เสียชีวิต 6 ราย หลังตำรวจปิดล้อมเหตุกราดยิงในชนบทของออสเตรเลีย

มีผู้เสียชีวิต 6 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย จากเหตุกราดยิงในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย

ที่ตั้งของเมืองวีแอมบิลลา ซึ่งเป็นชนบทในเขตเวสเทิร์น ดาวน์ส รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ที่เกิดเหตุกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 ราย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม (Photo by Sophie STUBER AND Valentin RAKOVSKY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงในเขตชนบทของออสเตรเลีย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ราย โดยจำนวนนี้ 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ช่วงบ่ายของวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายได้รับแจ้งเหตุคนหายและถูกเรียกตัวไปยังบ้านพักแห่งหนึ่งในเมืองวีแอมบิลลา ซึ่งเป็นชนบทในเขตเวสเทิร์น ดาวน์ส รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

"ทันทีที่กลุ่มตำรวจเข้าไปในบ้านพักหลังนั้น พวกเขาก็ถูกกระสุนปืนกระหน่ำยิงเข้าใส่ทันที โดยไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายถูกสังหารอย่างเลือดเย็น" เอียน ลีเวอร์ส ประธานสหภาพตำรวจควีนส์แลนด์กล่าวว่า

นายตำรวจที่เสียชีวิตทั้ง 2 นาย ได้แก่ ราเชล แม็คโครว วัย 26 ปี และแมททิว อาร์โนลด์ วัย 29 ปี โดยทั้งคู่เพิ่งเริ่มอาชีพตำรวจเมื่อสองปีที่แล้ว

"เจ้าหน้าที่ทั้งสองเสียสละอย่างสูงสุดเพื่อให้ชุมชนของเราปลอดภัย" คาทารีนา แคร์รอล ผู้บัญชาการตำรวจควีนส์แลนด์กล่าว พร้อมกลั้นน้ำตาขณะที่เธอบรรยายสรุปต่อสาธารณะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ 'น่าวิตกอย่างยิ่งยวด'

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปด้วยกันอีกสองนาย รอดชีวิตและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

หลังการกราดยิงเกิดขึ้น ทีมตำรวจผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีเจ้าหน้าที่สนับสนุนทางอากาศมากกว่า 12 นายรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ

หลังจากการปิดล้อมเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ภายในเวลา 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ต้องสงสัยชาย 2 คนและผู้ต้องสงสัยหญิง 1 คน ถูกพบว่าเสียชีวิตแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนบ้านวัย 58 ปีที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็ถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน ตามรายงานของตำรวจ

ตำรวจเปิดการสืบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว เพื่อหามูลเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิต

เหตุกราดยิงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศมีกฎหมายเกี่ยวกับปืนที่เข้มงวดที่สุดในโลก โดยการห้ามใช้อาวุธอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติมีการบัญญัติขึ้นหลังเหตุกราดยิงที่เมืองพอร์ตอาร์เทอร์ รัฐแทสเมเนียในปี 2539 ซึ่งครั้งนั้น มือปืน 1 คน สังหารผู้คนไปถึง 35 ราย

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย กล่าวแสดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นวันที่น่าสลดใจสำหรับครอบครัวและเพื่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจควีนส์แลนด์ที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเลวร้ายที่ยอมรับไม่ได้

เจ้าหน้าที่ทางการของรัฐควีนส์แลนด์ได้สั่งให้มีการลดธงครึ่งเสาในอาคารของรัฐ เพื่อเป็นการไว้อาลัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โล่ง! ยังไม่พบคนไทยบาดเจ็บ-เสียชีวิต ในเหตุกราดยิงมอสโก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​และ​รมว.คลัง​ กล่าวถึงเหตุการณ์การก่อการร้ายที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย หลังคนร้ายในชุดพรางทหาร

สถานเอกอัครราชทูต เตือนคนไทยในมอสโก เฝ้าระวังเหตุกราดยิง!

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก เตือนคนไทย ในกรุงมอสโก รัสเซีย เฝ้าระวังสถานการณ์เหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ต ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

'อนุภาพ'เบิ้ลแต้ม'กฤตภัทร'เริ่มต้นดี เปิดฉากสนามแรก 'เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์'ที่ออสเตรเลีย

"ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม" ยอดทีมแข่งจากประเทศไทย สร้างผลงานสุดร้อนแรงเปิดฉากสนามแรกในศึก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2024 ด้วยการคว้าแต้มมาครองได้ทั้ง 2 เรซ จากผลงานของ "ตี" อนุภาพ ซามูล ที่บิดคว้าอันดับ 12 และ 15 มาได้สำเร็จ ขณะ "ไอเดีย" กฤตภัทร เขื่อนคำ รุกกี้ชาวไทยเปิดตัวด้วยฟอร์มยอดเยี่ยม หลังจบ 2 เรซสุดมัน ที่ สนาม ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

'ไทยยามาฮ่า'ส่ง'ตี-ไอเดีย' บินทดสอบ'ปรี-ซีซัน' ก่อน'เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต'เปิดที่ออสเตรเลีย

"ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม" ยอดทีมแข่งไทยในศึกเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ ยกทีมชุดใหญ่นำโดย 2 นักบิดอย่าง "ตี" อนุภาพ ซามูล และ "ไอเดีย" กฤตภัทร เขื่อนคำ พร้อมด้วยทีมงาน มุ่งหน้าสู่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อม และทดสอบรถแข่ง YZF-R6 ก่อนลุยศึกเวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต แชมเปียนชิพ 2024 สนามแรกที่ ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

ในหลวง-พระราชินี ทรงรับผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียและภริยา ในโอกาสเยือนไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงรับ พลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ (His Excellency the Honourable General David Hurley AC DSC) ผู้สำเร็จราชการ แห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และนางลินดา เฮอร์ลีย์ (Her Excellency Mrs. Linda Hurley) ภริยา และพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