พิเนรา อดีตประธานาธิบดีชิลีวัย 74 ปี ถึงแก่อสัญกรรมจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

อดีตประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา ของชิลี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันอังคารจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

อดีตประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา ของชิลี (Photo by Ludovic MARIN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า เซบาสเตียน พิเนรา มหาเศรษฐีและอดีตประธานาธิบดี 2 สมัยของชิลี ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 74 ปี จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก

สำนักประธานาธิบดีชิลีกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องประกาศการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี"

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่ลาโกรันโกซึ่งเป็นเขตทะเลสาบห่างจากเมืองหลวงซานติอาโกไปทางใต้ราว 920 กิโลเมตร โดยบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ที่พิเนรามักใช้เวลาพักผ่อนร่วมกับลูกๆ และหลานๆ ของเขา

แม้ยังไม่มีรายงานเปิดเผยรายละเอียดของเหตุสลดดังกล่าวที่พรากชีวิตอดีตผู้นำชิลีไปในครานี้ แต่มีรายงานว่าในเฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุมีผู้รอดชีวิต 3 คน

พิเนราผู้ชื่นชอบการนำเฮลิคอปเตอร์ของตัวเองบินไปนู่นมานี่อยู่บ่อยๆ เคยเป็นทั้งอดีตผู้ถือหุ้นในสายการบินแห่งชาติของประเทศ, หุ้นสื่อโทรทัศน์, ฟุตบอล และธุรกิจอื่นๆ

พิเนรามีลูก 4 คนและหลาน 9 คน พร้อมทรัพย์สินในครอบครองราว 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 85,000 ล้านบาท) เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีติดต่อกันสองวาระระหว่างปี 2553-2557 และอีกครั้งระหว่างปี 2561-2565

ในระหว่างดำรงตำแหน่งผู้นำสมัยแรก เขาได้เป็นผู้นำความพยายามในการฟื้นฟูประเทศหลังแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2553 และดูแลการช่วยเหลือคนงานเหมือง 33 คนที่ติดอยู่ในทะเลทรายอาตากามาได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ในสมัยต่อมาเขาต้องเผชิญกับปัญหาหนักหน่วง เนื่องจากความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมทางสังคมที่หยั่งรากลึกของชิลี ลุกลามไปสู่การประท้วงที่เริ่มต้นหลังจากการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน

ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางเศรษฐกิจที่ดำเนินการด้านการดูแลสุขภาพ, การศึกษา และระบบบำนาญที่บริหารจัดการโดยเอกชน อันทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างคนรวยและคนจน

พิเนราล้มเหลวในการปราบปรามการประท้วงที่ลุกลามจนกลายเป็นความรุนแรงและการปล้นสะดม

การประท้วงรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้รัฐสภาเห็นพ้องที่จะจัดให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในยุคเผด็จการของประเทศ และพิเนราก็ล้มเหลวในการสนับสนุนและผลักดันวาระดังกล่าว

พิเนราต้องเผชิญกับความทุกข์ยากแสนสาหัสเมื่อมีการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา และนำมาซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ

ต่อมาเขามีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีแพนดอรา เปเปอร์ส (Pandora Papers) ซึ่งเป็นการเปิดโปงเอกสารลับทางการเงินที่ซุกซ่อนทรัพย์สินและการเลี่ยงภาษีของเหล่าผู้นำโลก โดยพิเนราถูกแฉว่ามีการเอื้อประโยชน์จากการขายเหมืองและการหลบเลี่ยงภาษี

ท้ายที่สุด พิเนราจบเส้นทางการทำงานในตำแหน่งผู้นำวาระที่สองด้วยคะแนนความนิยมที่ตกต่ำ ก่อนส่งมอบอำนาจแก่กาเบรียล บอริก ประธานาธิบดีชิลีคนปัจจุบัน.