ต้องพร้อมรับมือโลก “metaverse”

เมื่อเร็วๆ นี้เกิดข่าวใหญ่ระดับโลก เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งโลกโซเซียลอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ประกาศรีแบรนด์ใหม่เป็น “เมตา” (Meta)

การเปลี่ยนมาใช้ชื่อ "เมตา" นั้นสะท้อนถึงความทะเยอทะยานของบริษัทที่จะทำธุรกิจนอกเหนือจากโซเชียลมีเดีย โดยได้ใช้ชื่อใหม่ตามคำว่า “metaverse” เมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นศัพท์ไซไฟที่อธิบายถึงวิสัยทัศน์สำหรับการทำงานและการเล่นในโลกเสมือนจริง

หากได้ติดตามเฟซบุ๊กมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนยักษ์ใหญ่รายนี้มีความสนใจเกี่ยวกับการบุกเบิกธุรกิจในโลกใหม่ หรือโลกเสมือนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก 2-3 ปีที่ผ่านมาเฟซบุ๊กได้เพิ่มความพยายามในด้านฮาร์ดแวร์

โดยแนะนำอุปกรณ์วิดีโอคอล “พอร์ทัล” เปิดตัวแว่นตา “Ray-Ban Stories” และเปิดตัวชุดแว่นตาเสมือนจริง “Oculus” หลายรุ่น

เนื่องจากจากเฟซบุ๊กมองว่า เทคโนโลยี augmented และ virtual reality จะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับการบุกเบิกเข้าสู่โลก metaverse ซึ่งคาดว่าสิ่งนี้จะเป็นกระแสหลักใน 5-10 ปีนี้

มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเมตากล่าวว่า ในขณะนี้มีการมองว่าเฟซบุ๊กเป็นบริษัทโซเชียลมีเดีย แต่ในดีเอ็นเอของเฟซบุ๊กนั้นเป็นบริษัทที่สร้างเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมผู้คน และ metaverse เป็นพรมแดนต่อไปที่เหมือนกับโซเชียลเน็ตเวิร์กเมื่อบริษัทเริ่มต้น

ไม่ใช่เพียงแค่เฟซบุ๊กเท่านั้นที่มองว่าเมตาเวิร์สจะเป็นขุมทองแห่งใหม่ที่จะทำเงินในอนาคต หลายประเทศมหาอำนาจทางไอที เทคโนโลยี ต่างก็จับจ้องกระแส metaverse ด้วยตาเป็นมัน อย่างในจีน ยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา หรือเทนเซ็นต์ ต่างก็เตรียมตัวสำหรับการสร้างธุรกิจในโลกใหม่กันหมดแล้ว

หรือในเกาหลีใต้ ซึ่งมีความแข็งแกร่งในเรื่องของคอนเทนต์บันเทิง ก็มีการสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลก metaverse แล้ว ยกตัวอย่างค่าย SM Entertainment ซึ่งมีการสร้างเกิร์ลกรุ๊ปในโลกเสมือน ในชื่อวง aespa ซึ่งก็นับว่ามีวงการบันเทิงเข้าไปบุกเบิกในโลกใหม่กันแล้ว

ลองคิดดู ในอนาคตใครที่สามารถสร้างโลกเสมือน และชวนคนเข้าไปปักหลักสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ได้ก่อน บริษัทนั้นจะมีอำนาจมากแค่ไหน โดยเฉพาะหากเปิดให้มีระบบเศรษฐกิจที่หมุนเวียนในโลกเสมือนดังกล่าวด้วย ยิ่งจะคุมความได้เปรียบในการครองอำนาจเศรษฐกิจได้

ทำไมถึงบอกว่าคุมอำนาจทางเศรษฐกิจได้ ก็เพราะคนที่สร้างโลก metaverse นั้นก็เปรียบเสมือนรัฐบาลกลาง ที่สามารถออกคำสั่ง กฎระเบียบและกฎเกณฑ์ไปยังผู้ใช้ และสามารถกำหนดเงินตราของตัวเองขึ้นมาได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากกรณีของเฟซบุ๊กที่เคยประกาศเปิดตัว Libra สกุลเงินดิจิทัล นี่ก็เป็นแผนสำหรับการสร้างเงินสื่อกลางในโลกเสมือน เมื่อเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถนำมาประยุกต์เข้ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในโลกเสมือนได้ ดังนั้นผู้สร้างก็เปรียบเสมือนผู้ที่คุมทุกอย่างในโลกใหม่นั้นได้

ย้อนกลับมามองที่ไทย ตอนนี้อาจจะมีคนไทยบางกลุ่มที่ตระหนักถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีแบบใหม่แล้ว แต่ในส่วนของภาครัฐ ซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศ ไม่แน่ใจว่าได้เตรียมตัวรับมือกับเทรนด์ใหม่ที่เข้ามาในโลกนี้แค่ไหน อย่างในปัจจุบันไทยเราก็ไม่ทันเกมกับการหากินของธุรกิจแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่เข้ามากอบโกยเงินตราออกไปจากประเทศอย่างมหาศาล และแทบไม่ต้องมาจ่ายภาษีเลย ทั้งๆ ที่มาทำมาหากินกับคนไทยและผู้ประกอบการไทย แล้วรับเงินบาทออกนอกประเทศจำนวนมาก

และนี่กำลังจะมีเทคโนโลยีใหม่ “metaverse” ที่เป็นการสร้างโลกใหม่ขึ้นมาอีกใบ หากรัฐไม่รู้เท่าทัน หรือไม่เตรียมความพร้อมทั้งให้กับประชาชน หรือระบบเศรษฐกิจให้ดี เชื่อว่าไทยก็จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับเทคโนโลยีรูปแบบใหม่อีกครั้ง

ดังนั้น ถึงเวลาแล้ว รัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในการเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ไว้ด้วย.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย

ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย

อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP

อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ

ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า