อินเดียฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทะลุ 1,000 ล้านโดสแล้ว

รัฐบาลอินเดียฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ผู้คนในประเทศทะลุ 1,000 ล้านโดสแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีจีนเพียงประเทศที่ฉีดได้มากกว่า ที่ 2,300 ล้านโดส

เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2564 ว่าหลังจากที่โครงการฉีดวัคซีนของอินเดียเริ่มต้นได้ล่าช้าเมื่อกลางเดือนมกราคม จนถึงขณะนี้รัฐบาลอินเดียประกาศว่า มีวัคซีนโควิด-19 ถูกฉีดไปแล้ว 1,000 ล้านโดสในอินเดีย โดยมีประชากรวัยผู้ใหญ่ 2 ใน 3 ของ 944 ล้านคนได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว และมี 31% ที่ฉีดครบ 2 โดส ขณะนี้อินเดียมีอัตราเฉลี่ยการฉีดวัคซีนตกวันละ 8 ล้านโดส

รัฐบาลตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ครบทุกคนภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม อินเดียยังมีประชากรวัยเยาว์ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีอีกหลายร้อยล้านคน หรือราว 40% ของประชากร 1,300 ล้านคน ที่ยังไม่ได้ฉีดแม้แต่เข็มเดียว

จากทั่วโลก มีจีนเพียงประเทศเดียวที่ฉีดวัคซีนมากกว่า โดยรัฐบาลจีนประกาศว่าฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 2,300 ล้านโดส

วัคซีนที่ฉีดในอินเดียเกือบ 90% มาจากสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (เอสไอไอ) ซึ่งผลิตวัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า เอสไอไอเพิ่มศักยภาพในการผลิตมากกว่า 3 เท่านับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเอสไอไอค่อยๆ เริ่มกลับมาส่งออกวัคซีนครั้งแรกหลังจากรัฐบาลสั่งหยุดส่งออกเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในประเทศก่อน และตอนนี้ผลิตวัคซีนได้เดือนละมากกว่า 220 ล้านโดส

ถึงขณะนี้อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสม 34.1 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 452,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงการระบาดระลอกที่ 2 จากสายพันธุ์เดลตาช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละมากกว่า 400,000 ราย และเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 4,000 ราย ทำให้โรงพยาบาลจำนวนมากไม่สามารถรับมือได้และสถานที่เผาศพจัดการศพไม่ทัน แต่ตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงแล้วเหลือเฉลี่ยวันละไม่ถึง 20,000 คน และกิจกรรมโดยส่วนใหญ่กลับสู่ภาวะปกติแล้ว.