ปิดคดีฟ้องอองซานซูจี ศาลทหารตัดสินจำคุกเบ็ดเสร็จ 33 ปี

อองซานซูจี ผู้นำประชาธิปไตยเมียนมาที่ถูกรัฐประหารและถูกคุมขังในเรือนจำ ถูกศาลทหารพิพากษาจำคุก 7 ปี ในการพิจารณาคดีฟ้องร้องข้อหาคอร์รัปชันล็อตสุดท้ายซึ่งลากยาวมาแรมปี รวมเบ็ดเสร็จโทษแล้ว ต้องจำคุกรวมกันกว่า 33 ปี

แฟ้มภาพ นางอองซานซูจี (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565 กล่าวว่า ศาลทหารของรัฐบาลเผด็จการเมียนมาทำการพิพากษาคดีที่เหลืออยู่ทั้งหมดของนางอองซานซูจี อดีตผู้นำประชาธิปไตยที่ถูกคุมขังมานานกว่า 18 เดือนแล้วนับตั้งแต่ถูกทำรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564

ซูจี วัย 77 ปีถูกพิพากษาโทษใน 14 ข้อหา ตั้งแต่การทุจริตคอร์รัปชัน ไปจนถึงการครอบครองเครื่องส่งรับวิทยุอย่างผิดกฎหมาย และละเมิดข้อจำกัดโรคโควิด

การพิจารณาคดีล่าสุดเมื่อวันศุกร์ ซูจีถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 7 ปี ในข้อหาคอร์รัปชัน 5 คดีที่เกี่ยวข้องกับการว่าจ้าง, บำรุงรักษา และจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์สำหรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ซึ่งมูลฟ้องระบุว่าเธอทำให้รัฐเสียหาย

เบ็ดเสร็จรวมทุกคดีแล้ว ซูจีถูกตัดสินจำคุกรวมกัน 33 ปี ภายหลังใข้เวลาพิจารณาคดีทั้งหมดกว่า 18 เดือนในศาลทหารที่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลเผด็จการ

"คดีทั้งหมดของเธอเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีการตั้งข้อหากับเธออีก" แหล่งข่าวทางกฎหมายระบุ

ทุกๆครั้งที่มีการพิจารณาคดี นักข่าวจะถูกกันออกจากการเข้าร่วมการพิจารณาของศาล และทนายความของซูจีจะถูกห้ามไม่ให้พูดคุยกับสื่อมวลชน

มีรายงานว่า ซูจียังคงมีสุขภาพแข็งแรงดี และขณะนี้ถูกคุมขังในเรือนจำกรุงเนปยีดอ เธอแทบไม่เคยปรากฏตัวในศาลเลยในทุกครั้งที่มีการพิจารณาตัดสินคดี มีเพียงทนายเท่านั้นที่ได้ต่อสู้แทนเธอ

สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปประณามการพิจารณาคดีของซูจี โดยรัฐบาลวอชิงตันเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอทันที

"การพิจารณาโทษครั้งสุดท้ายของรัฐบาลทหารเมียนมาต่อนางอองซานซูจี เป็นการดูหมิ่นความยุติธรรมและหลักนิติธรรม" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวในแถลงการณ์

เช่นเดียวกับสหภาพยุโรปที่ออกมาประณามว่าการพิจารณาคดีของอองซานซูจีเป็นประเด็นทางการเมืองอย่างชัดเจน

"การพิจารณาคดีเหล่านี้ดำเนินไปโดยไม่เคารพต่อกระบวนการทางกฎหมายหรือการรับรองทางกฎหมายตามหลักสากล และเป็นความพยายามอย่างชัดเจนที่จะกีดกันผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยออกจากวีถีทางการเมือง" โฆษกของสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์กล่าวในแถลงการณ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำลายสถิติ! ผู้ต้องขังยังเพิ่มพุ่ง 46 คน คดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน

ลั่นต้องไม่เลือกปฏิบัติ นิรโทษกรรมต้องครอบคลุมคดี ม.112

ที่รัฐสภา น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพร้อมด้วย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เดินทางเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ

'ธนกร' หนุน กมธ.นิรโทษกรรม ขีดเส้นต้องเป็นเหตุจูงใจทางการเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษ

เคาะนิรโทษกรรม นับคดีตั้งแต่ 1 ม.ค.48-ปัจจุบัน เรียกแกนนำม็อบถกหาเหตุจูงใจ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม กมธ. ว่า การประชุม กมธ. วันนี้ มีมติว่า ในสัปดาห์หน้า จะมีการเชิญบุคคลที่ส่วนใหญ่มีบทบาท

'อดุลย์' ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง 'เพื่อไทย' เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมือง

“อดุลย์”ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง”พรรคเพื่อไทย”เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมืองเอาประชาชนทุกเสื้อสีเป็นตัวประกันกระตุก”ทักษิณ” ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แล้วทิ้งประชาชนที่เคยช่วยเรียกร้องต่อสู้ให้กับตัวเอง จี้นายกฯเร่งออกพรก.นิรโทษกรรม เพื่อให้สังคมเกิดความปรองดองโดยเร็ว

นิรโทษฯลากยาวไปอีก! ตั้ง อนุกมธ.ศึกษา แยกประเภทคดีการเมือง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโท