ปูตินร่วมพิธีสวนสนามที่จัตุรัสแดง ปลุกเร้าให้พิชิตศึกยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้คำมั่นว่ารัสเซียจะได้รับชัยชนะในยูเครน ระหว่างเป็นประธานในพิธีสวนสนามทางทหารที่จัตุรัสแดง เนื่องในวันแห่งชัยชนะ

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างพิธีสวนสนามในวันแห่งชัยชนะที่จัตุรัสแดง ใจกลางกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม (Photo by Gavriil GRIGOROV / SPUTNIK / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2566 กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นประธานในพิธีสวนสนามทางทหารที่จัตุรัสแดง เนื่องในวันแห่งชัยชนะของประเทศรัสเซีย (9 พฤษภาคม)

ระหว่างปราศรัยในกรุงมอสโก ปูตินกล่าวกับเหล่าทหารในเครื่องแบบพิธีการว่า อนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับทหารรัสเซียที่สู้รบในยูเครน

"อารยธรรมทุกวันนี้อยู่ในจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง" ปูตินกล่าวท่ามกลางกลุ่มทหารผ่านศึกสูงอายุและทหารจากภารกิจสู้รบในยูเครน

"สงครามจะปลดปล่อยมาตุภูมิของเรา ขณะที่อนาคตของรัฐและประชาชนของเราขึ้นอยู่กับพวกคุณทุกคน ...เพื่อรัสเซีย เพื่อกองทัพของเรา เพื่อชัยชนะ ไชโย!" ปูตินกล่าวปลุกใจเหล่าทหาร

วันแห่งชัยชนะ หรือวันครบรอบชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมันเมื่อ 78 ปีก่อน

นอกจากเหล่าทหารในจัตุรัสแดงแล้ว ตามท้องถนนในกรุงมอสโก ประชาชนชาวรัสเซียต่างออกมาดูขบวนพาเหรดและร่วมเฉลิมฉลอง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

แม้ปูตินจะถูกโดดเดี่ยวบนเวทีโลกตั้งแต่เริ่มรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 แต่เชาก็ยังได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้นำของอดีตสหภาพโซเวียตหลายรัฐที่มาเข้าร่วมพิธีที่จัตุรัสแดง รวมทั้งผู้นำประเทศอาร์เมเนียและคาซัคสถาน

ในช่วงก่อนถึงวันแห่งชัยชนะ รัสเซียถูกก่อวินาศกรรมหลายครั้ง รวมทั้งการระเบิดที่ทำให้รถไฟตกราง,โดรนโจมตีที่พระราชวังเครมลิน และคาร์บอมบ์ที่ทำให้นักเขียนชาตินิยมชาวรัสเซียได้รับบาดเจ็บ

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียกล่าวว่า "มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกนำมาใช้เพื่อรับรองความปลอดภัยของผู้นำที่จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี" ขณะที่เมืองหลายสิบเมืองยกเลิกการจัดพิธีสวนสนามทางทหารเนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัย

นับตั้งแต่ขึ้นสู่อำนาจในปี 2543 ปูตินได้วางสถานะตัวเองในฐานะทายาทแห่งอำนาจของสหภาพโซเวียต และได้ปลูกฝังความรักชาติอันเข้มข้นด้วยการอ้างอิงช่วงเวลาที่โซเวียตมีชัยชนะเหนือนาซีเยอรมันในปี 2488

ปัจจุบัน รัฐบาลมอสโกได้ใช้กลยุทธ์เดียวกันในการปลุกคนในชาติให้ฮึกเหิมเพื่อสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน โดยอ้างว่าประเทศชาติกำลังต่อสู้กับ "ลัทธิฟาสซิสต์" ที่สนับสนุนโดยชาติตะวันตก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การสู้รบล่าสุดในยูเครนมีรายงานว่า กองทัพรัสเซียเริ่มสูญเสียอย่างหนักและละทิ้งแนวหน้าในบัคมุต ขณะที่กลุ่มทหารรับจ้างว้ากเนอร์ขู่จะถอนกำลังทั้งหมดออกจากยูเครนภายในวันพุธ หากรัสเซียไม่จัดส่งกระสุนมาให้เพิ่มเติม

ทั้งนี้ กลุ่มว้ากเนอร์เป็นผู้นำการโจมตีนานหลายเดือนในบัคมุต ทางตะวันออกของยูเครน ขณะที่กองกำลังรัสเซียแทบจะไม่มีท่าทีอะไรแสดงออกมาให้เห็นเลยหลังทำการโจมตีครั้งใหญ่เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน