ยูเอ็นขอโทษที่ภารกิจช่วยเหลือซีเรียล้มเหลว ขณะยอดเสียชีวิตรวมเพิ่มเป็น 33,000 ราย

สหประชาชาติยอมรับว่าล้มเหลวในการจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นไปยังพื้นที่ภัยพิบัติในซีเรีย พร้อมกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตล่าสุดกว่า 33,000 รายจะเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้มาก

ขบวนรถที่บรรทุกเต็นท์และสิ่งของจำเป็นที่สหประชาชาติจัดหาเพื่อนำไปช่วยเหลือเหยื่อภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในซีเรีย กำลังจอดรอข้ามพรมแดนที่จุดผ่านแดน บับ อัล-ฮาวา ในจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ (Photo by OMAR HAJ KADOUR / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า สหประชาชาติไม่พอใจกับการจัดการพื้นที่ภัยพิบัติของซีเรีย ทั้งๆที่ความช่วยเหลือพร้อมเข้าบรรเทาสาธารณภัยให้กับผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวแล้ว

เนื่องจากพื้นที่ประเทศซีเรียยังคงเต็มไปด้วยสงครามกลางเมืองและการปะทะกันของกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดและกลุ่มกบฏซีเรียที่ควบคุมพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ ทำให้หน่วยงานกู้ภัย, สาธารณสุข และความช่วยเหลือจากนานาชาติไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย ภารกิจทั้งหมดจึงต้องระงับชั่วคราว ขณะที่รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเองก็ล้มเหลวในการพูดคุยต่อรองกับกลุ่มดังกล่าว

ขบวนรถที่บรรทุกเสบียงและสิ่งของจำเป็นของสหประชาชาติเข้าแถวรอคอยการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติที่บริเวณจุดผ่านแดน บับ อัล-ฮาวา ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่ความช่วยเหลือจากนานาชาติจะเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏในซีเรียได้ หลังเกิดสงครามกลางเมืองนานกว่า 12 ปี และด่านพรมแดนด้านอื่นๆถูกปิดตาย

เสบียงและสิ่งของจำเป็นที่เข้าสู่พื้นที่ล่าช้า ยิ่งทำให้ผู้ประสบภัยพิบัติหลายล้านคนเหมือนถูกทอดทิ้งให้ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดกันเอง ทำให้มาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าหน่วยบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ กล่าวขอโทษต่อประชาชนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ที่ทำให้ผิดหวังกับการรอคอยที่ยังไปไม่ถึง

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้พบกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมขอร้องแกมกดดันให้ผู้นำซีเรียยอมเปิดด่านพรมแดนเพิ่มเติมเพื่อให้ความช่วยเหลือหลั่งไหลเข้าไปได้มากขึ้น ซึ่งมีรายงานว่าอัสซาดกำลังพิจารณาคำขอร้องดังกล่าว และอาจยอมให้มีการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือ

อย่างไรก็ดี ขบวนช่วยเหลือจากสหประชาชาติต้องผ่านด่านการอนุญาตจากกลุ่มกบฏที่ยึดครองพื้นที่เสียก่อน ถึงจะเข้าไปทำภารกิจได้อย่างปลอดภัย ซึ่งกระบวนการที่ซับซ้อนเหล่านี้ยิ่งทำให้เวลาหมดไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับความหวังของผู้รอดชีวิต

ทางด้านตุรเคีย ยังคงมีปาหาริย์เกิดขึ้นอยู่ หลังหน่วยกู้ภัยช่วยชีวิตเด็กชายวัย 8 ขวบคนหนึ่งไว้ได้จากใต้ซากปรักหักพังที่เมืองกาเซียนเท็ป แม้จะผ่านไปกว่า 160 ชั่วโมงของหายนะแผ่นดินไหว เช่นเดียวกับหญิงชราวัย 63 ปีอีกคนหนึ่งที่ได้รับการช่วยเหลือไว้ได้ในเมืองฮาเตย์

จากการประเมินความเสียหายทางตอนใต้ของตุรเคียล่าสุดที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตขยับเข้าใกล้สามหมื่นรายแล้ว สหประชาชาติกังวลว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2 เท่าหรือมากกว่านั้น เนื่องจากโอกาสในการพบผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารลดน้อยลงในทุกๆวันที่ผ่านไป

ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่กว่า 32,000 คนจากองค์กรต่างๆ ในประเทศกำลังทำภารกิจค้นหาและกู้ภัยอย่างต่อเนื่องร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากนานาชาติอีกกว่า 8,294 คน แต่หน่วยงานด้านภัยพิบัติของตุรเคียกล่าวว่าในหลายๆพื้นที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ค้นหาขั้นสูง รวมทั้งเครื่องมือเครื่องจักรในการขุดเจาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขุดซากปรักหักพังอย่างระมัดระวังด้วยพลั่วหรือมือเปล่าเท่านั้น ซึ่งเป็นอุปสรรคกับการช่วยชีวิตคนแข่งกับเวลา

ทั้งนี้ ยอดรวมผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 33,186 ราย แบ่งเป็น 29,605 รายในตุรเคีย และ 3,581 รายในซีเรีย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมอกควันไฟป่าฝุ่น pm2.5 ภาคเหนือพุ่งปรี๊ด! เชียงใหม่ ครองที่ 1 โลกต่อเนื่อง

ปํญหาหมอกควันไฟป่าฝุ่น pm2.5 ภาคเหนือยังพุ่งสูงเป็นสถิติทุกวัน เชียงใหม่ AQI ครองที่ 1 โลกต่อเนื่อง PM2.5 เกินมาตรฐานทุกจุด

'อังคนา' เผยสหประชาชาติจี้ไทยรับผิดชอบการสูญหายของ 'ทนายสมชาย' เมื่อ20ปีก่อน

นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นักเคลื่อนไหวสตรี ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร นักกฎหมายและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนมุสลิมชาวไทยที่หายสาบสูญ โพสต์ข่าวสารจากเว็บไซต์ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ว่า