พร้อมรับฤดูกาลท่องเที่ยว

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง แน่นอนว่าส่งผลให้อุตสาหกรรมทั่วโลกฟื้นตัวอย่างชัดเจน จะเห็นได้จากการเดินทางที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ในหลายประเทศเริ่มทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับประเทศไทยเรา ที่รัฐบาลได้มีนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนที่จะเกิดโควิด-19 แน่นอนว่าขณะนี้ไทยเรามีปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่แห่เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

ล่าสุด บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) แจ้งว่า จากการที่รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้การเดินทางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.2565 ซึ่งมีเที่ยวบินเฉลี่ย 1,374 เที่ยวบินต่อวัน โดยคาดการณ์ว่าในเดือน ก.ค.2565 จะมีปริมาณเที่ยวบินเฉลี่ย 1,437 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว เที่ยวบินจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป

ขณะที่ เที่ยวบินภายในประเทศยังคงมีสัดส่วนมากกว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในแต่ละประเทศมีความรุนแรงในระดับที่แตกต่างกัน รวมทั้งนโยบายการอนุญาตให้เดินทางเข้า-ออกประเทศ ซึ่งส่งผลต่อปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศไทย หากการดำเนินนโยบายเปิดประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีเที่ยวบินรวม 430,000 เที่ยวบิน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปี 2564 จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น 41%

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานทุกภาคส่วน ทั้งสายการบิน, สนามบิน, บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) รวมทั้งผู้ประกอบการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทุกมิติ รองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

จากรายงานพบว่า ในช่วงนี้สนามบินทั่วยุโรป รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาเกิดความโกลาหลอย่างหนัก เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการบิน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดพนักงานลงจำนวนมาก รวมทั้งผลพวงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทําให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัว จนขาดคนทํางาน นอกจากนั้นในหลายประเทศยังมีการนัดหยุดงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ทําให้มีคนทํางานไม่เพียงพอ ดังนั้นระบบการบินของประเทศไทยจึงต้องเตรียมพร้อมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ กลุ่มผู้โดยสารชาวจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่ชอบเดินทางเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยก่อนที่จะเกิดโควิด-19 นั้น ปัจจุบันรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย แต่ยังคงอนุญาตให้เฉพาะการเดินทางที่จำเป็นในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษา โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CAAC) อนุญาตให้สายการบินของไทยและจีนทำการบินแบบประจำรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างไทยกับจีน ฝ่ายละ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.2565

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย แน่นอนว่าสถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทถือว่าจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นเงินบาทไทยในจำนวนที่มาก แต่ขณะเดียวกันยังมีปัญหาความกังวลถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ถือว่ายืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ที่ได้ส่งผลกระทบไปยังในหลายๆ ธุรกิจทั่วโลก ก็ต้องจับตากันต่อไปว่าหลังจากนี้จะมีปัจจัยใดบ้างที่จะมาสร้างความอลหม่านให้อุตสาหกรรมได้อีก.

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเกรดอุตฯเหล็กรับมาตรการCBAM

การเดินหน้ามาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) นั้น ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวอย่างมากของกลุ่มผู้ผลิต

อวดชาวโลกสีสันสงกรานต์2567

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด และเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่กรุงเทพมหานครก็ได้จัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมเชิญชวนชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” บริเวณถนนราชดำเนินกลางและท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11–15 เมษายนนี้

'หนี้ครัวเรือน'แนวโน้มชะลอแต่สัดส่วนยังสูง

“หนี้ครัวเรือน” เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายจับตา โดยจากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่ระบุว่า ภาพรวมหนี้ครัวเรือนไทย ไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท

เศรษฐกิจไทยจะไปทางไหนต่อ

ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยเวลานี้เหมือนคนป่วยโรคเรื้อรัง ที่อาการแค่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่รักษายังไม่หายขาด ส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ยังคงติดๆ ขัดๆ นับตั้งแต่ผ่านพ้นจากวิกฤตโควิดมากว่า 2 ปี

ไทยจะเป็นฮับเอทานอล

ประเทศไทยหลังจากที่ผลัดเปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้ ก็ตั้งเป้าการทำงานที่หลากหลายและแปลกตามากขึ้น แน่นอนว่าหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล

เดินให้สุดทำอย่างจริงจัง

ปัจจุบันพบปัญหาถังก๊าซหุงต้มในท้องตลาดเสื่อมสภาพและหมดอายุตกค้างอยู่ในระบบจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการลักลอบนำถังก๊าซหุงต้มมาเติมในสถานีบริการ LPG เป็นระยะ ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว