6 เดือนสมรภูมิยูเครนสงครามดำเนินต่อไป

ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว สงครามไม่ได้เกิดที่ยูเครนเท่านั้น เพราะสงครามไฮบริดในขณะนี้กำลังต่อสู้อย่างกว้างขวางหลายประเทศ แรงบ้าง เบาบ้าง บทความนี้นำเสนอระเบียบโลกใหม่ในมุมมองรัสเซียภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน โดยอิงถ้อยคำของนายวลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย กับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergei Lavrov) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศในช่วงปี 2022 สามารถประมวลและขยายความได้ดังนี้

 
ภาพ: เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
เครดิตภาพ: https://tass.com/politics/1445755

ระเบียบโลกปัจจุบัน:

     หลายสิ่งหลายอย่างที่รัฐบาลชาติตะวันตกทำในขณะนี้คือรักษาความเป็นเจ้าที่กำลังอ่อนแอลง รัฐบาลชาติตะวันตกยังโหยหาที่จะรักษาระเบียบโลกขั้วเดียว (unipolar world order) ที่พวกตนเป็นเจ้า เป็นระเบียบโลกอาณานิคมแบบใหม่ (neocolonial order) กอบโกยผลประโยชน์มหาศาลจากระเบียบโลกดังกล่าว

     ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า “สหรัฐกับ Vassals ของตนแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอธิปไตยอื่นๆ อย่างไม่ละลด เป็นผู้ก่อให้เกิดการยั่วยุต่างๆ ก่อรัฐประหารและสงครามกลางเมืองในหลายประเทศ คุกคาม ข่มขู่ (blackmail) และกดดัน พยายามบังคับให้บรรดารัฐอิสระดำเนินตามความปรารถนาของพวกเขา ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่แปลกแยกจากตัวเอง”

วิเคราะห์: Vassals หมายถึง ไพร่หรือคนในสังกัดของเจ้าขุนมูลนาย ใช้ในยุคกลางยุโรปที่เป็นรัฐศักดินาหรือรัฐฟิวดัล (Feudal State) ไพร่หรือ Vassals จะต้องทำงานเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ของขุนศึกขุนนาง ยอมอยู่ใต้การปกครองแลกกับความปลอดภัยของชีวิตร่างกาย

     รัฐบาลชาติตะวันตกตั้งใจสร้างความขัดแย้งเพราะเป็นวิธีรักษาอำนาจ (บั่นทอนทำลายปรปักษ์ กระชับอำนาจในกลุ่มของตน) สิ่งที่พวกเขาทำลดทอนความเจริญก้าวหน้าของอารยธรรมโลก

     ยกตัวอย่างไม่นานนี้ Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังประกาศระเบียบเศรษฐกิจใหม่ว่า สหรัฐจะสร้างระบบซัพพลายเชนร่วมกับประเทศที่วางใจได้ ประเทศที่วางใจได้หมายถึงมีบรรทัดฐานและค่านิยมต่อเศรษฐกิจโลกตรงกัน ให้ความสำคัญกับเงินสกุลดอลลาร์และผู้ที่ได้ประโยชน์จะต้องปฏิบัติตามกฎที่สหรัฐวางไว้ ในทางกลับกันผู้ไม่เห็นด้วยจะถูกลงโทษ รัสเซียเป็นตัวอย่างที่โดนเล่นงาน ทุกประเทศที่มีศักยภาพดำเนินนโยบายอิสระจะถูกเล่นงาน

ระบบโลกของสหรัฐไม่สัมพันธ์กับการปกครองแบบประชาธิปไตย ภาคีชาติตะวันตกเป็นเพียงกลุ่มสมาชิกที่จำนนอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลสหรัฐ ท้ายที่สุดชาติอียูจะสูญเสียอิสรภาพและเชื่อฟังทำตามแผนโลกขั้วเดียว คนยุโรปจะสูญเสียเพื่ออเมริกาได้ผลประโยชน์สูงสุด นาโตคือกลไกด้านความมั่นคงหลักที่กำลังแผ่อิทธิพลครอบคลุมให้ไกลกว่าปัจจุบันโดยเฉพาะที่เอเชียแปซิฟิก

สงครามไฮบริดและการโต้กลับ:

สถานการณ์ขณะนี้คือชาติตะวันตกกำลังทำสงครามไฮบริด (hybrid war) กับรัสเซียโดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด รัฐบาลปูตินพยายามทำทุกอย่างเพื่อเลี่ยงที่จะขัดแย้งโดยตรง แต่พวกเขาท้าทายและรัสเซียต้องเผชิญหน้ากับมัน ดังที่กล่าวแล้วว่ารัฐบาลชาติตะวันตกใช้ความขัดแย้งเพื่อรักษาความเป็นเจ้า ประชาชนยูเครนจึงเป็นเหยื่อของกระสุนปืนใหญ่ ป่าวประกาศว่าต้องต่อต้านรัสเซีย โดยแกล้งหลับตาไม่สนใจการเผยแพร่อุดมการณ์นาซีใหม่ (neo-Nazi ideology) ในยูเครน การสังหารหมู่ใน Donbass ชาติตะวันตกยังคงส่งอาวุธเครื่องกระสุนแก่รัฐบาลยูเครนอย่างต่อเนื่อง

     สถานการณ์ยูเครนวันนี้เป็นแผนที่วางไว้ตั้งแต่สิ้นสงครามเย็น เพื่อครองความเป็นเจ้า การขยายนาโตไปทางตะวันออกคือหนึ่งในแนวทางดังกล่าว ซึ่งรัสเซียพยายามเตือนแล้วว่าอะไรคือเส้นต้องห้าม (red line)

     รัฐบาลสหรัฐกับพวกพร้อมสู้ศึกแม้เหลือชาวยูเครนคนสุดท้าย รัฐบาลสหรัฐชอบที่จะทำเช่นนี้เพราะสมรภูมิอยู่ห่างจากตัวเอง สามารถทำให้ยุโรปอ่อนกำลัง ให้พวกเขาต้องเปิดตลาดแก่สินค้าอเมริกัน อาวุธต่างๆ

ความเข้าใจสำคัญที่ต้องยึดให้มั่นคือ สงครามยูเครนไม่ใช่เรื่องระหว่างยูเครนกับรัสเซีย แต่เป็นการต่อสู้แข่งขันระหว่างมหาอำนาจ เงินเฟ้อที่เกิดกับทุกประเทศ สินค้าขึ้นราคาแพงทั้งแผ่นดินเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่าการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นภัยต่อโลก พวกชาติตะวันตกลังเลที่จะยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญของโลกจะเกิดในฟากเอเชียแปซิฟิก ภูมิภาคนี้กำลังดึงดูดทรัพยากรมนุษย์ ทุนและกำลังการผลิต

     นับจาก 24 กุมภาพันธ์ บัดนี้กินเวลาใกล้ 7 เดือนแล้ว จะเห็นว่าสหรัฐยังคงพยายามให้ความขัดแย้งยืดเยื้อต่อไป เป็นแนวทางเดียวกับที่ทำในหลายประเทศในเอเชีย แอฟริกาและลาตินอเมริกา

กลางเดือนกันยายน ประธานาธิบดีเซเลนสกีประกาศกองทัพยึดคืนพื้นที่กลับมากว่า 6,000 ตารางกิโลเมตร บางจุดถึงกับติดชายแดนรัสเซีย ได้เชลยทหารรัสเซียหลายคน กองทัพยูเครนตีข่าวนี้ครึกโครมชี้ทหารรัสเซียอยู่ในสภาพสิ้นหวัง

วิเคราะห์: สถานการณ์ผลัดกันรุกรับเช่นนี้บ่งชี้ว่าสงครามจะดำเนินไปอีกนาน ถ้ามองในแง่การจัดระเบียบโลกหมายถึงยืดเวลาจัดระเบียบโลกออกไปทั้งในมุมรัสเซียกับสหรัฐ

