เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในการดำเนินไปของทุกชีวิตย่อมมีจุดมุ่งหมายคือความสำเร็จตามความประสงค์ คือ.. ความสุขที่ทุกชีวิตต้องการ
ความสุข.. คือ ยอดปรารถนาของสัตว์โลก.. ดังที่ทุกชีวิตเวียนว่ายอยู่ในสายธารของโลกียวิสัย ก็เพราะต้องการแสวงหาคือความสุข.. ที่ตนต้องการ..
ความต้องการ.. กับ.. ความสุข จึงเป็นสองคำที่สัมพันธ์กันในชีวิตของสัตว์โลก.. จนยากที่แยกออกจากกันโดยจิตใจของสัตว์ทั้งหลาย
จึงนำไปสู่ความสำคัญผิดในความสุข.. ด้วยเพราะมีความต้องการกำบังอยู่.. ในจิตใจของสัตว์ทั้งหลาย
ความต้องการ.. จึงปลุกเร้าให้จิตใจทะยานอยาก เพื่อเข้าไปยึดเหนี่ยวยึดถือ กระทำให้ได้มาซึ่งความต้องการนั้น.. จนลืมใส่ใจในความหมายและคุณค่าของสิ่งนั้นๆ ว่าแท้จริง ได้ตอบสนองความต้องการในการให้ค่าความสุขแท้จริงหรือไม่..
จนที่สุด.. แห่งชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ทั้งๆ ที่ปรารถนาให้ได้มาซึ่งความสุข.. แต่กลับไม่รู้จักความสุขที่แท้จริง.. ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร...
ตั้งแต่อดีตกาล.. มาจนถึงปัจจุบัน.. จึงเห็นวิสัยสัตว์โลกไม่เคยเปลี่ยนแปลงกับพฤติกรรมไล่ล่าแสวงหาซึ่งความสุข.. แต่ไม่รู้จักความสุขแท้จริงโดยธรรม..
การไม่รู้จักความสุข.. การไม่รู้จักธรรมของความสุข.. จึงทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลในสังคมสัตว์โลกทุกยุคทุกสมัย...
ดังที่เคยเกิด “กาลโกลาหลขึ้น” ที่เรียกว่า มังคะละโกลาหล ยาวนานถึง ๑๒ ปี ในสมัยพระพุทธเจ้าของเรายังมีพระชนม์อยู่ ซึ่งคำว่า โกลาหล แปลว่า ความแตกตื่น... ตั้งแต่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน และดูเหมือนว่าน่าจะเป็นความแตกตื่นของเทวดามากกว่า.. เช่น ในเรื่องกัปปโกลาหล.. ที่แตกตื่นว่า อีกแสนปี โลกธาตุและจักรวาลจะสิ้นแล้ว
จักกวัตติโกลาหล แตกตื่นว่าอีกร้อยปี พระเจ้าจักรพรรดิจะประสูติ
พุทธะโกลาหล แตกตื่นว่าอีกพันปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก
มังคะละโกลาหล แตกตื่นว่าอีก ๑๒ ปี พระพุทธเจ้าจะตรัสบอกมงคลตามเวลาของหมู่เทพยดาทั้งหลาย
และ.. โมเนยยะโกลาหล แตกตื่นว่าอีก ๗ ปี พระพุทธเจ้าจะตรัสบอกโมเนยยะปฏิบัติ
ความโกลาหล ความแตกตื่น ความวุ่นวาย .. เป็นไปตามวิสัยสัตว์โลกที่มุ่งแสวงหาอำนาจภายนอก.. จนลืมการแสวงหาภายใน.. คือ การสร้างสติปัญญาให้เกิดขึ้น เพื่อการนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในธรรม.. จะได้ทราบชัดรู้จริงว่า.. แท้จริงของสิ่งประสงค์ที่เรียกว่าความสุข หน้าตาผิวพรรณรูปร่าง รส กลิ่น สภาวธรรม.. เป็นอย่างไร... ก่อนที่จะถูกความอยาก.. ความต้องการปิดบังจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงความหมายและคุณค่าของความสุข.. ไป อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ความไม่รู้เนื้อรู้ตัว .. ฟังๆ ดูเขาพูดกันมานาน เสมือนเป็นภาษาชาวบ้านย่านตลาด.. แต่เมื่อนำมาพิจารณาให้ละเอียด กลับพบว่า.. เป็นคำที่แสดงความหมายธรรมขั้นปรมัตถ์แท้จริง...
ด้วยเพราะความไม่รู้เนื้อรู้ตัวเอง.. นี่แหละ.. จึงนำไปสู่ความวุ่นวาย ความแตกตื่น ความโกลาหลในโลกนี้.. ที่รกรุงรังเกลื่อนกลาดไปด้วยความรัก.. ความชัง..
