เมียนมาส่งเจ้าหน้าที่เยือนบังกลาเทศ เร่งเจรจาส่งโรฮีนจากลับประเทศ

เจ้าหน้าที่เมียนมาเดินทางถึงบังกลาเทศเมื่อวันอังคารเพื่อพบกับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา ในโครงการส่งตัวกลับประเทศที่หยุดชะงักมายาวนาน และกลับมาดำเนินการต่อเพราะได้รับการสนับสนุนจากจีน

ชาวโรฮีนจาจากค่ายต่างๆ ในบังกลาเทศ รอพบกับผู้แทนจากเมียนมาเพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการส่งตัวกลับประเทศ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม (Photo by Tanbir MIRAJ / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 31 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า บังกลาเทศเป็นบ้านของผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาราว 1 ล้านคน และส่วนใหญ่หนีจากการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยกองทัพเมียนมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การสอบสวนของสหประชาชาติว่าเข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติเหล่านี้อาศัยอยู่ในค่ายบรรเทาทุกข์ที่มีผู้คนหนาแน่น, เป็นอันตราย และขาดแคลนทรัพยากร โดยมีความพยายามหลายครั้งของหลายๆฝ่ายที่ยื่นมือช่วยเจรจาให้คนเหล่านี้ได้กลับบ้าน แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้งเนื่องจากไม่ได้รับความยินยอมจากเมียนมาและตัวผู้ลี้ภัยเอง

ล่าสุด เมียนมาส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงเมืองเทคนาฟซึ่งเป็นท่าเรือริมแม่น้ำตรงข้ามชายแดนของบังกลาเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา เพื่อพบปะกับครอบครัวชาวโรฮีนจาหลายสิบครอบครัว

"พวกเขาจะหารือเรื่องการส่งตัวชาวโรฮีนจากลับประเทศในวันนี้ พร้อมยืนยันตัวตนของแต่ละคน" ชัมซุด โดซา รองผู้บัญชาการผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศบอกกับเอเอฟพี

เจ้าหน้าที่บังกลาเทศกล่าวว่า เมียนมาวางแผนจะรับผู้ลี้ภัยราว 3,000 คนกลับภายในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องส่งตัวกลับประเทศ ที่มีจีนเป็นตัวกลางประสานตั้งแต่เดือนเมษายน

"เมียนมาพร้อมที่จะยอมรับพวกเขากลับ แต่ชาวโรฮีนจายังไม่พร้อมที่จะกลับไป และนั่นคือความท้าทาย" เจ้าหน้าที่รัฐบาลบังกลาเทศคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพี

ทั้งนี้ ผู้นำชุมชนโรฮีนจาเคยกล่าวไว้นานแล้วว่า พวกเขาจะกลับเมียนมาก็ต่อเมื่อพวกเขาได้รับสัญชาติและสามารถตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ในที่ดินของตนเอง

คิน หม่อง ผู้นำโรฮีนจาคนสำคัญ กล่าวกับเอเอฟพีว่า "เราต้องการกลับประเทศของเรา หากเมียนมาพาเรากลับไปยังบ้านเกิด, ให้เกียรติแก่เรา และปฏิบัติตามสิทธิทั้งหมดที่เราพึงมีพึงได้ แต่หากเราไม่ได้รับสิทธิเหล่านั้น ทุกอย่างก็คงไม่เปลี่ยนแปลง"

แม้จะมีรากฐานมาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมายาวนานหลายศตวรรษ แต่ชาวโรฮีนจาในเมียนมามักถูกตราหน้าว่าเป็นผู้บุกรุกจากบังกลาเทศ และถูกริบสัญชาติหลังจากที่เมียนมาหยุดรับรองความเป็นพลเมืองในปี 2558

แผนการส่งตัวกลับประเทศที่ตกลงกันไว้ในปี 2560 ไม่ประสบผลสำเร็จในการสร้างความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความกังวลว่าชาวโรฮีนจาจะไม่ปลอดภัยหากพวกเขาเดินทางกลับ

ความคืบหน้าหยุดชะงักโดยสิ้นเชิงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดและหลังจากการทำรัฐประหารในปี 2564.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ปานปรีย์’ ขีดเส้นชัดกองทัพทหารเมียนมาห้ามรุกล้ำอธิปไตยไทย

‘ปานปรีย์’ กำชับกองทัพทหารเมียนมา ห้ามรุกล้ำอธิปไตยและดินแดนไทย รวมทั้งห้ามมีลูกหลงการสู้รบมาฝั่งไทยด้วย เผย เตรียมประชุมวอร์รูมก่อนประชุม ครม. อังคารนี้ ก่อนนายกบินแม่สอด ติดตามสถานการณ์

'เศรษฐา' เตรียมต้อนรับนายกฯบังกลาเทศ เยือนไทยในฐานะแขกของรัฐบาล 24-29 เม.ย.นี้

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เชค ฮาซีนา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 24 - 29 เมษายน 2567

'อองซาน ซูจี' ย้ายจากเรือนจำมากักบริเวณในบ้าน เหตุเสี่ยงเป็นโรคลมแดด

เมียนมาตกอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารมาตั้งแต่ปี 2021 และอองซาน ซูจี-อดีตหัวหน้ารัฐบาล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสั