ผู้นำคนใหม่กาบองให้คำมั่นจัดการเลือกตั้งแบบเสรี พร้อมนิรโทษกรรมผู้เห็นต่าง

ผู้นำรัฐประหารของกาบองให้คำมั่นหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราว ว่าจะฟื้นฟูการปกครองของพลเรือนผ่านการเลือกตั้งที่เสรี, โปร่งใส และน่าเชื่อถือ หลังการเปลี่ยนผ่านและการนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง

พล.อ.บริซ โอลิกุย เอ็นเกมา ผู้นำคณะรัฐประหารของกาบอง สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราว ที่กรุงลีเบรอวิล เมื่อวันที่ 4 กันยายน (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 กล่าวว่า พล.อ.บริซ โอลิกุย เอ็นเกมา ผู้นำคณะรัฐประหารของกาบอง สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราว แทนอาลี บองโก ออนดิมบา อดีตประธานาธิบดีที่ยังคงถูกกักบริเวณไว้ในบ้านพักของตนเอง

โอลิกุยกล่าวสุนทรพจน์หลังรับตำแหน่ง โดยให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูการปกครองของพลเรือนผ่าน "การเลือกตั้งที่เสรี, โปร่งใส และน่าเชื่อถือ" หลังการเปลี่ยนผ่านการปกครองและการนิรโทษกรรมนักโทษการเมือง

เขากล่าวว่า การเลือกตั้งจะเป็นก้าวสำคัญในการมอบอำนาจคืนให้กับพลเรือน แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกกำหนดเวลาที่แน่นอนก็ตาม

โอลิกุยคาดหวังให้ทุกฝ่ายในประเทศมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะถูกรับรองผ่านการลงประชามติ

นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า เขาจะแนะนำแนวทางให้รัฐบาลในอนาคตพิจารณาวิธีการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง และอำนวยความสะดวกในการนำพาผู้ลี้ภัยทั้งหมดกลับสู่ประเทศ

โอลิกุย วัย 48 ปี เป็นผู้นำรัฐประหารที่ปิดฉากการปกครองอันยาวนาน 55 ปี ของอาลี บองโก ออนดิมบา และโอมาร์ ผู้เป็นบิดาของเขาซึ่งเสียชีวิตในปี 2552

โอลิกุยกล่าวว่า เขารู้สึกประหลาดใจกับการวิจารณ์จากต่างประเทศเกี่ยวกับการรัฐประหาร

"เรารู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งที่ได้ยินองค์กรระหว่างประเทศบางแห่งประณามการกระทำของทหารที่เพียงยืนหยัดสาบานต่อธงชาติ เพื่อเสี่ยงชีวิตปกป้องประเทศ" ผู้นำคนใหม่ของกาบองกล่าว

ทั้งนี้ อีก 5 ประเทศในแอฟริกา ได้แก่มาลี, กินี, ซูดาน, บูร์กินาฟาโซ และไนเจอร์ เคยเผชิญกับการรัฐประหารในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์จะแตกต่างจากกาบองก็ตาม.