กองทัพอินเดียกล่าวว่าพรมแดนระหว่างศัตรูตัวฉกาจอย่างปากีสถานกลับสู่สภาพปกติและมีคืนสงบครั้งแรกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากตกลงหยุดยิงแบบกะทันหันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ธงชาติอินเดียในเมืองจัมมูของดินแดนแคชเมียร์ที่เป็นข้อพิพาทกับปากีสถาน (Photo by Money SHARMA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า กรณีความขัดแย้งในดินแดนแคชเมียร์ระหว่างอินเดียและปากีสถานเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างคู่ขัดแย้งเมื่อสุดสัปดาห์ แม้ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายยังมีการละเมิดด้วยการโจมตีในบางพื้นที่
ข้อตกลงสงบศึกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธ, โดรน และกระสุนปืนใหญ่ระหว่างสองประเทศเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 60 ราย และทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพหนีตาย
นับเป็นความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ความขัดแย้งครั้งสุดท้ายระหว่างสองประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในปี 1999 และทำให้ทั่วโลกเกิดความหวาดกลัวว่าอาจลุกลามไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงนี้อย่างไม่คาดคิดผ่านโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม กองทัพอินเดียกล่าวว่า "ค่ำคืนที่ผ่านมากลับสู่สภาพปกติเป็นส่วนใหญ่ในแคชเมียร์และพื้นที่อื่นๆ ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศ รวมทั้งไม่มีรายงานเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น ถือเป็นคืนแรกที่มีความสงบสุขในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา"
นอกจากนี้ ยังเป็นคืนที่สองติดต่อกันที่ไม่มีการยิงกระสุนปืนกลหรือปืนใหญ่ใส่เมืองพูนช์ (Poonch) เมืองชายแดนในพื้นที่แคชเมียร์ที่ถูกแบ่งแยกและปกครองโดยอินเดีย
พูนช์เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากความขัดแย้งล่าสุด โดยมีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และประชาชนประมาณ 60,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ในวันอาทิตย์ ผู้คนเริ่มทยอยกลับเข้าเมือง แม้ว่าหลายคนยังคงกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงจะไม่มีผลบังคับในทางปฏิบัติ
ทั้งนี้ ความขัดแย้งแบบเต็มรูปแบบเริ่มรุนแรงขึ้นก่อนรุ่งสางของวันพุธ เมื่ออินเดียยิงขีปนาวุธทำลายสิ่งที่เรียกว่า "ค่ายก่อการร้าย" ในพื้นที่แคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการโจมตีนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ฝั่งที่อินเดียปกครองเมื่อวันที่ 22 เมษายน ซึ่งทำให้พลเรือนเสียชีวิต 26 ราย
อินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานสนับสนุนการโจมตีครั้งนี้ แต่รัฐบาลอิสลามาบัดปฏิเสธความเกี่ยวข้องและตอบโต้การโจมตีดังกล่าวทันทีด้วยการยิงกระสุนปืนใหญ่ข้ามพรมแดน
ทางการปากีสถานอ้างว่าสามารถยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียตกได้ 5 ลำ แต่รัฐบาลนิวเดลีไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
กลุ่มก่อการร้ายได้เพิ่มปฏิบัติการในแคชเมียร์ตั้งแต่ปี 2019 เมื่อรัฐบาลอินเดียชาตินิยมฮินดูของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เพิกถอนอำนาจปกครองตนเองที่จำกัดของภูมิภาคนี้และยึดครองภายใต้การปกครองโดยตรงจากรัฐบาลนิวเดลี
ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์ในแคชเมียร์ซึ่งมีชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ โดยทั้งสองประเทศได้ทำสงครามหลายครั้งเพื่อแย่งชิงดินแดนนี้มาตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947
มีรายงานว่าผู้นำกองทัพอินเดียและปากีสถานจะต่อสายคุยกันเพื่อหารืออย่างเป็นทางการภายหลังการหยุดยิง
ล่าสุด อินเดียได้เปิดสนามบิน 32 แห่งอีกครั้ง หลังจากปิดทำการเพื่อความปลอดภัยในช่วงขัดแย้ง.