อนิจจา...โลกา ณ ครานี้!!!

เห็นข่าวแวบๆ...ว่า ราคาน้ำมัน ชักเริ่มลดๆ ลงมามั่งแล้ว!!! จากที่เคยพุ่งระเบิดเถิดเทิงไปถึง 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่วัน-สองวันมานี้ ว่ากันว่าอยู่ที่ประมาณ 99.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเนื่องมาจากแนวโน้มของการเจ๊าะแจ๊ะ เจรจา ระหว่างหมีขาวรัสเซียกับรัฐบาลยูเครน ที่น่าจะเป็นไปในแง่บวก หรือเป็นไปได้ด้วยดี ว่าซั่น...

---------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...บรรยากาศความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ก็น่าจะยังหนักไปในแนวอย่างที่ อาจารย์ เรืองอุไร กุศลาสัย ท่านเคยรจนาบทกลอน บทกวี ถอดความมาจากคีตกวีชาวอินตะระเดีย ไว้เมื่อหลายต่อหลายสิบปีที่แล้วนั่นแล คือ อนิจจาโลกา ณ ครานี้/ ช่างเหลือที่ทรหวนปั่นป่วนคลั่ง/ ทรมาพยาบาทอาฆาตชัง/ กระทบกระทั่งขัดแย้งระแวงใจ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น คือไม่ใช่แค่การบึ้มกันไป-บึ้มกันมา

ระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยมีคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก คอยยุแยง ตะแคงรั่ว อยู่ข้างๆ แต่เพียงเท่านั้น ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เห็นว่ากองกำลังปฏิวัติอิสลามอิหร่าน เขายังตัดสินใจงัดเอา บ้องข้าวหลามยักษ์ จำนวนถึง 12 บ้องด้วยกัน ประเคนใส่ศูนย์ยุทธศาสตร์ของอิสราเอล หรือหน่วยงานลับของหน่วยข่าวกรองมอสซาด ที่แอบไปตั้งไว้ในประเทศอิรัก หรือในดินแดนชาวเคิร์ด ส่งผลให้บรรยากาศในตะวันออกกลาง ร้อนฉ่า ร้อนเร่า ขึ้นมาโดยฉับพลัน-ทันที...

----------------------------------------------------

แต่ก็ไม่ใช่แค่เฉพาะยุโรปและตะวันออกกลางเท่านั้น...ถ้าฟังจากอาเฮีย สุทธิชัย หยุ่น ผู้ยังมีเรี่ยว มีแรง พอที่จะเสพวิกฤตเป็นภักษาหาร ได้ไม่น้อยกว่าคนหนุ่มในวัยฉะ-กัน (ฉกรรจ์) ทั้งหลาย เห็นว่า หลีเหนือกับหลีใต้ (เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้) ก็ทำท่าว่าชักจะฮึ่มๆ ซึ่งกันและกันขึ้นมามั่งแล้ว อันเนื่องมาจากความ ทรมาพยาบาทอาฆาตชัง ของประธานาธิบดีหลีใต้รายใหม่ ซึ่งออกจะกระเหี้ยนกระหือรือเสียเหลือเกิน ในการสร้างความ ทรหวนปั่นป่วนคลั่ง ให้หนักหนา-สาหัส ยิ่งไปกว่านี้นั่นยังไม่รวมไปถึงรายการ ยั่วยวนกวนส้นตีน ระหว่างรัฐบาลไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่กลายเป็นเงื่อนไข ข้ออ้าง ให้ประธานสมาคม เสือก กิตติมศักดิ์ อย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตร อินโด-แปซิฟิก ทั้งหลาย พยายามโผล่เข้ามาสอดแทรก เพื่อให้เรื่องที่มันไม่น่าจะเป็นเรื่อง ต้องกลายเป็นเรื่องจนได้!!!

