เวียดนามประกาศภาวะฉุกเฉินรับมือภัยแล้งในบางพื้นที่

ประชาชนหลายพันคนในเวียดนามกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจืดอย่างรุนแรง เนื่องจากภัยแล้งและภาวะดินเค็ม ส่งผลให้ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์

(Photo by Nhac NGUYEN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 กล่าวว่า เวียดนามกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจืดอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ อันเนื่องมาจากภัยแล้งและภาวะดินเค็ม

คลื่นความร้อนที่กินเวลานานหลายสัปดาห์ได้ก่อให้เกิดภัยแล้งและน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของจังหวัดเตี่ยนยาง (Tien Giang) ซึ่งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางใต้ราว 60 กิโลเมตร โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเติ่นฝูตงซึ่งมีแนวชายฝั่งยาว 12 กิโลเมตรเลียบทะเลจีนใต้และมีทางน้ำตัดขวาง ได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นพิเศษ

การรุกล้ำของน้ำเค็มจากทะเลส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพืชผลและหลายพันครัวเรือนในหมู่ประชาชน 43,000 คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์

รายงานระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับการขอให้ขนส่งน้ำจืดไปยังบ่อและอ่างเก็บน้ำในเขตดังกล่าว เพื่อรักษาแหล่งน้ำจืดให้กับประชาชน

ในช่วงฤดูร้อนนี้ ความแห้งแล้งที่ยืดเยื้อยาวนานและการรุกล้ำของน้ำเค็มในแม่น้ำ 'Tien' ตอนบน ได้สร้างปัญหาให้กับชุมชนต่างๆ เพราะขาดแคลนน้ำจืดสำหรับบริโภคและทำการเกษตร

ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเผชิญกับการรุกล้ำของน้ำเค็มทุกปี แต่สภาพอากาศร้อนที่รุนแรงยิ่งขึ้นและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอันได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังเพิ่มความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำจืดในระยะยาว

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในเวียดนามเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงซึ่งเป็นแหล่งอาหารและวิถีชีวิตของผู้คนหลายสิบล้านคน ต้องเผชิญกับการสูญเสียพืชผลมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) เนื่องจากมีน้ำเค็มไหลซึมเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น

ผลการศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์ทรัพยากรน้ำ สังกัดกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเวียดนาม ระบุว่า พื้นที่ปลูกข้าวและสวนผลไม้ประมาณ 80,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 500,000 ไร่) อาจได้รับผลกระทบจากภาวะดินเค็มในอีกไม่ช้า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตราดแล้งหนัก พื้นที่ปลูกทุเรียน-มังคุด อ.เขาสมิง ขาดน้ำช่วงใกล้เก็บผลผลิต

สถานการณ์การขาดแคลนน้ำทั้งในคลองสาธารณะและอ่างน้ำส่วนตัวของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในอำเภอเขาสมิง จ.ตราด กำลังได้รับความเสียหายแล้ว เกษตรกรตื่นตัวหาน้ำสำรอง