะพยายามต่อไปอย่างมีความหวัง" เคซีเอ็นเอรายงาน

การส่งจดหมายถึงกัน เกิดขึ้นในขณะที่คิม ซ็อง ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ด้านกิจการเกาหลีเหนือยังคงอยู่ในเกาหลีใต้เพื่อรอเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือโดยปราศจากเงื่อนไขเรียกร้องใดๆ แต่เกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธข้อเสนอมาโดยตลอด

นักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยว่า ข้อความของเกาหลีเหนือที่สรรเสริญว่า มุนคือผู้ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีดีขึ้น อาจเป็นการพยายามโยนภาพร้ายให้กับว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปอย่าง ยุน ซ็อก-ยอล ก็เป็นได้ หากเขาดำเนินนโยบายใดๆก็ตามที่นำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่จนความสัมพันธ์ของสองชาติแย่ลง

จดหมายที่เขียนถึงกันของสองผู้นำในครั้งนี้ ขัดแย้งกับสถานการณ์จริงในประเด็นความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ รวมถึงสั่นคลอนคาบสมุทรอย่างรุนแรงเมื่อเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) และอาวุธอื่นๆอีกบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง