ศาลอินเดียพิพากษาประหารชีวิตจำเลย 38 คน และจำคุกตลอดชีวิต 11 คน ฐานเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดในเมืองอาห์เมดาบาด รัฐคุชราต เมื่อปี 2551 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 56 คน
รายงานของเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 กล่าวว่า การวางระเบิดโจมตีราว 20 ลูกในเวลาไล่เลี่ยกันภายใน 1 ชั่วโมง ในย่านที่อยู่อาศัย, ตลาด, ระบบขนส่งสาธารณะและโรงพยาบาล ในเมืองอาห์เมดาบาด รัฐคุชราต ทางภาคใต้ของอินเดีย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 56 คน และบาดเจ็บมากกว่า 200 คน กลุ่มอิสลามิสต์ชื่อมูจาฮีดินอินเดียประกาศว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยอ้างว่าเพื่อล้างแค้นเหตุการณ์จลาจลทางศาสนาระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมในรัฐนี้เมื่อปี 2545 ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตราว 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
อามิต พาเทล อัยการ เปิดเผยว่า ผู้พิพากษา เอ อาร์ พาเทล แห่งศาลพิเศษ ตัดสินว่าจำเลย 49 คนมีความผิดในคดีนี้ โดยตัดสินประหารชีวิต 38 คน อีก 11 คนพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ในความผิดฐานฆ่าคนตายและสมคบคิดก่ออาชญากรรม
เหตุการณ์นี้มีผู้ต้องหา 77 คน ซึ่งทั้งหมดถูกคุมขังมานานหลายปี ยกเว้น 1 คนที่ได้รับการประกันตัวเนื่องจากเป็นผู้ป่วยจิตเภท โดยมี 28 คนที่ศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด
การพิจารณาคดีนี้ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากระบบกฎหมายที่ซับซ้อนวกวนของอินเดีย โดยมีพยานถูกเรียกให้การ 1,100 ปาก และยังมีความล่าช้าจากการต่อสู้ทางกฎหมายซ้อน รวมถึงจำเลย 4 คนถอนคำรับสารภาพ
เมื่อปี 2556 ตำรวจเคยขัดขวางความพยายามของจำเลยมากกว่า 12 คนในคดีนี้ที่พยายามขุดอุโมงค์หนีออกจากเรือนจำ โดยใช้ถาดอาหารเป็นเครื่องมือ
ข้อมูลจากกลุ่ม โปรเจ็กต์ 39 เอ ที่รณรงค์ปฏิรูปกฎหมาย เผยว่า อินเดียมีนักโทษเด็ดขาดรอการประหารชีวิต 488 คน ถึงปี 2564
อินเดียประหารชีวิตนักโทษครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2563 โดยเป็นการแขวนคอชาย 4 คนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีรุมโทรมและฆาตกรรมนักศึกษาหญิงบนรถบัสโดยสารในกรุงเดลี ปี 2555.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัมผัสสถานที่จริง'สังเวชนียสถาน' ต่อยอดงานศาสนา
พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้เดินทางไปสัมผัสสถานที่จริงที่สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ซึ่งเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ 4 แห่ง สถานที่ประสูตร สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน ในประเทศอินเดียและเนปาลอีกครั้งจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
วันสุดท้าย! คนนับแสนหลั่งไหลกราบสักการะ 'พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุ'
ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ บรรยากาศในการเข้ากราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากประเทศอินเดีย
'พระบรมสารีริกธาตุ-พระอรหันตธาตุ' ถึงเชียงใหม่ เปิดสักการะ 5-8 มี.ค.
พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากอินเดีย ถึงเชียงใหม่ เปิดให้ ปชช. สักการะ 5 - 8 มี.ค. ณ หอคำหลวง
ในหลวง ทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย พระราชทานไฟ ณ 4 มณฑป ถวายเป็นพุทธบูชา
ในหลวงทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย พระราชทานไฟ ณ 4 มณฑป ถวายเป็นพุทธบูชา พสกนิกรเนืองแน่นเฝ้าฯ รับเสด็จ
รัฐบาล เชิญชวนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุจากอินเดีย 22 ก.พ.-19 มี.ค.นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะจากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย โ