ชาวยุโรปประท้วงมาตรการคุมโควิด ดัตช์ก่อจลาจลต้านล็อกดาวน์

ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนต่อต้านมาตรการควบคุมไวรัสในหลายประเทศยุโรปและออสเตรเลียเมื่อวันเสาร์ เยาวชนดัตช์ห้าวหนักก่อจลาจลเผารถปะทะตำรวจ 2 คืนติดต่อกัน มีคนโดนยิงบาดเจ็บ 3 ราย

หนุ่มดัตช์ขี่สกูตเตอร์ยกล้อหน้า ระหว่างเกิดเหตุจลาจลประท้วงมาตรการควบคุมโควิด-19 ของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ที่กรุงเฮกเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย. 2564 (Getty Images)

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า การประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์และข้อจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลของหลายประเทศในยุโรปกำลังต้องดิ้นรนรับมือจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติ ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องกลับมาใช้มาตรการที่เข้มงวดอีกครั้ง

ที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมาร์ก รุตเทอ กลับมาใช้การล็อกดาวน์บางส่วนนานอย่างน้อย 3 สัปดาห์ตั้งแต่วันเสาร์ที่่แล้ว และกำลังวางแผนห้ามผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้าบางสถานที่ตามแผน 2จี ผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ออกมาก่อจลาจลปะทะตำรวจเป็นคืนที่ 2 ติดต่อกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์รุนแรงเมื่อคืนวันเสาร์เกิดที่กรุงเฮก และมีเหตุวุ่นวายโดยเยาวชนกลุ่มเล็กๆ ที่ปะทะตำรวจในอีกหลายเมือง

เมื่อคืนวันศุกร์เกิดความรุนแรงที่เมืองท่ารอตเตอร์ดัม ผู้ประท้วงหลายร้อยคนขวางปาก้อนหินและดอกไม้ไฟใส่ตำรวจ และจุดไฟเผารถยนต์และจักรยานเมื่อวันศุกร์ ตำรวจตอบโต้ด้วยการยิงปืนและฉีดน้ำ ตำรวจรอตเตอร์ดัมเผยเมื่อวันเสาร์ว่า มีคนถูกจับ 51 ราย ครึ่งหนึ่งอายุไม่ถึง 18 ปี มีผู้ก่อจลาจลโดนยิงบาดเจ็บด้วย 3 คน ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล

เหตุจลาจลเมื่อคืนวันเสาร์ เกิดภายหลังชาวดัตช์หลายพันคนเดินขบวนประท้วงอย่างโกรธแค้นในกรุงอัมสเตอร์ดัม แต่บรรยากาศค่อนข้างสงบ ส่วนที่เมืองเบรดาทางภาคใต้ ติดชายแดนเบลเยียม ผู้ประท้วงเดินขบวนผ่านเมืองพร้อมป้ายข้อความเช่น "ไม่เอาล็อกดาวน์" ผู้จัดการชุมนุมกล่าวว่า พวกเขาคัดค้านแผนของนายกฯ ที่จะจำกัดสิทธิของผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนในการเข้าร้านอาหารและบาร์

ที่ออสเตรีย ซึ่งเมื่อวันศุกร์รัฐบาลเพิ่งประกาศล็อกดาวน์บางส่วนทั่วประเทศนาน 20 วัน ห้ามประชาชนออกนอกบ้านเว้นแต่มีธุระจำเป็นเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ และเตรียมบังคับฉีดวัคซีนตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีหน้า มีประชาชนราว 40,000 คนออกมาประท้วงใกล้กับสำนักนายกรัฐมนตรีในกรุงเวียนนา ตามคำเรียกร้องของพรรคการเมืองขวาจัด พวกเขาชูป้ายข้อความประณาม "เผด็จการโคโรนา" และ "การแบ่งแยกสังคม"

ผู้ประท้วงบางคนติดดาวสีเหลือง มีข้อความว่า "ไม่ได้ฉีดวัคซีน" เพื่อเลียนแบบดาวดาวิดที่ชาวยิวจำนวนมากถูกบังคับให้ติดในยุคนาซี รัฐมนตรีมหาดไทยคาร์ล นีแฮมเมอร์ โกรธมากกับการกระทำดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการดูหมิ่นผู้คนหลายล้านคนที่เป็นเหยื่อเผด็จการนาซี รวมถึงครอบครัวของพวกเขา

เมื่อวันเสาร์ มีผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนที่กรุงซาเกร็บของโครเอเชียด้วย ที่อิตาลีมีผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมที่สนามกีฬาโบราณกีร์กุสมักซิมุส เพื่อต่อต้านแผน "ใบผ่านสีเขียว" สำหรับเข้าที่ทำงาน, สนามกีฬาและระบบขนส่งมวลชน

ส่วนที่เดนมาร์ก ผู้ประท้วงประมาณ 1,000 คนต่อต้านแผนของรัฐบาลที่เตรียมกลับมาใช้ใบผ่านโควิดสำหรับข้าราชการที่กลับเข้าทำงาน บางคนร้องตะโกน "เสรีภาพเพื่อเดนมาร์ก" ขณะเดินขบวนในกรุงโคเปนเฮเกน กิจกรรมนี้จัดโดยกลุ่ม "คนชุดดำ" ที่เชื่อว่าโควิด-19 เป็นแค่กลลวง

ข้ามมาที่ออสเตรเลีย ผู้ประท้วงราว 10,000 คนเดินขบวนในนครซิดนีย์ และมีแผนชุมนุมประท้วงในเมืองใหญ่อื่นๆ ด้วย เพื่อต่อต้านแผนบังคับฉีดวัคซีนของรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐนั้นๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลฎีกาสหรัฐขวางบังคับฉีดวัคซีน-ตรวจไวรัสลูกจ้างธุรกิจขนาดใหญ่

รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผชิญขวากหนามชิ้นใหญ่ในการบังคับใช้นโยบายควบคุมโควิด-19 เมื่อศาลฎีกาขัดขวางการออกกฎข้อบังคับให้ลูกจ้างของธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีลูกจ้างเกิน 100 คน ต้องฉีดวัคซีนหรือตรวจโควิดทุกสัปดาห์

ฟิลิปปินส์บังคับลูกจ้างทำงานในสถานที่ต้องฉีดวัคซีน

รัฐบาลฟิลิปปินส์เตรียมบังคับพนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานต้องฉีดวัคซีน ใครไม่ฉีดต้องเสียค่าใช้จ่ายตรวจเชื้อเองบ่อยๆ เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้