อาเซียนประณามเมียนมาโจมตีทางอากาศ

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ประณามอย่างรุนแรงจากกรณีการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมาที่ภาคสะกายเมื่อวันอังคาร ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 100 ศพ

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า อินโดนีเซียที่เป็นประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในปีนี้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2566 ต่อกรณีการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมาที่ภาคสะกายทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กำลังกับพลเรือน

แถลงการณ์ของประธานอาเซียนระบุว่า นี่จะเป็นวิธีเดียวในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจรจาระดับชาติที่ครอบคลุมเพื่อหาทางออกอย่างสันติอย่างยั่งยืนในเมียนมา

สำหรับแถลงการณ์ของประธานอาเซียนไม่จำเป็นต้องได้รับการเห็นพ้องจากชาติสมาชิกทุกชาติของอาเซียน

ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศโดยใช้เครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์ถล่มหมู่บ้านชนบทห่างไกลแห่งหนึ่งในเมืองกันบาลู ภาคสะกายเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา แต่จากรายงานของบีบีซี, สำนักข่าวอิรวดีและสถานีวิทยุเอเชียเสรีระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 ศพ

รัฐบาลทหารเมียนมาแถลงยืนยันเมื่อวันพุธว่า ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างจำกัดที่หมู่บ้านแห่งนั้น หลังได้รับแจ้งจากสายที่เป็นชาวบ้านว่าจะมีพิธีเปิดสำนักงานของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) ในพื้นที่นี้ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา

อินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียนประจำปีในเดือนพฤษภาคมและกันยายน

เรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อินโดนีเซียกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้มีการปฏิบัติตาม “ฉันทามติ 5 ข้อ” ที่อาเซียนตกลงกับรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อเดือนเมษายน 2564 ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงและเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารกับฝ่ายต่อต้าน

แต่จนถึงขณะนี้ฉันทามติ 5 ข้อดังกล่าว หรือแผนสันติภาพกับวิกฤตในเมียนมา รัฐบาลทหารเมียนมาเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามฉันทามติส่วนใหญ่ที่ตกลงไว้กับอาเซียน และความพยายามของหลายชาติในอาเซียนที่จะเป็นคนกลางแก้ไขวิกฤตเมียนมาก็ยังคงล้มเหลว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมช.' แจงไทยมี 3 จุดยืนในสถานการณ์เมียนมา

'สมช.' เข้าแจง 'กมธ.มั่นคงฯ' เพื่อรายงานการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ย้ำ 3 จุดยืน รักษาอธิปไตยไทย-ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดน-ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรมสากล

'ทบ.' เปิดแผนรับมือ สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา

รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เปิดเผยแนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา กรณีการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย

เตือนแรงงาน 3 สัญชาติ MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับปท. ภายใน 30 เม.ย. นี้

‘คารม’ เตือนแรงงาน MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางภายใน 30 เม.ย นี้ แนะนายจ้าง/ผู้ประกอบการยื่นคำร้อง นจ. 2 ล่วงหน้า หากประสงค์จะนำแรงงานกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด 23 เม.ย. เกาะติดสถานการณ์สู้รบในเมียนมา

‘สุทิน’ เผยสถานการณ์สู้รบเมียนมาเข้มข้นขึ้น คนหนีภัยมาไทย ยอมรับกระทบเราแต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ขอสบายใจกองทัพปกป้องอธิไตย-ดูแลประชาชนเต็มที่

'เศรษฐา' เตรียมบินไปแม่สอด 23 เม.ย. หลังปะทะเดือดใกล้ชายแดนเมียนมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน x ว่า “จากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมา

นายกฯเศรษฐา กังวลสถานการณ์สู้รบในเมียนมา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใช้เวลาช่วงวันหยุดติดตามงาน รวมถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมทวิตข้อความผ่าน x ว่า “ผมติดตาม