ฟิลิปปินส์ซื้อไฟเซอร์อีก 20 ล้านโดส ตั้งเป้าฉีดวัคซีนครบ 80% กลางปีหน้า

รัฐบาลฟิลิปปินส์ซื้อวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค เพิ่มอีก 20 ล้านโดส พร้อมตั้งเป้ากลางปีหน้าประชากรฉีดวัคซีนครบโดสเกินร้อยละ 80

รอยเตอร์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 อ้างคำกล่าวของคาร์ลิโต กัลเวซ จูเนียร์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ผู้ดูแลด้านการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่าทางการฟิลิปปินส์ลงนามสัญญากับไฟเซอร์เพื่อซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 20 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้ยอดรวมการซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์-ไบออนเทคเพิ่มเป็น 60 ล้านโดส วัคซีนที่ซื้อเพิ่มนี้จะใช้สำหรับเป็นโดสกระตุ้นภูมิและสำหรับการฉีดวัคซีนให้เด็ก

วันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทไบออนเทคจากเยอรมนีกล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอนภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยกำหนดว่าวัคซีนที่บริษัทผลิตร่วมกับไฟเซอร์จะต้องปรับปรุงใหม่หรือไม่

ฟิลิปปินส์ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศ แต่รัฐบาลประกาศระงับเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้, บอตสวานา, นามิเบีย, ซิมบับเว, เลโซโท, เอสวาตินี และโมซัมบิก ชั่วคราวจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม

กัลเวซกล่าวว่า ถึงขณะนี้ฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 142 ล้านโดส ผ่านการซื้อและการบริจาค มีประชากรฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่า 35 ล้านคน หรือประมาณ 46% ของประชากรกลุ่มเป้าหมาย

เขาเผยด้วยว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 54 ล้านคนแบบครบโดสภายในปีนี้ หรือ 70% ของประชากรกลุ่มเป้าหมาย และตั้งเป้าจะฉีดให้ถึง 77 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2565 และ 90 ล้านคนหรือ 82% ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กเลย! ศูนย์ฉีดวัคซีน สธ.ขยายวันเวลาให้บริการฉีดไฟเซอร์เพิ่ม

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 แจ้งว่า ขณะนี้มีประชาชนสนใจเข้ารับการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ศูนย์ฉีดวัคซีนกระทรวงสาธารณสุข

แนะผู้ปกครองเตรียมพาบุตรหลานอายุ 6 เดือน-น้อยกว่า 5 ปี เข้ารับวัคซีนโควิด-19 เดือน ต.ค.

รัฐบาลแนะผู้ปกครองเตรียมพาบุตรหลานอายุ 6 เดือน-น้อยกว่า 5 ปี เข้ารับวัคซีนโควิด-19 เดือน ต.ค. เป็นต้นไป ณ จุดบริการวัคซีนพื้นฐานในโรงพยาบาล ย้ำเป็นไปความสมัครใจผู้ปกครองได้รับข้อมูลครบถ้วน

'หมอยง' ยกผลวิจัยกระตุ้นเข็ม 3 mRNA หลังวัคซีนเชื้อตายได้ผลดีมาก

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า