การค้ายุคใหม่ Live Commerce มาแรง

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ได้เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย หรือ Thailand Internet User Behavior ประจำปี 2565 ซึ่งถือเป็นการสำรวจที่ทำมาต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว

โดยการสำรวจได้พบเทรนด์ที่น่าสนใจมากมาย ขอสรุปคร่าวๆ มาให้อ่านกันแบบสรุปอีกครั้ง

เริ่มจากเทรนด์เรื่องกิจกรรมออนไลน์ของคนไทย พบว่า สิ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ก็คือ การใช้ออนไลน์เพื่อความบันเทิง  อย่าง การดูหนัง ฟังเพลง, การซื้อขายของออนไลน์, การทำธุรกรรมทางการเงิน และ การอ่านข่าว โพส บทความ หนังสือ

ขณะที่กิจกรรมออนไลน์ที่มีแนวโน้มลดลงและอาจหายไปในอนาคต ได้แก่ การค้นหาข้อมูล search engine, การรับส่ง อีเมล เช่นเดียวกับ กิจกรรมการดาวน์โหลดซอฟแวร์ เพลง ละคร เกม เพื่อเก็บไว้ดูย้อนหลัง ในอนาคตก็อาจไม่มีอีกแล้ว เพราะถูกแทนที่โดย  Streaming ที่สามารถชมได้แบบ Real time และย้อนหลังได้ผ่านแพลตฟอร์มนั้น ๆ

ส่วนเรื่องกลุ่มอายุของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพบว่า ใน ปีนี้ Gen Y (ช่วงอายุ 22-41 ปี) กลับมาครองแชมป์ใช้อินเทอร์เน็ตต่อวันมากที่สุด 8 ชั่วโมง 55 นาที แซงหน้า Gen Z (อายุน้อยกว่า 22 ปี) อดีตแชมป์หนึ่งสมัย ที่ลงมาอันดับ 2 ใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 8 ชั่วโมง 24 นาที ตามด้วย Gen X (ช่วงอายุ 42-57 ปี) 5 ชั่วโมง 52 นาที และ Baby Boomers ขึ้นไป (ช่วงอายุ 58 ปีขึ้นไป) 3 ชั่วโมง 21 นาที ขณะที่ ภาพรวม พบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 7 ชั่วโมง 4 นาที

แต่ถ้าลงลึกไปเรื่องของกิจกรรมออนไลน์ยอดฮิต พบว่า  คนไทยนิยมใช้เน็ตเพื่อปรึกษาและรับบริการทางการแพทย์ (จองคิว,ปรึกษาแพทย์) มากที่สุด 86.16%   รองลงมา คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร 65.70% ดูรายการโทรทัศน์/คลิป/ ดูหนัง/ฟังเพลง 41.51% ดูถ่ายทอดสดเพื่อซื้อสินค้าและบริการ (Live Commerce) 34.10% ทำธุรกรรมทางการเงิน 31.29% อ่านโพสต์/ข่าว/บทความ/หนังสือออนไลน์ 29.51% รับ-ส่งอีเมล 26.62%  ช้อปปิ้งออนไลน์ 24.55% ทำงาน/ประชุมออนไลน์ 20.67% และเล่นเกมออนไลน์ 18.75% ตามลำดับ

โดยประเด็นที่น่าจับตา คือ แม้กิจกรรมการดู Live Commerce จะเป็นกิจกรรมที่นำมาสำรวจในปีนี้เป็นปีแรก แต่กลับติด TOP 5 กิจกรรมออนไลน์ยอดฮิตที่คนไทยทำมากที่สุด สะท้อนให้เห็นว่า Live Commerce เป็นอีก 1 กิจกรรมที่น่าจับตาว่าเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความนิยมมากขึ้น โดยกลุ่มคนที่เข้าชมมากที่สุด คือ Gen Y รับชมมากที่สุดถึง 64.65% และเพศหญิงรับชมมากกว่าเพศชาย นี่จึงทำให้ Gen Y ครองแชมป์ “นักช้อปออนไลน์”

โดยประเภทสินค้าที่ Gen Y เลือกซื้อมากที่สุดคือ เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา เครื่องประดับ มากที่สุด รองลงมาคือ เครื่องสำอาง โดยเหตุผลที่ซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนใหญ่เลือกซื้อ เพราะราคาถูก 63.10%ความหลากหลายของสินค้า 58.73% แพลตฟอร์มใช้งานง่าย 45.81% การจัดโปรโมชัน  และค่าจัดส่งถูกหรือฟรี 34.10%  โดยช่องทางที่คนไทยเลือกซื้อออนไลน์มากที่สุด คือ e-Marketplace (เช่น Shopee, Lazada, Kaidee) 75.99% รองลงมาคือ Facebook 61.51% Website 39.7% LINE 31.04% Instagram 12.95% และ Twitter 3.81%

จากข้อมูลที่สำรวจออกมา จะพบว่า พฤฒิกรรมการซื้อสินค้าของคนไทย ในยุคนี้สนใจการซื้อสินค้าผ่านพ่อค้า แม่ค้าโดยตรง ผ่านการรับชมไลฟ์  ซึ่งหากใครต้องการเพิ่มยอดขายสินค้า การไลฟ์สด จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการแย่งชิงเม็ดเงินของผู้ซื้อ  ซึ่งวิธีการนี้แตกต่างจากวิธีการขายออนไลน์สมัยก่อน ที่เป็นขายในรูปแบบ Web Commerce ซึ่งไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างคนซื้อกับคนขาย

ดังนั้นด้วยกระแสความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้น ของวิธีการขายแบบ  Live Commerce  เชื่อว่าทุกแบรนด์อาจจะต้องมองการไลฟ์สดเป็นการเพิ่มโอกาศในการขายของ เพราะเชื่อว่าคนไทยชอบที่จะมีการติดต่อสัมพันธ์กับผู้ขายโดยตรง โดยเฉพาะการสอบถามข้อมูลเฉพาะของสินค้าโดยตรง และเทรนด์นี้จะกลายเป็น การขายของออนไลน์ที่เป็นกระแสหลักต่อไป

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ตลาดรถยนต์ไทย”ช่วงเปลี่ยนผ่าน

ประเทศไทย ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศก็เริ่มมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

จัดทัพกำชับนโยบายอุตสาหกรรม

จากการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านมาหลายเดือนก็เริ่มเห็นนโยบายที่ชัดเจนขึ้น และการบูรณาการการทำงานของหลายๆ หน่วยงานไปพร้อมๆ กัน จากสิ่งแรกที่เห็นคือการปรับปรุงนโยบายของกระทรวงภายใต้คำว่า MIND “ใช้หัวและใจ” ทำงาน โดยแบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่

ปีนี้ได้ใช้แน่รถไฟฟ้าสายใหม่

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ หลายสายทาง โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี

เมื่อเศรษฐกิจไทยมองเห็นแสงสว่าง

มีข่าวดีสำหรับคนไทยและเศรษฐกิจไทย เมื่อทางกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ออกมาแถลงข่าวถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) ในเดือน ก.พ.2566 ซึ่งพบว่ามีตัวเลขอยู่ที่ 108.05 เทียบกับ ม.ค.2566 ลดลง 0.12% และเมื่อเทียบกับ เดือน ก.พ.2565 เพิ่มขึ้น 3.79% ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน