ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ที่ให้มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย ฉบับที่ยกร่างโดย "คณะกรรมการกฤษฎีกา" เสร็จสิ้นการรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเมื่อ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้กระทรวงการคลังและรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ต้องติดตามว่า กระทรวงการคลังจะเสนอร่างดังกล่าวให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบเป็นครั้งสุดท้ายในวันใด ที่คาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นคนไทยเข้าไปใช้บริการในกาสิโน ซึ่งเนื้อหาในร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกาเขียนไว้ว่า จะต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ย้อนหลัง 6 เดือนติดต่อกัน แต่ปรากฏว่ากระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว และหลังหารือร่วมกับกฤษฎีกาแล้ว จึงมีการตัดเรื่องการมีเงินฝาก 50 ล้านบาทดังกล่าวออกไป แล้วเขียนใหม่ว่าบุคคลสัญชาติไทย หากจะเข้าไปในกาสิโน ให้แสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ย้อนหลัง ถึงจะเข้าไปเล่นในกาสิโนได้
การผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ของรัฐบาลจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป "ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะมาพูดถึงเส้นทางนับต่อจากนี้ไป
ทั้งนี้ "ศึกษิษฏ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" เข้าไปมีส่วนในการพิจารณาการออกกฎหมายให้มีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตอนที่สภาชุดปัจจุบันมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลังเป็นประธาน ตัวของ "ศึกษิษฏ์" เข้าไปเป็นกรรมาธิการชุดดังกล่าวด้วย และต่อมาจุลพันธุ์ รมช.การคลัง ได้ตั้งคณะทำงานยกร่างกฎหมายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ในส่วนของกระทรวงการคลัง ตัว "ศึกษิษฏ์" เองก็อยู่ในคณะทำงานชุดดังกล่าว จนเมื่อครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจึงส่งเขาเป็นตัวแทนไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยตลอดตั้งแต่แรกจนยกร่างกฎหมายเสร็จ
"ศึกษิษฏ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" กล่าวว่า หลังร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ผ่านที่ประชุม ครม.เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการส่งร่างให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อไปพิจารณาขัดเกลาให้มีความรัดกุมมากขึ้น กฤษฎีกาก็อยากให้มีตัวแทนจากรัฐบาลไปร่วมประชุมด้วย เพราะอยากฟังจากฝ่ายที่ออกนโยบายว่าการออกกฎหมายดังกล่าวมีเจตนารมณ์อย่างไรเพื่อประกอบการพิจารณา โดยผมได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษเกือบทุกครั้งที่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้วก็มีการส่งร่างกลับมาให้รัฐบาล
-มีแนวโน้มจะส่งร่างกลับไปให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาได้ภายในเดือนมีนาคม?
