เกาหลีเหนือเปิดตัวทดสอบโดรนโจมตีนิวเคลียร์ใต้น้ำแบบใหม่

เกาหลีเหนือเปิดตัวทดสอบโดรนโจมตีนิวเคลียร์ใต้น้ำที่สามารถปล่อย 'สึนามิกัมมันตภาพรังสี' ได้ พร้อมตำหนิการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้ว่าทำให้สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคแย่ลง

คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กำลังตรวจสอบระบบอาวุธนิวเคลียร์โจมตีใต้น้ำ "แฮอิล" เผยแพร่ภาพโดยสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม (Photo by KCNA VIA KNS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566 กล่าวว่า รัฐบาลเปียงยางดำเนินการซ้อมรบทางทหารของตนเองในสัปดาห์นี้ พร้อมเปิดตัวทดสอบโดรนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการโจมตีอาวุธนิวเคลียร์ใต้น้ำ

สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) ระบุว่า ภารกิจของอาวุธนี้คือ การลอบเข้าไปในน่านน้ำปฏิบัติการ และสร้างคลื่นสึนามิกัมมันตภาพรังสีขนาดยักษ์ เพื่อทำลายกลุ่มกองหน้าทางเรือและท่าเรือปฏิบัติการหลักของศัตรู

อาวุธใหม่นี้เรียกว่า แฮอิล ซึ่งแปลว่าสึนามิในภาษาเกาหลี โดยมันสามารถติดตั้งพร้อมปฏิบัติการที่ชายฝั่งหรือบริเวณท่าเรือใดก็ได้ รวมทั้งการลากจูงโดยเรือผิวน้ำ

เคซีเอ็นเอรายงาว่า คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นผู้ควบคุมการทดสอบด้วยตนเอง และภาพที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐบาลเปียงยางแสดงให้เห็นว่า คิมจองอึนกำลังยิ้มแย้มอยู่ต่อหน้าอาวุธใหม่ดังกล่าว

ทว่านักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยต่อคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือเรื่องอาวุธดังกล่าว พร้อมเชื่อว่าอาจเป็นเพียงแค่คำอวดอ้างมากกว่าจะสามารถปฏิบัติการได้จริง แต่หากเป็นจริง คงเป็นเรื่องน่ากังวลไม่น้อยของรัฐบาลโซล เพราะโดรนเกาหลีเหนือสามารถยิงโจมตีท่าเรือปฏิบัติการหลักของเกาหลีใต้ได้ทั้งหมด แถมเกาหลีเหนือยังเคยขู่ไว้ว่า รัฐบาลเปียงยางพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีได้ทุกเมื่อ

มีรายงานว่ารัสเซียได้พัฒนาอาวุธที่คล้ายกัน นั่นคือ "ตอร์ปิโดโพไซดอน" ที่มีความสามารถในการยิงหัวรบนิวเคลียร์ แต่เทคโนโลยีที่ใช้ควบคุมนั้นซับซ้อนและแน่นอนว่าน่าจะขั้นสูงกว่าเกาหลีเหนือ

"สำหรับเรือดำน้ำไร้คนขับที่จะดำลงไปใต้น้ำโดยไม่มีใครตรวจจับได้นั้น ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซ็นเซอร์ควบคุมและเรดาร์ ซึ่งเกาหลีเหนือน่าจะยังไม่พัฒนาไปถึงจุดนั้น ในระดับที่สามารถใช้โดรนไร้คนขับในการสู้รบทางทะเล" ชอย กีอิล ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาการทหารแห่งมหาวิทยาลัยซางจีกล่าวกับเอเอฟพี

เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี และรัฐบาลเปียงยางมองว่าการซ้อมรบดังกล่าวทั้งหมดเป็นการฝึกซ้อมสำหรับการรุกราน และการฝึกซ้อมที่เรียกว่า 'ฟรีด้อม ชิลด์ (Freedom Shield)' เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า เป็นการฝึกซ้อมเพื่อเข้ายึดครองเกาหลีเหนือ และทำให้สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคแย่ลง

เคซีเอ็นเอระบุว่า การฝึกซ้อมโดรนโจมตีนิวเคลียร์ใต้น้ำของเกาหลีเหนือจึงเป็นเหมือนการส่งสัญญาณเตือนศัตรูให้ตระหนักถึงวิกฤตนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นจริงในเร็ววัน.

 

เพิ่มเพื่อน