สหราชอาณาจักรรำลึกครบรอบ 1 ปีการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

เสียงสลุตปืนใหญ่ดังกึกก้องทั่วสหราชอาณาจักร เพื่อรำลึกถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในวันครบรอบปีแรกของการเสด็จสวรรคต

พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร จัดแสดงในอาสนวิหารเซนต์เดวิดส์ เนื่องในพิธีรำลึกการเสด็จสวรรคตครบรอบ 1 ปี (Photo by TOBY MELVILLE / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 กล่าวว่า สหราชอาณาจักรจัดพิธีรำลึกการเสด็จสวรรคตครบรอบ 1 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างยิ่งใหญ่ โดยกองทหารปืนใหญ่ม้าหลวงทำการยิงสลุตปืน 41 นัดที่ไฮด์ปาร์คในลอนดอน ตามด้วยการยิงสลุตปืน 62 นัดจากหอคอยแห่งลอนดอน

นอกจากนี้ ยังมีการยิงสลุตปืนใหญ่จากปราสาทเอดินบะระในเมืองหลวงของสกอตแลนด์, จากปราสาทคาร์ดิฟฟ์ในเวลส์ และจากปราสาทฮิลส์โบโรห์ในไอร์แลนด์เหนือ

ในวาระสำคัญนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์สั้นๆ กล่าวถึง “ความรักอันยิ่งใหญ่” ต่อพระมารดาของพระองค์ รวมทั้งเรื่องราวชีวิตและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระราชินี

"ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งเช่นกัน สำหรับความรักและการสนับสนุนที่มีให้กับภรรยาและตัวข้าพเจ้าเองตลอดปีนี้ ในขณะที่เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้บริการพสกนิกรทุกคน" แถลงการณ์ระบุ

สมเด็จสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา เสด็จยังสถานที่สักการะของกษัตริย์ผู้ล่วงลับใกล้กับพระตำหนักบัลมอรัล เพื่อสวดมนต์เป็นการส่วนพระองค์

สมเด็จพระราชินีฯซึ่งทรงครองราชย์นานถึง 70 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 กันยายนปีที่แล้ว ที่เมืองบัลมอรัล หลังจากพระพลานามัยทรุดโทรมมาระยะหนึ่ง สิริพระชนมพรรษา 96 พรรษา

พสกนิกรต่างวางดอกไม้ไว้ที่ประตูเมืองบัลมอรัล เพื่อร่วมรำลึกถึงสมเด็จพระราชินีผู้ทรงเป็นที่รัก ขณะที่ฝูงชนบางส่วนรวมตัวกันที่พระราชวังบัคกิงแฮมและไว้อาลัยด้วยการวางดอกไม้เช่นกัน

ในสถานที่อื่นๆ เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีน พร้อมพระราชโอรสองค์โต ทรงจัดพิธีรำลึกเล็กๆ เป็นการส่วนพระองค์ ที่อาสนวิหารเซนต์เดวิดส์ ทางตะวันตกของเวลส์

ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีผู้น้อง เสด็จกลับสหราชอาณาจักรเพื่อร่วมงานการกุศล และมีคนพบเห็นพระองค์เสด็จไปเยี่ยมสถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของสมเด็จพระอัยยิกา ที่ปราสาทวินด์เซอร์

การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถือเป็นเหตุความสูญเสียครั้งใหญ่ของชีวิตชาวอังกฤษ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์และประมุขแห่งรัฐเพียงพระองค์เดียวในช่วงชีวิตของพวกเขา

พระบรมศพของสมเด็จพระราชินีทรงถูกฝังในโบสถ์เซนต์จอร์จภายในพระราชวังวินด์เซอร์ ร่วมกับพระบรมศพของพระราชบิดา (พระเจ้าจอร์จที่ 6) และพระราชมารดาของพระองค์ รวมทั้งเจ้าชายฟิลิป พระสวามีผู้ล่วงลับของพระองค์ซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี 2564

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศว่าจะมีการจัดทำอนุสรณ์สถานแห่งชาติเพื่อรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ล่วงลับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเปิดเผยความจริงต่อสาธารณะ

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1952 ที่พระราชวังแซนดริงแฮม พระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งเป็นพระอัยกาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สิ้นพระชนม์อ