น่าจะเป็นแบบนั้น ผมคิดว่าพอผ่าน ครม.ก็ส่งร่างไปที่สภาผู้แทนราษฎร ก็เหมือนกฎหมายทั่วไป หากสภารับหลักการก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แล้วก็เข้าสภาวาระสอง วาระสาม เมื่อผ่านสภาก็ส่งร่างไปที่วุฒิสภา ซึ่งหากมีพรรคการเมืองต่างๆ เสนอร่างประกบ ก็นำมาพิจารณาร่วมกันแล้วปรับจูนให้มีความรัดกุม เพราะก็มีแนวทางแนวคิดที่แตกต่างกัน การพิจารณาของกรรมาธิการของสภาก็มีส่วนดีคือ มีตัวแทนประชาชนจากทุกพรรคการเมืองมาช่วยปรับปรุงให้เหมาะสมรัดกุมขึ้น อย่างไรก็ตามไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้ว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสามารถผ่านการพิจารณาของรัฐสภาได้ในช่วงใด แต่คิดว่าในชั้นสภาเราตั้งใจให้เสร็จภายในปี 2568 แต่จะเสร็จทันหรือไม่ก็แล้วแต่ว่ากรรมาธิการจะใช้เวลาพิจารณานานแค่ไหน ส่วนวุฒิสภาก็ไปอีกขั้นตอนหนึ่ง
"ศึกษิษฏ์" กล่าวถึงที่มาที่ไปของเนื้อหาบางส่วนในร่าง พ.ร.บ.ว่า การให้มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน-ชุมชน ในสถานที่ซึ่งจะสร้างสถานบันเทิงครบวงจรนั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว เพราะเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบที่ใกล้เคียง ก็ต้องมีในส่วนนี้คล้ายๆ กับการทำ EIA, EHIA ก็มีการเขียนให้รัดกุม เพราะอย่างเวลามีโครงการขนาดใหญ่ เวลาจะสร้างโรงงาน หรือคอนโดมิเนียมก็ต้องมีการทำ EIA ก็เลยมีการเขียนให้รัดกุม
สำหรับการที่ยังคงเรื่องผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตการทำสถานบันเทิงครบวงจร ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหนึ่งหมื่นล้านบาท ก็เพราะต้องการให้ operator ที่จะเข้ามายื่นขอใบอนุญาตต้องเป็น operator ที่มีมาตรฐานระดับสูง สามารถลงทุนระดับ XXL หรือมากกว่าแสนล้านบาทได้ ตรงนี้ก็เหมือนเป็นฟิลเตอร์อันหนึ่งที่จะกันข้อกังวลของสังคมว่าจะเป็น "ทุนสีเทา" หรือไม่ จะเป็นเจ้าเล็กเจ้าน้อยมายื่นขอใบอนุญาตหรือไม่ ตรงนี้เป็นฟิลเตอร์แรกแล้ว คือต้องเป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนชัดเจน ซึ่งการที่ต้องมีทุนจดทะเบียนหนึ่งหมื่นล้านบาท มันไม่ใช่ว่าใครทำก็ได้ ก็ต้องเป็นนักลงทุนขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐานระดับโลก เพราะมันเป็นการลงทุนแบบใหม่ของรัฐบาล เราก็อยากได้ operator ที่มีมาตรฐานในการจัดการระดับโลก เช่นการลดผลกระทบทางสังคม, มีการลงทุนและบริหารพื้นที่อย่างได้ประโยชน์ เพื่อประเทศจะได้ประโยชน์จริงๆ สิ่งเหล่านี้จึงต้องถูกคอนเฟิร์มด้วยประสบการณ์ ซึ่งบริษัทระดับท็อปของโลกก็แสดงความสนใจอยู่
ขณะที่การให้ใช้ระบบใบอนุญาต ไม่ได้ใช้ระบบประมูลเพื่อทำสถานบันเทิงครบวงจร เพราะเวลายื่นขอใบอนุญาต มันไม่ใช่เหมือน tradition การประมูลทั่วไปที่ราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุดได้ไป สิ่งที่ผู้ประกอบต้องทำก็คือยื่นแผนของเขามาว่า อย่างเมื่อสำนักงาน (สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร) มีการจัดตั้ง เราก็ต้องศึกษาว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสม พอได้พื้นที่ก็จะมีการดูว่า Man-made Destination ที่ประเทศอยากได้คืออะไร เป็นสวนสนุก สวนน้ำ สเตเดียม มิวเซียมฯ ก็จะมีการประกาศออกไป ผู้จะขอใบอนุญาตก็ต้องยื่นแผนมาว่า เขาจะสร้างบัญชีแนบท้ายสี่อันจากที่มีสิบกว่าข้อ เขาจะสร้างอะไรบ้างอันดับแรก เรื่องที่สองคือยื่นแผนการจ้างงาน แผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของคนไทยคืออะไร แผนที่สามคือ มาตรการในการลดผลกระทบทางสังคมคืออะไร ข้อสี่จะเป็นเรื่องใบอนุญาตและภาษีที่จะให้กับภาครัฐ จึงไม่ใช่การประมูลที่จะดูที่มูลค่าราคาเพียงอย่างเดียว เป็นเรื่องของใบอนุญาตที่มีแฟกเตอร์หลายอย่างที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณา แต่สุดท้ายก็ต้องดูความคุ้มค่า มูลค่ารายได้ที่รัฐจะได้ ก็คือดูหลายแฟกเตอร์ แล้วมาชั่งน้ำหนักว่าแต่ละส่วนจะมีน้ำหนักเท่าใด
