แต่งตั้ง‘โฟลเคอร์เติร์ก’ข้าหลวงใหญ่สิทธิ์

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อนุมัติการแต่งตั้งโฟลเคอร์ เติร์กชาวออสเตรียเป็นข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติคนใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี

          รอยเตอร์รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อนุมัติการแต่งตั้งโฟลเคอร์ เติร์กชาวออสเตรียเป็นข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติคนใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี ตำแหน่งก่อนหน้านี้ของเติร์กคือเป็นรองเลขาธิการสหประชาชาติด้านนโยบาย

          อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเสนอชื่อเติร์กให้ดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติต่อจากมิเชล บาเชเลที่หมดวาระเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

          ความท้าท้ายแรกสุดของเติร์กคือการจัดการกับผลที่ตามาจากรายงานเรื่องเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีนที่เผยแพร่โดยบาเชเลก่อนพ้นจากตำแหน่งเพียงไม่กี่นาที

          รายงานดังกล่าวระบุ การควบคุมตัวชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมคนอื่นๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน กระทำไปโดยพลการและเลือกปฏิบัติ อาจเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

          จีนปฏิเสธอย่างแข็งขันมาโดยตลอดว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์

          ไต ปิงรองเอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์กรสหประชาชาติว่า เป็นความหวังของจีนที่นายเติร์กจะเป็นผู้นําสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ปฏิบัติตามหลักการของความเที่ยงธรรม, ความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดและไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

          ด้านลิซา คาร์ตีรองเอกอัครราชทูตสหรัฐประจําสหประชาชาติกล่าวว่า เติร์กต้องทําหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงที่เป็นอิสระ,เป็นกลางและไม่เปลี่ยนแปลงสําหรับประเด็นสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ข้าหลวงใหญ่เสิทธิมนุษยชนต้องเต็มใจในการออกมาเรียกร้องเมื่อเกิดกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการล่วงละเมิดต่างๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด.

เพิ่มเพื่อน