ซาอุฯ กับสหรัฐผู้นำ 2 โลกในโลกใบเดียวกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐมีเอกลักษณ์เฉพาะถ้ามองจากมุมความเป็นผู้นำในโลกของตนเอง

นโยบายความเป็นเจ้า:

เป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลสหรัฐยึดถือตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ สหรัฐครองความเป็นเจ้า (U.S. hegemony) อาจใช้คำอื่นๆ เช่น ผู้รักษาระเบียบโลก โดยรวมคือสหรัฐมีอิทธิพลเหนือชาติอื่นๆ และไม่ปรารถนาเห็นประเทศอื่นๆ ขึ้นมาแข่งบารมี

บางครั้งพูดชัดเจน เช่น ค.ศ.1991 เมื่อสิ้นสหภาพโซเวียต ประธานาธิบดี George H. W. Bush ประกาศว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก้าวเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ (new world order) หลักยึดใหม่ของกระทรวงกลาโหมที่ว่า ประเทศ/ตัวแสดงใดที่มีศักยภาพเป็นภัยคุกคามถือว่าเป็นปรปักษ์

ภาพ: ผู้นำซาอุฯ กับผู้นำสหรัฐ

เครดิตภาพ: https://english.alarabiya.net/News/gulf/2022/07/15/Saudi-Arabia-s-King-Salman-meets-US-President-Biden-in-Jeddah

ภายใต้นิยามดังกล่าวสามารถระบุปรปักษ์ของรัฐบาลสหรัฐได้ทันที

มิถุนายน 2022 วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า นับจากสิ้นสงครามเย็น สหรัฐกลายเป็นอภิมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียว พวกชนชั้นนำตะวันตกคิดว่าพวกเขาควบคุมได้ คิดว่าระบบโลกที่ตะวันตกเป็นผู้ควบคุมจะคงอยู่ต่อไป พยายามควบคุมประเทศอื่นๆ แต่ถูกท้าทายเมื่อบางประเทศพัฒนาเติบใหญ่ขึ้นมา

ด้านมุมมองของคนอเมริกัน ผลสำรวจของ YouGov เมื่อต้นปี 2021 ระบุว่าคนอเมริกันที่ภาคภูมิใจในประเทศมักให้เหตุผลว่าเป็นเพราะสหรัฐเป็นประเทศที่มีเสรีภาพ ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นผู้นำในเวทีโลก

แนวคิดสหรัฐเป็นผู้นำโลกหรือเป็นผู้นำโลกเสรีเป็นที่รับรู้กันทั่วไปไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม

ผู้นำโลกมุสลิม:

นานมาแล้วที่ทางการซาอุฯ ประกาศว่าตนเป็นผู้นำกลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นผู้ปกป้องผลประโยชน์ของโลกอาหรับ

นับจากปี 1986 เป็นต้นมา กษัตริย์ซาอุฯ จะเรียกตนว่า “ผู้พิทักษ์แห่งสองมัสยิดศักดิ์สิทธิ์” (Custodian of the Two Holy Mosques) ระบุบทบาทของพระองค์ในฐานะผู้นำมุสลิมและไม่ใช่ผู้นำมุสลิมซาอุฯ เท่านั้นแต่เป็นผู้นำมุสลิมโลก

มีนาคม 2022 คำพูดของมกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน (Mohammed bin Salman) สรุปได้ความว่า ซาอุฯ จะปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ตามแนวทางอิสลาม คงอยู่คู่อิสลาม ยึดมั่นหลักศาสนาอย่างถูกต้องไม่บิดเบือน กำลังพัฒนาให้ทันสมัยและมีบทบาทในโลกมุสลิมต่อไป

ประเด็นจากจุดยืนที่แตกต่างของผู้นำ 2 โลก:

ประการแรก จะยอมให้อิสลามอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลสหรัฐได้อย่างไร

ด้วยเหตุผลความเป็นผู้นำโลกมุสลิม ถ้าวิเคราะห์ในเชิงหลักการรัฐบาลซาอุฯ ไม่อาจประกาศว่าตน “อยู่ใต้อำนาจ” รัฐบาลสหรัฐ ได้แค่ร่วมมือกันในบางข้อที่ไม่ขัดคำสอนศาสนา

ประการที่ 2 ละเมิดสิทธิมนุษยชนคือละเมิดอิสลามหรือไม่

ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐชี้ว่าซาอุฯ ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน ไม่น่าจะเป็นพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับคำสอนศาสนา เพราะรัฐบาลซาอุฯ เป็นตัวแทนผู้ยึดมั่นอิสลามอยู่แล้ว (ไม่นับกรณีการทำผิดส่วนบุคคล)

แต่มีข้อที่ชาติตะวันตกตีความว่าสังคมซาอุฯ ละเมิดสิทธิมนุษยชน และเป็นข้อกล่าวหาที่แท้จริงแล้วเป็นการปฏิบัติตามคำสอนศาสนา รัฐบาลซาอุฯ ในฐานะผู้พิทักษ์อิสลามย่อมต้องต่อต้านนโยบายสิทธิมนุษยชนของชาติตะวันตก จึงเป็นความขัดแย้งของผู้นำ 2 โลกที่ยากจะบรรจบกัน

ธันวาคม 2021 ในงานประชุมสุดยอดประชาธิปไตยครั้งแรก (Summit for Democracy) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศชัดว่าจะสนับสนุนประชาธิปไตยทั่วโลก สนับสนุนนักปฏิรูปประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนสากล ตั้งงบประมาณช่วยเหลือนักปฏิรูปในประเทศต่างๆ คำถามคือรัฐบาลไบเดนจะอ้างเหตุผลใดก็ได้ การส่งเสริมกลุ่มเคลื่อนไหวในประเทศต่างๆ (ในกรณีนี้คือซาอุฯ) เท่ากับกำลังบ่อนทำลายอิสลามหรือไม่ นี่คือคำถามใหญ่ที่จะไม่มีวันหายไป ไม่ว่ารัฐบาลสหรัฐจะพูดถึงอย่างเจาะจงหรือไม่ก็ตาม

มุมความร่วมมือ:

แม้มีความขัดแย้งแต่มีความร่วมมือที่ชัดเจน ที่สำคัญคือ

ประการแรก ต่อต้านอิหร่าน

การที่รัฐบาลซาอุฯ ถืออิหร่านเป็นภัยคุกคามสำคัญเช่นเดียวกับที่รัฐบาลสหรัฐยึดถือ เป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้นำ 2 โลกร่วมมือกัน ซาอุฯ หวังพึ่งพลังอำนาจทางทหาร พลังการคว่ำบาตรของสหรัฐ เช่นเดียวกับที่สหรัฐหวังความร่วมมือจากบรรดาประเทศในตะวันออกกลาง

ประการที่ 2 ความมั่นคงกับกองทัพ

มกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน กล่าวในวาระไบเดนเยือนซาอุฯ เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า สหรัฐยึดมั่นข้อตกลงความมั่นคงของอ่าวเปอร์เซียกับซาอุดีอาระเบีย (เป็นข้อตกลงตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt) เมื่อกุมภาพันธ์ 1945 สองฝ่ายตกลงกันว่าสหรัฐจะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์น้ำมันซาอุฯ แลกกับการที่สหรัฐจะปกป้องราชวงศ์ซาอุฯ จากภัยคุกคาม)

เรื่องอาวุธเป็นตัวอย่างรูปธรรม ทุกปีซาอุฯ ซื้ออาวุธสหรัฐด้วยเงินมหาศาล ข้อมูลจาก SIPRI ระบุว่าช่วงปี 2016-2020 สหรัฐส่งออกมาอาวุธมากที่สุดในโลก มีซาอุฯ เป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับแรก ประเทศนี้ประเทศเดียวนำเข้า 24% ของอาวุธที่สหรัฐส่งออกทั้งหมด

ทั้งข้อตกลงความมั่นคงกับความร่วมมือทางทหารเป็นหลักฐานชัดเจนว่าซาอุฯ พึ่งพาความมั่นคงจากสหรัฐ การนี้ยังไม่รวมกองทัพสหรัฐที่ประจำการในภูมิภาค กองเรือที่ 5 ที่อยู่ในย่านนี้ คงไม่เกินไปถ้าจะสรุปว่าถ้าพูดถึงความมั่นคงทางทหาร รัฐบาลซาอุฯ อิงแอบอยู่กับสหรัฐมากและเป็นเช่นนี้มานาน 8 ทศวรรษแล้ว รัฐบาลซาอุฯ มีแนวคิดปรับสมดุลนำเข้าอาวุธจากหลายประเทศรวมทั้งจีน แต่การปรับสมดุลไม่ง่ายและต้องใช้เวลาอีกนาน เรื่องนี้เป็นคำถามและคำตอบในตัวเอง

ประการที่ 3 ความร่วมมือด้านพลังงาน

อาจกล่าวว่า ผลประโยชน์พลังงานฟอสซิสคือรากฐานความร่วมมือของ 2 ประเทศ และช่วงนี้กำลังเป็นประเด็นสำคัญอีกรอบ ประธานาธิบดีไบเดนให้สัมภาษณ์ในขณะเยือนว่าตนได้ขอให้ซาอุฯ ผลิตน้ำมันป้อนตลาดมากขึ้น

เป็นที่รู้กันทั่วไปว่ารัฐบาลสหรัฐแทรกแซงภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน ปกป้องอิสราเอล แม้ว่าปัจจุบันยึดนโยบายผลิตพลังงานใช้เอง (และส่งออกด้วย) แต่ราคาน้ำมันก๊าซธรรมชาติเป็นราคาตลาดโลก ความเป็นไปของตะวันออกกลางจึงมีบทบาทต่อราคาที่ส่งผลดีหรือร้ายต่อทุกประเทศทั่วโลก สามารถใช้น้ำมันเพื่อควบคุมเศรษฐกิจสังคมประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นยุทธศาสตร์ใช้น้ำมันควบคุมโลกของสหรัฐ ประเด็นอยู่ที่ว่ารัฐบาลซาอุฯ จะให้ความร่วมมือหรือไม่ ด้วยเหตุผลใด เป็นความเห็นร่วมหรือจากแรงกดดันของสหรัฐ ซาอุฯ จำต้องยินยอมตามความต้องการของผู้นำโลกของอีกโลกหรือไม่

ซาอุฯ กับสหรัฐผู้นำ 2 โลกในโลกใบเดียวกัน:

ทั้งรัฐบาลซาอุฯ กับสหรัฐมีเป้าหมายของตนเอง ขัดแย้งกันในอุดมการณ์หรือหลักยึด ยิ่งสหรัฐต้องการขยายอำนาจอิทธิพลครอบงำ ฝ่ายซาอุฯ ย่อมต้องตอบโต้ตามหลักคำสอนอิสลาม

ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นอีกกรณีตัวอย่างที่โดดเด่น เป็นความขัดแย้งของ 2 โลกระหว่างศาสนากับค่านิยมสากล (หลักสิทธิมนุษยชนสากลไม่อิงศาสนา)

แต่ในความขัดแย้งกลับมีความร่วมมือแนบแน่นยาวนาน มกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน กล่าวในโอกาสไบเดนเยือนซาอุฯ ว่า เป็นธรรมดาที่ประเทศต่างๆ จะยึดถือคุณค่าต่างกันและควรเคารพความแตกต่างของอีกฝ่าย ถ้ารัฐบาลสหรัฐต้องการติดต่อกับประเทศที่คิดเห็นตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์ก็อาจจะเหลือแค่นาโตเท่านั้น ซาอุฯ กับสหรัฐจะอยู่ร่วมกันทั้งๆ ที่ทั้งคู่แตกต่างกัน.

ชาญชัย คุ้มปัญญา 083-072 5036

http://www.chanchaivision.com/

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

อิสราเอลโจมตีกงสุลอิหร่านและการตอบโต้

ฮามาสทำศึกกับอิสราเอลได้ครึ่งปี เกิดสงครามตัวแทนระหว่างอิสราเอลกับกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุน คราวนี้ถึงรอบอิหร่านปะทะกับอิสราเอลโดยตรงแล้ว

BRICSขยายตัวหมายถึงอะไรบ้าง

BRICS ที่ขยายตัว ชี้ว่ามีประเทศที่หันเข้าสู่ฝ่ายตรงข้ามสหรัฐมากขึ้น แต่ทั้งนี้บางประเทศเพียงอยากมีมิตรหลากหลาย ร่วมมือกับประเทศที่ไม่อยู่ขั้วสหรัฐ

ไบเดนสนับสนุนเนทันยาฮูมากแค่ไหน

ถ้าพุ่งความสนใจ สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนว่ารัฐบาลไบเดนขัดแย้งเนทันยาฮู แต่หากมองภาพใหญ่จะพบว่านับวันพื้นที่ปาเลสไตน์ลดน้อยลงทุกที และกำลังจะเป็นเช่นนี้อีกที่กาซา

ข้อมติให้กาซาหยุดยิงเพื่อใคร

รัฐบาลสหรัฐเสนอร่างมติให้กาซาหยุดยิง เป็นมิติใหม่ที่ใช้ UNSC กดดันอิสราเอล แต่เรื่องนี้มีความแหลมคมซ่อนอยู่ แท้จริงแล้วเป็นการช่วยอิสราเอลมากกว่า

ศึกยูเครนสงครามที่รัสเซียจะไม่แพ้

สงครามยูเครนฝ่ายรัสเซียมีแต่ชนะกับเสมอ ส่วนยูเครนมีแต่เสมอกับแพ้ เพราะรัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์ถ้าใกล้แพ้ ส่วนนาโตไม่กล้าใช้นิวเคลียร์ช่วยยูเครนที่กำลังปกป้องประชาธิปไตยยุโรป