พระพุทธศาสนา.. จึงแสดงธรรมปฏิบัติข้อเดียว คือ “การเจริญสติ” เพื่อแก้โรคไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว.. จนดำเนินไปเพื่อแสวงหาความสุข.. ด้วยความอยาก.. จนยากพบความสุขแท้จริง.. ด้วยความอยากที่เกิดมาปรากฏบดบัง กลายเป็นความวิปลาสแห่งจิต.. ที่นึกคิดจำหมายและมีความเห็นผิดเพี้ยนไปจากธรรม...
ฉะนั้น.. ในยามที่เกิดภาวะโกลาหลของชาวโลกดังสมัยโรคันตภัยไวรัสโควิด-๑๙.. จึงควรระวังความอยากที่มีมูลเหตุมาจากความกลัวโทษ ทุกข์ ภัย อันเป็นเรื่องเดียวกับความอยาก.. ความต้องการให้ได้มาซึ่งความสุข.. เพราะจะทำให้จิตเสื่อม.. ขาดสติปัญญา.. จนสูญเสียคุณค่าของฐานะความเป็นสัตว์มนุษย์ที่ได้มาจากกรรมเก่า..
พูดถึงเรื่องฉีดวัคซีนหลากหลายนี้บ้าง.. ในตลาดโลก.. ก็น่าคิด...
แรกๆ.. ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเชื่อจรรยาบรรณของการสาธารณสุข.. ว่า ต้องให้คุณค่าของชีวิตมากกว่าอื่นใด..
การสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับมูลฐานคุณภาพชีวิตของประชาสัตว์.. จึงเป็นเรื่อง คุณธรรม ที่ต้องตราไว้เป็นจรรยาบรรณของงานสาธารณสุข..
แต่เมื่อติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุวิกฤตการณ์มิจบสิ้น.. กลับเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า.. มันเป็นเรื่องการสาธารณสุข.. หรือการธุรกิจชีวิตของมนุษยชาติ.. กันแน่..
โดยเฉพาะความโกลาหล ความวุ่นวาย.. ความแตกตื่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นระยะๆ .. ที่สอดคล้องกับการผลิตสินค้าประเภทวัคซีน ซึ่งเป็นยาป้องกันโรคไวรัสโควิดระบาดชนิดนี้ออกมาสู่ตลาดชีวิตของมนุษยชาติเป็นระยะๆ เช่นเดียวกัน
จนถึงวันนี้.. ประชาคมโลกยังไม่มีหลักประกันสุขภาพชีวิตที่ปลอดภัยจากโรคไวรัสชนิดนี้เลย.. และที่กำลังแปรสู่ไวรัสชนิดต่างๆ อย่างรวดเร็ว...
แต่ที่แน่ๆ .. ความหายนะได้เกิดขึ้นแล้วจริงในโลกใบนี้ ที่สัตว์โลกพากันโกลาหล วุ่นวาย แตกตื่น จนเสียสติ ขาดปัญญา.. พลุ่งพล่านไปด้วยความต้องการ.. และความอยาก.. ที่มุ่งแสวงหาความสุข.. ตามคติของตนเอง...
การขาดสติ.. จึงยากที่จะนำไปสู่การพัฒนาจิตใจให้เกิดปัญญา.. เพื่อรู้เท่าทันในการถูกกระแสของโลกที่ไหลวนเวียนกันไปในอ่างอาสวะใบนี้...
การขาดสติ.. จึงเป็นสัญญาณหายนะของประชาสัตว์ในสังคมโลก.. ที่กำลังแตกตื่น โกลาหล วุ่นวาย เมื่อโลกเต็มไปด้วย โรคันตภัย.. ทุพภิกขภัย.. อมนุสสภัย..
เป็นกาลโกลาหล.. อันเกิดจากภัยในธรรมชาติ.. ที่มีสัตว์โลกเป็นผู้ก่อเหตุ.. จึงต้องรับผลจากภัยนั้นๆ.. หนักเบาว่ากันไปตามเจตนา.. เพราะทุกสรรพสิ่ง.. ดำเนินไปตามกระแสปัจจยาการอันเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย...
อะไรๆ ก็จักเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น.. เมื่อถึงโอกาสอันควร.. อันเกิดจากความถึงพร้อมในเหตุปัจจัยนั้นๆ..
ไม่ว่าจะอยาก.. หรือไม่อยาก.. ก็ย่อมต้องรับผลนั้น หากถึงความพร้อมตามเหตุปัจจัยนั้นๆ
วันนี้.. ของชีวิต.. เมื่อต้องถูกกำหนดให้ฉีดวัคซีน ๒ เข็มก็ยินดีฉีด.. แม้เป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาที่มิได้วุ่นวาย แตกตื่น ในความเกิด-ความตาย และมิได้มุ่งหาความสุขแบบชาวโลกนิยม..