-------------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้...แนวโน้มที่ทุกสิ่งทุกอย่าง มันน่าจะหนักหนา-สาหัสยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร หรือแม้แต่สุขอนามัย อันเนื่องมาจากท่านเชื้อไวรัสโควิด ท่านก็ยังคงไม่คิดจะหมดฤทธิ์ หมดเดช เอาง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าว-ปลา-อาหาร สินค้าต่างๆ ที่นับวันมีแต่จะแพงขึ้นๆ แถมยังมีแนวโน้มที่จะ ขาดแคลน ก่อให้เกิดความปั่นป่วน รวนเร ต่อกระบวนการผลิตในแต่ละขั้นตอน ระบบการเงิน-การทอง ที่ชักเปลี่ยนๆ ไปจากเดิม แม้ว่าบางรายไม่คิดจะเปลี่ยน ยังคิดจะครอบงำ ครอบครอง ระบบดังกล่าวเอาไว้เพียงใดก็ตาม บรรดา พื้นที่เป็นกลาง ที่แทบไม่หลงเหลือติดปลายนวมต่อไปอีกแล้ว มีแต่ต้องเจอกับแรงกด แรงบีบให้ต้องตัดสินใจ เลือกข้าง โดยยังไม่อาจชั่งน้ำหนักได้ชัดเจน ว่าข้างไหนคือข้างแพ้ หรือข้างชนะกันแน่ ฯลฯลฯลฯ...

-------------------------------------------------------

อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ความพยายาม กินข้าว เพื่อประคับประคองสถานะของรัฐบาล ให้อยู่รอดปลอดภัย ไปถึงเอป่ง เอเปก หรือถึงไหนๆ ก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะมื้อเที่ยง มื้อเย็น หรือมื้อใดๆ แม้อาจถือเป็น ข้อเท็จจริงอันมิอาจปฏิเสธ หรือ ข้อเท็จจริงทางการเมือง ก็เถอะ แต่มันออกจะก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนและพะอืดพะอม อยู่พอสมควร คือคล้ายๆ การ เล่นขายข้าวแกง ของพวกเด็กๆ ที่กลับกลายมาเป็นการ เล่นการเมือง ของบรรดาพวกผู้ใหญ่ไปซะนี่!!! แต่ก็เอาเถอะ...ถ้ามันเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของชาติ ของส่วนรวม ก็คงต้อง ทำใจ และ ทัมใจ ไปตามสภาพ...

------------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...ด้วยความเป็นห่วง เป็นใย และด้วยความปรารถนาดีโดยบริสุทธิ์ใจ คงต้องขอติงๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้าว่า งานนี้...น่าจะรากเลือด รากแตก รากแตน กันพอสมควร ไม่ว่าในระยะสั้น-ระยะกลาง-หรือระยะยาวก็แล้วแต่ โดยเฉพาะถ้าหากยังไม่คิดจะมองลึก-มองกว้าง-และมองไกล หรือมองกันในระดับ โครงสร้าง ไม่ใช่มองในระดับเปลือกๆ ผิวๆ เผินๆ อันมักเป็นทัศนะ มุมมอง ของบรรดาผู้บริหารชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด หรือถ้าว่ากันตามสำบัด สำนวน ของ ป๋าเปลว สีเงิน (ที่ไม่รู้ว่าช่วงนี้หายหน้าไปไหน? ทำไม? และอย่างไร?) มันก็คงประมาณช่วงแห่งการ ลอกคราบ อะไรทำนองนั้น...

-------------------------------------------------------

หรือช่วงแห่ง การเปลี่ยนแปลง ที่จะมีผลต่อระบบ ระบอบ ไปจนถึงวัฒนธรรม ประเพณี และกระทั่งค่านิยมทางสังคมเอาเลยก็ไม่แน่ อะไรก็ตาม...ที่ไม่ได้ตระเตรียมรับมือเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่ได้คิดจะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้อง กลมกลืน ไปกับฉากสถานการณ์ใหม่ๆ หรือเพื่อให้ความเปลี่ยนแปลงนั้นๆ เป็นไปในแบบค่อยเป็น-ค่อยไป ไม่ใช่เปลี่ยนแบบชนิดพลิกหน้ามือเป็นหลังตีน อันนี้นี่แหละ...ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ โดยที่ช่วง รอยต่อ หรือช่วง ระยะผ่าน แห่งการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ว่า ยังต้องอาศัยบริการจาก บิ๊กตู่ หรือไม่? อย่างไร? อันนี้...คงต้องไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน...

--------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Peter Muller (อีกครั้ง)... “What’s lasting is not what resist time, but what wisely changes with it. – สิ่งที่ยืนยาวอยู่ยงคงทนนั้น...หาใช่สิ่งที่สามารถยืนหยัดต้านทานกาลเวลาแต่อย่างใดไม่ แต่คือสิ่งที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามกาลได้อย่างชาญฉลาด...”

-----------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น