ไฟป่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของเกาหลีใต้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 24 ราย, สร้างความเสียหายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคุกคามพื้นที่มรดกโลก 2 แห่ง ขณะที่หลายจุดยังวิกฤต

ไฟป่าที่กำลังลุกลามข้างหลุมศพในเมืองอันดง ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม (Photo by YASUYOSHI CHIBA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 กล่าวว่า เกิดไฟป่าลุกลามมากกว่า 12 จุดในเกาหลีใต้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา, เผาผลาญพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นบริเวณกว้าง และทำให้ประชาชนราว 27,000 คนต้องอพยพอย่างเร่งด่วน โดยเปลวไฟได้ทำลายเส้นทางถนนและสายสื่อสาร
มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 24 รายจากเปลวไฟที่โหมกระหน่ำตามละแวกบ้านและเผาทำลายวัดโบราณแห่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานด้านความปลอดภัยเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า "มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 คน และข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นอีกทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต"
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นประชาชนในพื้นที่ แต่มีนักดับเพลิงเสียชีวิตอย่างน้อย 3 นาย และนักบินเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงเสียชีวิตจากเหตุเครื่องตกในพื้นที่ภูเขาด้วยเช่นกัน
กระทรวงมหาดไทยระบุว่า ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 17,398 เฮกตาร์ (ประมาณ 108,737.5 ไร่) โดยไฟป่าในเขตอึยซองเพียงแห่งเดียวมีสัดส่วน 87% ของพื้นที่ทั้งหมด
รัฐบาลได้ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด และได้ดำเนินการขั้นพิเศษด้วยการเคลื่อนย้ายนักโทษบางส่วนออกจากเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ฮัน ด็อกซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า "ไฟป่าลุกไหม้ต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน"
เขากล่าวในการประชุมฉุกเฉินด้านความปลอดภัยและภัยพิบัติว่า ไฟป่าลุกลามไปในลักษณะที่เกินกว่าแบบจำลองการคาดการณ์ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ
"ตลอดทั้งคืน ความโกลาหลยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากสายไฟฟ้าและการสื่อสารถูกตัดในหลายพื้นที่ และถนนถูกปิดกั้น" เขากล่าวเสริม
ในเมืองอันดง ผู้อพยพบางส่วนที่หลบภัยอยู่ในโรงยิมของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่าพวกเขาต้องหลบหนีอย่างโกลาหลจนไม่สามารถนำอะไรติดตัวไปด้วยได้เลย
ทางการได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ในการดับไฟ แต่ได้ระงับปฏิบัติการทั้งหมดดังกล่าวหลังจากเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งตกเมื่อวันพุธ ส่งผลให้มีนักบินบนเครื่องเสียชีวิต
ทางการกล่าวว่ารูปแบบลมที่เปลี่ยนไปและสภาพอากาศแห้งแล้งได้เผยให้เห็นข้อจำกัดของวิธีการดับเพลิงแบบเดิม
สถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก 2 แห่งซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ได้แก่ หมู่บ้านพื้นเมืองฮาฮเว และบย็องซานซอวอน ตกอยู่ในอันตราย
ทางการกล่าวเมื่อช่วงค่ำวันอังคารว่า ไฟป่าอยู่ห่างจากหมู่บ้านฮาฮเวเพียง 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีบ้านเรือนบางหลังมุงด้วยฟาง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังเตรียมพร้อมรับมือไฟที่อาจลุกลามไปยังบย็องซานซอวอนซึ่งเป็นอาคารเรียนเก่าแก่สไตล์พาวิลเลียนในบริเวณใกล้เคียง
ปีที่แล้วถือเป็นปีที่มีอากาศร้อนที่สุดของเกาหลีใต้เท่าที่เคยบันทึกมา โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีรายงานว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 14.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ย 30 ปีก่อนหน้าที่ 12.5 องศาเซลเซียส
เจ้าหน้าที่รายงานว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่ากำลังประสบกับสภาพอากาศแห้งแล้งผิดปกติโดยมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ภาคใต้เผชิญกับไฟป่าเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สภาพอากาศที่เลวร้ายบางประเภทมีความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจน เช่น คลื่นความร้อนหรือฝนตกหนัก
ปรากฏการณ์อื่นๆ เช่น ไฟป่า, ภัยแล้ง, พายุหิมะ และพายุโซนร้อน อาจเกิดจากปัจจัยที่ซับซ้อนหลายอย่างรวมกัน
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ในเขตอึยซองมีสาเหตุมาจากบุคคลที่ดูแลหลุมศพของครอบครัวทำให้เกิดไฟไหม้โดยไม่ได้ตั้งใจ.