กองเร็ยขึ้นฝั่งไต้หวัน ในฐานะไต้ฝุ่นลูกใหญ่สุดรอบหลายทศวรรษ

ไต้ฝุ่นกองเร็ยพัดถล่มไต้หวัน, ก่อให้เกิดคลื่นสูง 10 เมตร, น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ และผู้เสียชีวิต 1 ราย

ภาพสายไฟและเสาไฟฟ้าที่หักโค่นบนทางหลวงหมายเลข 9 ของเทศมณฑลฮวาเหลียน อันเนื่องมาจากกระแสลมแรงและฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นกองเร็ย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม (Photo by various sources / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 กล่าวว่า ไต้ฝุ่นกองเร็ยขึ้นฝั่งไต้หวัน และเริ่มสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ ทั้งคลื่นสูง 10 เมตร, น้ำท่วมฉับพลัน และรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันกล่าวว่า กองเร็ยพัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี โดยพายุลูกนี้มีรัศมี 320 กิโลเมตร ทำให้เป็นไต้ฝุ่นลูกใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ

ไต้หวันคุ้นเคยกับพายุโซนร้อนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม แต่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าเป็นเรื่องแปลกที่พายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงเช่นนี้จะพัดถล่มในช่วงปลายปี

เมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยธุรกิจและโรงเรียนทั่วไต้หวันหยุดทำการ เนื่องจากประชาชนต่างเตรียมพร้อมรับมือกับพายุ

เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารในเขตฮวาเหลียนกล่าวกับเอเอฟพีว่า ลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้จำนวนมากล้มทับรถยนต์และปิดกั้นเส้นทางถนน ทำให้ความพยายามในการตอบสนองล่าช้าลง

"เราได้รับรายงานภัยพิบัติจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากลมแรงและฝนตกหนัก เราจึงไม่สามารถจัดการได้" เจ้าหน้าที่กล่าว

มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 รายจากเหตุต้นไม้ล้มทับในเขตหนานโถวทางตอนกลาง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 205 คน

นอกจากนี้แรงลมและปริมาณฝนยังทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่ตาของพายุไต้ฝุ่นเคลื่อนผ่านเมืองเฉิงกงในเขตไถตง

หวัง หมิงจง หัวหน้าแผนกดับเพลิงของเขตไถตงกล่าวว่า มีน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในเมืองฮวาเหลียนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเริ่มมีการกู้ภัยและอพยพประชาชนแล้ว

ช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ฝนตกหนักกว่า 1 เมตรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดบางแห่งตามแนวชายฝั่งตะวันออก และเจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนมากกว่า 11,900 คนออกจากบ้านเรือนในเขตและเมืองที่เสี่ยงภัย เช่น อี้หลาน, ฮวาเหลียน และไถตง

เวลาต่อมาในช่วงค่ำ พยากรณ์อากาศระบุว่า พายุไต้ฝุ่นกองเร็ยได้อ่อนกำลังลงเป็น "ไต้ฝุ่นขนาดปานกลาง" ด้วยความเร็วลมเกือบ 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พัดผ่านภูเขาที่ทอดยาวลงสู่ใจกลางเกาะ และเคลื่อนตัวข้ามช่องแคบไต้หวัน

ถนนในไทเปส่วนใหญ่ร้างผู้คนเนื่องจากฝนตกหนักและลมกระโชกแรงพัดถล่มเมืองหลวงเช่นกัน

ทั่วทั้งเกาะ มีทหารเกือบ 35,000 นายที่เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์

สำนักงานดับเพลิงแห่งชาติระบุว่า มีรายงานดินโคลนถล่มอย่างน้อย 34 ครั้ง, อาคาร 162 หลังได้รับความเสียหาย และต้นไม้ล้ม 366 ต้น

เที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศมากกว่า 400 เที่ยวบินถูกยกเลิก ในขณะที่บริการเรือข้ามฟากทั้งหมดถูกระงับ และบ้านเรือนมากกว่า 250,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้

TSMC บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของไต้หวันกล่าวว่า ได้เริ่มใช้มาตรการเตรียมการเตือนภัยไต้ฝุ่นตามปกติในโรงงานผลิตชิปของตนแล้ว และคาดว่าจะไม่มีผลกระทบมากนักต่อการดำเนินงาน

ทั้งนี้ กองเร็ยเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 3 ที่พัดถล่มไต้หวันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

ในเดือนกรกฎาคม ไต้ฝุ่นแคมีเป็นพายุไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งไต้หวันในรอบ 8 ปี คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 10 ราย, บาดเจ็บหลายร้อยคน และทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในเมืองเกาสง

ต่อมาในช่วงต้นเดือนตุลาคม ไต้ฝุ่นกระท้อนก็พัดพาชีวิตของผู้คนไปอย่างน้อย 4 ราย และทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดโคลนถล่ม, น้ำท่วม และลมกระโชกแรงเป็นประวัติการณ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลัดเลาะ 4 แลนด์มาร์คดังแห่ง “หนานโถว” ไต้หวัน พร้อมพาไปเปิดประสบการณ์ งานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Sun Moon Lake 2024 Come! Bike Day

ภาคกลางของไต้หวันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น “หนานโถว”

'ดร.ธรณ์' ชี้อากาศแปรปรวนหนัก ภาคใต้ไม่มีพายุ แต่ปริมาณน้ำฝนเทียบเท่า 'ไต้ฝุ่น'

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โ

กรมอุตุฯ ออกประกาศ ฉ.1 พายุไต้ฝุ่น ‘หม่านหยี่’ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน

พายุไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อัปเดตพายุไต้ฝุ่น ‘หม่านหยี่’ เช้าตรู่ 18 พ.ย.เคลื่อนผ่านเกาะลูซอล ลงสู่ทะเลจีนใต้

คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะลูซอล ลงสู่ทะเลจีนใต้เช้าตรู่วันที่ 18 พ.ย.67 และเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าใกล้เกาะไหหลำ และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