สู้วิกฤตน้ำมันแพง

จากวิกฤตราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการให้บริการขนส่งสาธารณะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะน้ำมันถือเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจขนส่ง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และอาจจะเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะขาดทุน ดังนั้นจึงต้องดิ้นรนหาแนวทางประคับประคองกิจการของตัวเองไป แต่สุดท้ายก็มีหลายรายที่อดทนต่อไม่ไหว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้ออกมาประกาศขอปรับลดเที่ยววิ่ง 80% มีทั้งหมด 48 บริษัท รวม 227 เส้นทางทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 เป็นต้นไป และสิ่งที่เกิดขึ้นตามาคือ ผู้ใช้บริการเดือดร้อนอย่างแน่นอน      

อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางพิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น อัตราค่าโดยสารปัจจุบัน คิดต้นทุนที่ราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 27.09 บาท ขณะนี้อยู่ที่ราคาลิตรละ 34.99 บาท 

ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาแล้วมีมติให้ปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารรถประจำทางหมวด 2 และหมวด 3 ในอัตรากิโลเมตรละ 5 สตางค์ เพื่อประคับประคองผู้ประกอบการขนส่งให้มีรายได้เพียงพอในการบริหารจัดการเดินรถต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ประชาชนได้รับบริการพื้นฐานที่จำเป็นและอัตราค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น ไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากเกินไป โดยมีผลใช้บังคับวันที่ 4 ก.ค.2565 เป็นต้นไป

สำหรับรถโดยสารประจำทางในส่วนภูมิภาคที่วิ่งภายในจังหวัด ให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดพิจารณาอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภายในจังหวัด แน่นอนว่าหลังจากปรับขึ้นค่าโดยสารให้แล้ว ให้กรมการขนส่งทางบกไปดูแลผู้ประกอบการให้จัดการเดินรถเป็นไปตามเงื่อนไข และสอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางของประชาชน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

จากมติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางได้สร้างความพอใจให้แก่ผู้ประกอบการสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมทำหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบการขนส่งเอกชนและรถร่วม บขส.ได้ทราบว่า คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตรา 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ดังนั้นการที่รัฐช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการธุรกิจต่อไปได้ ในสภาวะที่เกิดวิกฤตน้ำมันแพงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้

โดยหลังจากนี้ประชาชนก็ไม่ต้องกังวลว่าในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคมจะไม่มีรถสาธารณะให้บริการ เนื่องจากขณะนี้ทุกบริษัทจะมีการยกเลิกแผนการลดเที่ยววิ่ง และรับปากว่าจะมีการจัดเดินรถตามปกติให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารต่อไป โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมนี้ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน คาดว่าผู้โดยสารจะใช้รถโดยสารในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก

แน่นอนว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการควรดำเนินการคือ การตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนใช้งานให้บริการประชาชนด้วย โดยเฉพาะกรณีที่ไม่ได้ใช้รถโดยสารเป็นเวลานาน จอดนิ่งหรือได้หยุดเดินรถ ต้องมีการบำรุงรักษาให้เรียบร้อยก่อนนำมาให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยกับผู้โดยสาร

คงต้องบอกว่านี่คือการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถเดินหน้ากิจการต่อไปได้ในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันแพง ซึ่งต้องติดตามว่าจากนี้ไปจะมีระบบขนส่งสาธารณะไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถแบกรับภาระการขาดทุนต่อได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์เช่นนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างหามาตรการช่วยเหลือ ตรึงราคาค่าโดยสารอย่างสุดพลัง ก็ได้แต่หวังว่าจะหลุดพ้นเรื่องราคาน้ำมันแพงไปได้.

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ขึ้นค่าแรง"เอกชนห่วงธุรกิจป่วน

“การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ” ยังเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เพราะฝั่งรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าตามนโยบาย โดย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ยืนยันชัดเจนว่า ในวันที่ 1 ต.ค.2567

ปั้น‘โปรตีนทางเลือก’เชิงพาณิชย์

ปัจจุบัน อาหารแพลนต์เบสในประเทศไทยเริ่มมีมากขึ้น เทรนด์ของคนที่หันกลับมากินอาหารเพื่อสุขภาพก็มีเพิ่มขึ้น จึงทำให้เป็นการผลักดันภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารเพื่อสุขภาพ

อุบัติเหตุหรือละเลย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีข่าวเกี่ยวกับการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ หลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, ชลบุรี ฯลฯ ซึ่งขยะเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขปัญหา แต่ก็ดูเหมือนว่ายังเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น

ลุ้นแจ้งเกิดให้บริการซีเพลน

จากนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ผลักดันการปฏิบัติการบินอากาศยานทางทะเล หรือ Seaplane Operations เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

แนะSME“ปรับเปลี่ยน”เพื่อ“ไปต่อ”

สถานการณ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดย แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ระบุว่า ภาพรวมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขณะนี้ยังน่ากังวล เพราะยังคงไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้

ดีมานด์ทองคำยังแกร่งแม้ราคาพุ่ง

จากรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำ หรือ Gold Demand Trends จากสภาทองคำโลก (World Gold Council) สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ระบุว่า ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำสำหรับการลงทุนของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 10%