อาเซียนรวมตัวหารือภาษีทรัมป์-ความสงบเมียนมา-สมาชิกภาพติมอร์ตะวันออก

ผู้นำอาเซียนมารวมตัวกันที่กัวลาลัมเปอร์ในการประชุมสุดยอดครั้งแรกนับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์กำหนดกำแพงภาษีศุลกากร รวมทั้งหารือเรื่องการสงบศึกในเมียนมาและการแก้ไขข้อจำกัดต่อสมาชิกภาพของติมอร์ตะวันออก

(จากซ้ายไปขวา) นายกรัฐมนตรีสอนไซ สีพันดอน ของลาว, อ่อง จอ โม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา, นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์, นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ของไทย, นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนาม, นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย, ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์, สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน, นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา, ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมา ของติมอร์ตะวันออก ถ่ายรูปร่วมกันระหว่างการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม (Photo by Jam STA ROSA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า บรรดาผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีประเด็นหารือหลักเรื่องนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกา, การสงบศึกและสันติภาพในเมียนมา และสมาชิกภาพของติมอร์ตะวันออก

ในประเด็นการค้าโลกที่ถูกเขย่าโดยนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาเซียนจะมุ่งเป้าในการสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่หลากหลายเพื่อรับมือ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนเดินทางมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์หนึ่งวันก่อนการประชุมกับกลุ่มประเทศอาเซียนและรัฐอ่าวเปอร์เซีย

"การเปลี่ยนแปลงของระเบียบภูมิรัฐศาสตร์กำลังดำเนินไป และระบบการค้าโลกกำลังอยู่ภายใต้ความตึงเครียดมากขึ้นจากการกำหนดภาษีศุลกากรฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานนี้ ลัทธิคุ้มครองการค้ากำลังกลับมามีขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เราได้เห็นลัทธิพหุภาคีกำลังแตกสลาย" ตามคำกล่าวเปิดการประชุมของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย

ทรัมป์ทำให้ตลาดต่างประเทศปั่นป่วนในเดือนเมษายน เมื่อเขาประกาศภาษีศุลกากรในวงกว้าง ก่อนระงับการเรียกเก็บภาษีเหล่านี้สำหรับประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน

"แม้การเจรจาทวิภาคีระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐบาลวอชิงตันกำลังดำเนินไป แต่กลุ่มประเทศอาเซียนยังคงมีความเป็นแนวร่วมหนึ่งเดียว" ตามคำประกาศของมาเลเซียซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนแบบหมุนเวียนในปีนี้

ตามร่างแถลงการณ์ อาเซียนจะประกาศความกังวลอย่างยิ่งต่อการกำหนดมาตรการภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว โดยระบุว่ามาตรการเหล่านี้สร้างความท้าทายที่ซับซ้อนในหลากหลายมิติต่อกลุ่มอาเซียน

อย่างไรก็ตาม อาเซียนระบุว่าในปีนี้จะไม่มีการกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้ต่อสหรัฐฯ แต่จะพิจารณาขยายขอบเขตกับกลุ่มการค้าอื่นๆ เช่น สหภาพยุโรป รวมถึงเพิ่มการค้าระหว่างประเทศสมาชิก

ขณะที่การหารือกับนายกรัฐมนตรีจีนและคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับซึ่งประกอบด้วยบาห์เรน, คูเวต, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีการเน้นย้ำถึงความพยายามในการรักษาเครือข่ายพันธมิตรการค้าที่กว้างขวาง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าอาเซียนพยายามมีส่วนร่วมเชิงยุทธศาสตร์กับกลุ่มต่างๆ หรือที่เรียกว่าการทูตหลายฝ่าย

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า เขาได้เขียนจดหมายถึงทรัมป์เพื่อขอให้มีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาเซียนปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของความเป็นศูนย์กลางอย่างจริงจัง แต่สหรัฐฯ ยังไม่ได้ตอบสนองใดๆ

นักวิเคราะห์ระบุว่า ภาษีศุลกากรของทรัมป์ได้กดดันประเทศสมาชิกอาเซียนจนไม่สามารถอยู่เฉยๆ รอให้มหาอำนาจอื่นๆ กำหนดวาระการประชุมระดับโลกได้

มาเลเซียพยายามเพิ่มแรงกดดันต่อคณะรัฐประหารของเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกแต่ผู้นำรัฐบาลทหารถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าในข้อตกลงสันติภาพหรือฉันทามติ 5 ประการที่กลุ่มประเทศดังกล่าวตกลงกันและเมียนมาลงนามเมื่อสี่ปีก่อน

แม้ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่อาเซียนยังคงใช้ความพยายามทางการทูตเพื่อยุติความขัดแย้งดังกล่าวที่เริ่มต้นจากการที่คณะรัฐประหารโค่นอำนาจอองซานซูจี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021

มาเลเซียเรียกร้องให้เมียนมาขยายเวลาหยุดยิงที่ประกาศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เพราะการสู้รบที่ยังคงดำเนินต่อไปจะขัดขวางกระบวนการทางมนุษยธรรมและการฟื้นฟูประเทศ

ขณะเดียวกัน อาเซียนกำลังพิจารณาเพิ่มประเทศสมาชิกลำดับที่ 11 ก่อนสิ้นปีนี้

ติมอร์ตะวันออกซึ่งเป็นประเทศก่อตั้งใหม่ในเอเชีย มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการดำเนินการตามแผนงานและได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากประทศสมาชิกเดิม จึงคาดว่าประเทศน้องใหม่แห่งนี้อาจเข้าร่วมกลุ่มได้ภายในการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปในเดือนตุลาคม

หลังจากพบปะกับบรรดาผู้นำอาเซียน นายกรัฐมนตรีติมอร์ตะวันออกกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเชื่อว่าประเทศของเขาจะกลายเป็นสมาชิกเต็มตัวได้ในปีนี้ เพราะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แม้ว่ายังต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่เหลืออยู่บางประการก็ตาม.

เพิ่มเพื่อน