เป็นความจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ต้องฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของชาวโลก.. ที่จะต้องมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน.. จะได้สบายใจกัน.. ได้ว่า.. “ฉีดวัคซีนครบ ๒ เข็มแล้วโว้ย !!”
แต่เมื่อฉีดวัคซีน ๒ เข็มก็ไม่อยู่.. ฉีด ๓ เข็มก็ไม่อยู่.. จึงไม่รู้ว่าจะฉีดวัคซีนเข็มที่ ๔-๕-๖ ไปทำไม.. ให้สิ้นเปลืองชีวิตโดย ไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร.. แล้วจะเป็นอย่างไร!?
จึงได้ปฏิเสธคุณหมอข้างวัดไปว่า.. อาตมาขอยุติแค่เข็มสองนะ.. เว้นแต่กฎหมายบ้านเมืองบังคับ..
เพราะเริ่มมองเห็นภาวะความซ่อนเร้นในการสาธารณสุข.. ที่เริ่มธุรกิจชีวิตมนุษย์กันจนไร้ความละอาย...
ต้องยอมรับว่า.. วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่รวยมหาศาลจากการมีหุ้นในโรงงานผลิตวัคซีน เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-๑๙ ที่ชาวโลกแตกตื่น.. หวาดวิตกกังวล.. ด้วยข่าวสารในโลกไร้พรมแดน.. ที่มีการปล่อยข่าวฉุดกระชากลากจิตวิญญาณไปสู่ความโง่เขลา.. อย่างไม่รู้จักจบสิ้น...
ความโง่เขลา.. ก่อเกิดโมหจิต.. อันเป็นฐานชีวิตของสัตว์เดรัจฉาน. เปรต.. อสูรกาย.. จึงเป็นเหตุปัจจัยที่น่ากลัวกว่าไวรัสโควิด-๑๙ ที่มีอิทธิฤทธิ์อย่างมาก ก็แค่ทำให้เราทั้งหลายตายไปจากอัตภาพนี้..
แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่า คือ ความโง่เขลา.. จากโมหจิต.. ที่จะนำไปสู่การเกิด.. ตามวิบากกรรมที่ยังติดตามให้ผลอยู่..
ซึ่งแน่นอนว่า.. ด้วยจิตที่โง่เขลาเบาปัญญา เป็นโมหจิตขั้นรุนแรง.. ก็คงหนีไม่พ้นการไปเกิดหรือปฏิสนธิในอบายภูมิ.. ทุคติวินิบาต.. สัตว์นรก.. โดยเฉพาะภูมิของโมหจิต.. คือ เดรัจฉานภูมิ .. ที่เกิดของสัตว์เขลาเบาปัญญา มีแต่ความแตกตื่น หวาดกลัว วิตกกังวล.. วุ่นวายและเบียดเบียนทำลายทำร้ายกันด้วยความตระหนกตกใจ.. เป็นวิจิกิจฉาไม่สิ้นสุด..
การไปเกิดด้วยความเขลา.. ความโง่.. มิจฉาทิฏฐิและทุศีล.. จึงน่ากลัวกว่าการตายด้วยไวรัสโควิด-๑๙.. อย่างเทียบกันมิได้เลย
จึงควรอย่างยิ่ง ที่พ่อมหาจำเริญ.. แม่มหาจำเริญ ทั้งหลาย จะได้หยุดยับยั้งความคิด.. ความหวาดกลัว ความวิตกกังวล.. ด้วยการเจริญสติให้มากๆ .. อย่าให้ขาดตอน.. ตั้งคติชีวิตไว้ว่า.. จะทำสิ่งใด จะคิดการใด.. ต้องไม่ขาดสติ...
เพราะ สติมา... ปัญญาเกิด
หาก.. สติเตลิด.. ชีวิตก็ฉิบหาย...
นี่เป็นความจริงในทุกสมัย......
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“โมหมูลจิต” .. ..มูลเหตุของการถูกหลอกลวง โดย Scammer!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในกระแสสังคมยุคไอที ที่มีความเจริญอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีชั้นสูง จนเข้าสู่ ยุควัตถุ AI ในปัจจุบัน ที่แสดงความเสมือนจริงให้สัมผัสได้ใกล้เคียงอย่างน่าศึกษายิ่ง
โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
เจริญพรสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมเพรียง.. ร่วมไว้อาลัยแด่การเสด็จสู่สวรรคาลัย ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
AI กับการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ให้ใคร ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ( Artificial intelligence ) มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโลกของ”การศึกษา-การทำงาน”


