วิศวกรรถไฟที่แสวงหาค่าจ้างที่สูงขึ้นได้นัดหยุดงานประท้วงที่นิวเจอร์ซีย์ ส่งผลให้ผู้เดินทางในเขตนิวยอร์กซึ่งเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ประสบความทุกข์ยากในการสัญจร

สมาชิกสหภาพ 'Brotherhood of Locomotive Engineers and Trainmen (BLET)' รวมตัวประท้วงหยุดงานใกล้สถานีโฮโบเกนในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ส่งผลให้บริการรถไฟของทั้งรัฐหยุดชะงัก (Photo by Leonardo Munoz / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า เกิดการประท้วงหยุดงานของวิศวกรรถไฟที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ส่งผลให้ผู้เดินทางในนิวยอร์กซึ่งอยู่ติดกันและเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ประสบความลำบากในการสัญจร
การหยุดงานประท้วงครั้งแรกของรัฐดังกล่าวในรอบหลายทศวรรษเริ่มขึ้นหนึ่งนาทีหลังเที่ยงคืน เมื่อการเจรจาสัญญาล้มเหลวระหว่างสหภาพแรงงานและบริษัทผู้ให้บริการรถไฟ ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากมาปรากฏตัวที่สถานีต่างๆโดยไม่รู้ว่ารถไฟหยุดบริการ
ผู้โดยสารพยายามหาทางเลือกอื่นเพื่อข้ามแม่น้ำฮัดสันไปยังนิวยอร์ก โดยมองหาบริการ Uber หรือ Amtrak ซึ่งเป็นระบบรถไฟแห่งชาติ
NJ Transit ระบบขนส่งสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐฯ กล่าวว่ามีลูกค้า 350,000 คนใช้บริการของบริษัททุกวัน
สมาชิกสหภาพ 'Brotherhood of Locomotive Engineers and Trainmen (BLET)' มารวมตัวประท้วงนอกสถานีรถไฟขณะเริ่มการหยุดงาน
หลายคนชูป้ายกล่าวหาผู้บริหารของ NJ Transit ว่าให้สิทธิพิเศษราคาแพงแก่ตนเอง ขณะที่พนักงานขับรถไฟได้รับค่าจ้างต่ำกว่าเพื่อนร่วมงานในพื้นที่อื่นๆ ของอเมริกา
สหภาพแรงงานกล่าวว่าได้ติดอยู่ในข้อพิพาทกับ NJ Transit มาเป็นเวลานานหลายปี โดยสมาชิกไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว
สหภาพแรงงานกำลังแสวงหาสัญญาใหม่สำหรับวิศวกรประมาณ 450 คน โดยต้องการรับค่าจ้างรายชั่วโมงในจำนวนเท่ากับระบบขนส่งมวลชน 'Long Island Rail Road' ที่อยู่ใกล้เคียง
"NJ Transit ผลาญเงิน 500 ล้านดอลลาร์สำหรับสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่หรูหรา พวกเขามีเงินสำหรับวิวเพนท์เฮาส์และโปรเจ็กต์ที่ชื่นชอบ เพียงแต่ไม่มีเงินสำหรับพนักงานแนวหน้าของพวกเขา พอกันที!" มาร์ก วอลเลซ ประธานสหภาพ BLET กล่าวในแถลงการณ์
การเจรจาสัญญารอบใหม่จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันอาทิตย์
เจ้าหน้าที่ของ NJ Transit กล่าวว่าการขึ้นค่าจ้างที่สหภาพแรงงานร้องขอจะทำให้บริษัทและผู้เสียภาษีต้องสูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์
คาดว่าการประท้วงหยุดงานจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางประจำวันของผู้โดยสารประมาณ 70,000 คนไปยังนิวยอร์ก ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสารอีกหลายพันคนในเครือข่ายอันกว้างขวางของเส้นทางรถไฟอีกด้วย
ทั้งนี้ การประท้วงหยุดงานครั้งสุดท้ายของระบบขนส่งทางรางทั่วทั้งรัฐเกิดขึ้นในปี 1983 และกินเวลานานถึง 34 วัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อาฒยา-ปภังกร'นำสาวไทยลุย 'ช้อปไรท์ แอลพีจีเอ คลาสสิก' ที่นิวเจอร์ซีย์
"จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล - "แพตตี้" ปภังกร ธวัชธนกิจ พร้อมสาวไทยอีก 5 คน ได้แก่ "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ "แจน" วิชาณี มีชัย "แหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ "ว่าน" จารวี บุญจันทร์ และ "ซิม" ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ร่วมแข่งขันล่าแชมป์ ช้อปไรท์ แอลพีจีเอ คลาสสิก พรีเซ็นเต็ด บาย เอเซอร์ ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สัปดาห์นี้ชิงเงินรางวัลกว่า 57.5 ล้านบาท มียอดโปรสาวระดับโลกประชันวงสวิงกันอย่างคับคั่ง
'อาฒยา'พร้อม8สาวไทย ร่วมล่าแชมป์ 'มิซูโฮ อเมริกา โอเพ่น'ที่นิวเจอร์ซีย์
"จีโน่" อาฒยา ฐิติกุล มืออันดับ 2 ของโลก กลับมาร่วมแข่งขันแอลพีจีเอ ทัวร์ ล่าแชมป์ “มิซูโฮ อเมริกา โอเพ่น” ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สัปดาห์นี้ พร้อมกับ 8 สาวไทย ประชันกับยอดนักกอล์ฟระดับโลกอีกมากมาย รวมทั้ง เนลลี คอร์ดา มือ 1 ของโลกลงป้องกันแชมป์ของเธอ
'วราวุธ' สรุปผล ร่วมประชุม กมธ.ว่าด้วยสถานภาพสตรี ที่ UN แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หลายประเทศชื่นชม พม.-ขอนำตัวอย่างไปขยายผล
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีสมัยที่ 69 (Commission on the Status of Women) หรือการประชุม CSW 69 ซึ่งปี 2568 เป็นวาระครบรอบ 30 ปี ปฏิญญาปักกิ่ง ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ฆาตกรรมในนิวยอร์ก – ตำรวจพบร่องรอยของผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุ
ในระหว่างการสอบสวนคดีฆาตกรรม ไบรอัน ทอมป์สัน ซีอีโอบริษัทประกันสหรัฐฯ ในนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ค้นพบร่องรอยในที่เกิดเหตุ
มือมีดโจมตีนิวยอร์ก เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
ในนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ ชายคนหนึ่งใช้มีดทำร้ายผู้คนตามสถานที่ต่างๆ ถึงสามแห่งในเมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อ
'มาริษ' พบ 'ไบเดน' ย้ำสัมพันธ์ไทย-สหรัฐแน่นแฟ้น
'มาริษ' พบ 'ไบเดน' ย้ำความสัมพันธ์ 2 ประเทศ ยืนยันไทยพร้อมทำงานร่วมกับสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมขอบคุณต้อนรับอบอุ่น