"ศึกษิษฏ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" ยังกล่าวถึงการกำหนดให้มีพื้นที่ทำกาสิโนไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ จากที่ร่างเดิมของกระทรวงการคลังไม่ระบุไว้ ว่าพอส่งร่างไปที่กฤษฎีกา ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาอยากให้รัดกุมขึ้นเลยใส่ไว้ ซึ่งเราไม่ได้ติดขัดอะไร กฤษฎีกาช่วยเขียนให้รัดกุมขึ้น กระทรวงการคลังยกร่างมาระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เจตนารมณ์มีอยู่แล้ว แต่ทางกฤษฎีกาเสนอว่าให้เขียนไว้เลย เราก็ยินดี เพราะเคยบอกไว้อยู่แล้วว่าจะไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ อย่างโมเดลของสิงคโปร์คือไม่เกินสามเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามเปอร์เซ็นต์ก็ใหญ่มากแล้วเมื่อเทียบกับพื้นที่การลงทุน
สำหรับการที่เขียนระบุเรื่องการจ้างแรงงานไทยไว้ชัดเจนในร่างกฎหมายนั้น เจตนารมณ์อย่างหนึ่งคือ อยากให้มีความมั่นใจว่าบริษัทที่มาลงทุนจะมีผลประโยชน์ต่อคนไทยมากที่สุด เลยล็อกไว้ในร่างกฎหมายเลยว่าเวลายื่นขอใบอนุญาต จะต้องมีแผนมาเลยว่าจะจ้างคนไทยทำงานเท่าใด รวมถึงแผนพัฒนาบุคลากรคนไทย เพราะอย่างบางอาชีพที่เป็นอาชีพใหม่เช่นเป็นดีลเลอร์ หรือมีการเปิดสวนสนุกขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงแรกคนไทยอาจไม่มีสกิลตอนเปิด อาจอนุญาตให้คนต่างชาติมาทำก่อน แต่ต้องมีแผนชัดเจนว่าจะเปลี่ยนกลับมา จะมีการเทรนคนไทยให้เข้ามาประกอบอาชีพได้เมื่อใด
ทำไมต้อง 'สิงคโปร์โมเดล'?
เมื่อถามถึงแนวทางการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ที่ก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่อง "สิงคโปร์โมเดล" ในส่วนของไทยจะมีทิศทางการทำนโยบายนี้อย่างไร "ศึกษิษฎ์"กล่าวว่า เราไปดูหลายออปชัน บางประเทศก็ให้เป็นโมเดลแบบให้เป็นไลเซนส์ย่อยๆ ที่พอไปดูแล้วพบว่ามันไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ และควบคุมค่อนข้างยากไม่ตอบโจทย์เจตนารมณ์ อีกโมเดลหนึ่งที่มีการเสนอให้ไปสร้างในพื้นที่ไกลๆ แล้วไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อันนี้ก็ไม่ตอบโจทย์ เพราะหากไปสร้างในพื้นที่ห่างไกล รัฐบาลต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาจจะถูกมองว่าเอื้อรายนั้นเป็นพิเศษหรือไม่
เรากลับมาดูโมเดลแบบสิงคโปร์ที่เขาเลือกสถานที่ ซึ่งเป็น location ที่รัฐบาลคิดว่าเหมาะสมให้ และมีข้อกำหนดชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการ Man-made Destination อื่นๆ อะไรบ้าง แล้วให้ผู้ประกอบการเสนอเข้ามา เราก็มองว่าเป็นโมเดลที่ successful ที่สุด คือไลเซนส์ไม่เยอะ แต่เป็น Mega Project ที่ควบคุมได้ง่าย เพราะพอเป็น Mega Project มาตรฐานในการดูแลและกำกับก็จะตามมา จะเป็นกำแพงสองชั้นให้ คือมีคณะกรรมการนโยบาย มีบอร์ดบริหาร และมีสำนักงานควบคุมที่คอยดูแลในระดับ local แต่พอเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทข้ามชาติที่ไปลงทุนในหลายประเทศ จะเป็นกำแพงอีกชั้นหนึ่ง เพราะหากเขาทำผิดในประเทศเรา หรือมาตรการเขาหย่อนยานในประเทศเรา เขาจะถูกลงโทษในประเทศอื่นๆ ด้วย ตรงนี้เป็นกำแพงสองชั้นที่มาช่วยบาลานซ์ เลยคิดว่าสิงคโปร์เขาใช้วิธีนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ success ที่สุด เมื่อเทียบกับโมเดลอื่นๆ ซึ่งจะถูกนำไปใช้ที่อื่นๆ เช่น โอซากา ที่ญี่่ปุ่นที่เข้าใจว่าทำคล้ายๆ กัน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เข้าใจว่าก็จะมาแบบคล้ายกัน
เราอาจเปิดช้ากว่าคนอื่นเขา เราอาจจะเสียโอกาสเรื่องนี้มานาน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้เห็นว่าหลายประเทศที่เรียกร้องการลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีหลายโมเดล เรามีโอกาสได้เลือกโมเดลที่ Success Point อย่างสิงคโปร์
"จะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ เราต้องการ Man-made Destination ซึ่งประเทศไทยเป็นท็อปด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ถ้ามีตัวนี้เข้ามา มันสามารถจะ booster ตรงนี้ขึ้นมาได้ จะเห็นว่าประเทศรอบด้านเรามีการสร้าง Man-made Destination แล้วก็สามารถดึงดูดนักลงทุนไปได้จริงๆ และมันไม่ได้ลิมิตแค่การท่องเที่ยว เพราะหากมี Man-Made Destination อื่นๆ ที่เป็นจุดที่สามารถทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงศิลปินระดับโลก การแสดงระดับโลก และคนไทยก็อาจจะมีโอกาสได้ขึ้นเวทีในการแสดงระดับโลกด้วย ก็สามารถปล่อย Soft power ออกมาได้ด้วย
รวมถึงการมีช่องทาง retail ที่คนสามารถมาซื้อของโอท็อป สินค้าเกษตร ก็เปิดช่องให้เกษตรกรมีรายได้จากตรงนี้ หรือหากมีมิวเซียม ก็ทำให้เด็ก เยาวชนมีโอกาสได้เข้าถึงวิทยาศาสตร์ ความรู้ใหม่ๆ ผมคิดว่า ไม่ได้แค่เรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่จะยกระดับหลายด้านไปพร้อมๆกัน"
เป็นคำกล่าวถึงผลดีหากประเทศไทยจะมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในมุมมองของ ศึกษิษฏ์ รองเลขาธิการนายกฯ ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ส่งเสียงสะท้อนไปถึงรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรกันต่อไป ตอนที่มีการเสนอร่างกฎหมายเข้าสภา ในอนาคตอันใกล้.
โดย วรพล กิตติรัตวรางกูร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“โมหมูลจิต” .. ..มูลเหตุของการถูกหลอกลวง โดย Scammer!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในกระแสสังคมยุคไอที ที่มีความเจริญอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีชั้นสูง จนเข้าสู่ ยุควัตถุ AI ในปัจจุบัน ที่แสดงความเสมือนจริงให้สัมผัสได้ใกล้เคียงอย่างน่าศึกษายิ่ง
โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
เจริญพรสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมเพรียง.. ร่วมไว้อาลัยแด่การเสด็จสู่สวรรคาลัย ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
AI กับการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ให้ใคร ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ( Artificial intelligence ) มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโลกของ”การศึกษา-การทำงาน”


