มะกันเข้าสู่ภาวะ‘ถดถอย’หรือยัง? อย่าลืมปัจจัย‘อารมณ์-ความรู้สึก’

เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า หลังจากได้เห็นตัวเลขติดลบของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดแล้ว ถือได้ว่าเข้าสู่ภาวะ “เศรษฐกิจถดถอย” แล้วหรือยัง

ว่ากันตามหลักวิชาการเขาเรียกว่า ‘technical recession’ หรือ “ถดถอยทางเทคนิค”

นั่นคือภาษานักวิชาการที่ถือหลักว่าหากจีดีพีของประเทศติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกันก็เข้าข่าย recession

แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ตัวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถึงรัฐมนตรีคลัง  เจเน็ต เยลเลน ถึงประธานธนาคารกลางเจโรม เพาเวลล์ ต่างก็ยืนยันว่าต้องดูตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ เช่นการจ้างงานและการใช้จ่ายด้วย จึงจะสามารถสรุปได้ว่าเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่

สำหรับประชาชนแล้ว การถกเถียงระหว่างนักวิชาการกับนักการเมืองเป็นเพียงเรื่อง “เทคนิค”

แต่ชีวิตความเป็นอยู่จริงๆ ของชาวบ้านนั้น มัน “ถดถอย” สำหรับคนจำนวนไม่น้อย...และ “เฟื่องฟู” สำหรับคนอีกจำนวนหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตเศรษฐกิจ

จึงเป็นเรื่องที่ใครจะมองจากมุมไหน และจะใช้ตัวเลขชุดไหนในการวิเคราะห์เท่านั้นเอง

นักวิเคราะห์หลายค่ายอธิบายว่า แม้ตัวเลขทางเทคนิคจะเข้าโซน “ถดถอย” แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจ​สหรัฐฯ เข้าสู่ “การชะลอตัวอย่างรุนแรง”

ช่วงครึ่งปีแรกนั้น อเมริกาเจอปัญหาเงินเฟ้อ​หนักที่สุดในหลายสิบปี

มีผลทำให้ผู้คนชะลอการลงทุนและการบริโภค​ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้นทุนการกู้บ้านพุ่งสูง มีผลส่งให้ยอดการก่อสร้างบ้านใหม่หดตัวลง ตลาดอสังหาฯ ก็ซึมลงอย่างชัดเจน

​                    พอถึงไตรมาสสอง เมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ยแรง​ ก็มีผลทำให้ใช้จ่ายภายในประเทศก็อ่อนแอลงในระดับหนึ่ง

บางคนเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า pre-recession

หรือ “อาการ” ที่ส่อไปในทางถดถอย แต่ยังไม่ถดถอยจริง

ที่นักลงทุนกังวลคือเศรษฐกิจอเมริกันจะเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงก็คือ หากถึงต้นปีหน้ายังไม่สามารถแก้ปัญหา​เงินเฟ้อ​ได้​ 

ซึ่งแปลว่า Fed จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงต่อเนื่อง​อีก

บางคนตั้งข้อสงสัยว่า การใช้ “ยาแรง” ต่อเนื่องอาจจะจงใจให้คนไข้ล้มหมอนนอนเสื่อสักพัก

นั่นคือให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดความร้อนแรงจริงๆ ด้วยการต้อง “ตัดขา” ไม่ให้วิ่งเร็วเกินไปนัก

อาการที่จะทำให้มีการยืนยันว่าเศรษฐกิจถดถอยจริง ต้องดูที่อัตราการว่างงานที่จะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด

และตัวเลขการใช้จ่ายจริงที่จะไม่ใช่เพียงการคำนวณทางเทคนิคเท่านั้น

ทุกวันนี้ อัตราการว่างงานของสหรัฐฯยังถือว่าต่ำ​ 

และคนก็ยังพร้อมจะจับจ่ายใช้สอย

คนยังพร้อมใช้เงินซื้อข้าวของแม้จะแพงขึ้น

ถ้าอัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัย​สำคัญ​ ราคาสินค้าก็คาดว่าจะลดลง และกำลัง​ซื้อของคนสหรัฐฯ ​ในวันข้างหน้าก็กระเตื้องกลับมาได้

นักวิเคราะห์บางสำนักเชื่อว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่เข้าภาวะถดถอย แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือจะโตช้าลง

ก็ด้วยปัญหาเงินเฟ้อที่ทำให้ต้องเร่งขึ้นอัตรา​ดอกเ​บี้​ย​

ซึ่งอาจจะทำให้อัตราโตจีดีพีของสหรัฐฯ ปีนี้และปีหน้าต่ำ​ 2%

ค่ายนี้วิเคราะห์ว่า ถ้าปีหน้า Fed ลดดอกเบี้ยเพราะสามารถจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อได้ ทุกอย่างก็น่าจะดูดีขึ้น

เพราะถ้าดอกเบี้ยลดลง​ นักลงทุนก็จะยินดีโดยเชื่อว่าสภาพ​คล่องที่ดีขึ้นจะกลับมาพยุงมูลค่าสินทรัพย์​ 

นั่นแปลว่า การลงทุน​ในสินทรัพย์​เสี่ยงน่าจะกลับมาดีขึ้น​ 

ในมุมมองของคณะกรรมการของสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ  หรือ National Bureau of Economic Research (NBER) ตัวเลขโตจีดีพีไม่ได้เป็นดัชนีหลักที่จะกำหนดว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือยังเสมอไป

โดยอ้างตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในปีนี้ ที่ทำให้องค์กรนี้ยืนยันว่าสหรัฐฯ ยังไม่เข้าสู่ Recession 

NBER บอกว่านอกจากตัวเลขจ้างงานดีขึ้นแล้ว การใช้จ่ายผู้บริโภค การลงทุนของภาคเอกชนต่างก็ส่งสัญญาณเชิงบวก 

ถามว่าเขาใช้อะไรวัดว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ 

คำตอบคือ NBER อ้างถึง 6 ปัจจัย ได้แก่

รายได้ที่แท้จริงของบุคคลหักออกด้วยรายจ่าย

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ตัวเลขการจ้างงานจากการเก็บสถิติของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ

รายจ่ายการบริโภคที่แท้จริง

ยอดขายที่ปรับด้วยความผันผวนของราคา

การผลิตภาคอุตสาหกรรม 

ซึ่งเขาบวกลบคูณหารปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แล้วก็สรุปว่า “อย่าเพิ่งด่วนสรุป”

แต่นั่นไม่ได้แปลว่าความกังวลเรื่อง recession จะหมดไป

ก็เพราะเงินเฟ้อกับดอกเบี้ยที่ยังอาละวาดอยู่ในตลาดนี่แหละ

อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่อง “จิตวิทยา” ของผู้คนอีกด้วย

ภาษาเศรษฐศาสตร์เรียก “อารมณ์คน” หรือ Sentiment 

ต้องยอมรับว่าความรู้สึกของคนทั่วไปต่อเศรษฐกิจนั้นอยู่ในเชิงลบ

และเป็นเชิงลบที่อยู่ในระดับไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

พูดง่ายๆ คือ ถ้าคนทั้งหลายเกิดความหวาดกลัว ไม่มีอารมณ์ใช้จ่าย ไม่มีอารมณ์ลงทุน ไม่มีอารมณ์จะผลิตเพิ่ม

วันนี้ในหลายๆ วงการเริ่มจะมี “ความรู้สึก” ว่าจะไปทิศทางนั้นมากขึ้นหากสถานการณ์ไม่กระเตื้องขึ้นในเร็ววัน

นั่นแหละคือสัญญาณอันตรายของจริง!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’

ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon  โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