     แต่เมื่อการเจรจายุติสงครามล้มเหลวและมีแนวโน้มยืดเยื้อ ชาติสมาชิกอียูเริ่มเห็นต่างต่อนโยบายส่งเสริมยูเครนรบรัสเซีย เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรที่อียูไม่ซื้อพลังงานรัสเซียส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชีวิตความเป็นอยู่อย่างรุนแรง และมีทีท่าว่าจะรุนแรงขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า ประชาชนหลายประเทศออกมาประท้วง จนประธานาธิบดีมาครงออกโรงเตือน หากอียูแตกแยกจะเข้าแผนที่รัสเซียต้องการ

     จะเห็นว่ารัฐบาลสหรัฐตั้งใจใช้สงครามยูเครนเล่นงานรัสเซีย กระชับอำนาจในนาโต เปิดศึกฝ่ายประชาธิปไตยกับรัสเซีย แต่เมื่อการคว่ำบาตรส่งผลรุนแรง ประชาชนและภาคเอกชนอียูเริ่มทนไม่ไหว เสรีประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญแต่ต้องอิ่มท้องด้วย ที่น่าสนใจคือ กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกขอให้รบต่อ ในขณะที่ยุโรปตะวันตกที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูงกว่าต้องการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคม

     แนวคิดที่ว่ารัสเซียยืดสงครามออกไปจึงอาจเป็นส่วนหนึ่งของสงครามไฮบริด สมาชิกอียูที่รับมือปัญหาเศรษฐกิจสังคมได้ดีจะยืนหยัดให้ทำสงครามต่อ (เช่น สามารถหาซื้อพลังงานทดแทนจากแหล่งอื่น เศรษฐกิจแข็งแกร่ง) ส่วนประเทศที่อ่อนแอกว่าเห็นว่าจำต้องลดความตึงเครียด ฮังการีเป็นตัวอย่าง

     สงครามไฮบริดที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกตั้งใจเล่นงานรัสเซีย ตอนนี้กำลังหันมาเล่นงานสหรัฐกับพวกด้วย สุดท้ายขึ้นกับว่าใครจะทนได้ดีกว่านานกว่า (ตั้งแต่ระดับรัฐบาลถึงประชาชน) หลายคนพูดถึงฤดูหนาวที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนยูเครนนั้นยิ่งรบนานประเทศยิ่งพังทลาย

แนวทางระเบียบโลกใหม่ในมุมมองรัสเซีย:

     ทางออกคือ ต้องสร้างโลกพหุภาคีแบบใหม่ (a modern multipolar world) ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันกับภัยคุกคาม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดสงคราม เพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน รัสเซียจะยังคงเดินหน้าสร้างโลกที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หารือพันธมิตรหุ้นส่วนเพื่อปรับแต่งกลไกความมั่นคงระหว่างประเทศที่มีอยู่

     ความจริงคือนับวันประเทศต่างๆ คนเชื้อสายต่างๆ แตกต่างหลากหลายมากขึ้น แสวงหาแนวทางพัฒนาของตนเอง ตามบริบทวัฒนธรรมและค่านิยมที่ยึดถือ แต่ชนชั้นนำของพวกสากลนิยม (Globalist) ต่อต้านแนวทางดังกล่าว (พวกนี้หวังให้โลกมีค่านิยมสายเดียว วัฒนธรรมเดียวตามแบบที่พวกเขาต้องการ) สร้างสถานการณ์ให้วุ่นวายโกลาหลด้วยความขัดแย้งในที่ต่างๆ ใช้ยุทธศาสตร์ปิดล้อม เป้าหมายคือบ่อนทำลายแนวทางพัฒนาของประเทศอื่นๆ นั่นเอง

วิเคราะห์: รัสเซีย จีน อิหร่าน เป็นตัวอย่างที่ดี สังเกตว่าประเทศทั้ง 3 ล้วนถูกรัฐบาลสหรัฐกับพวกปิดล้อมยาวนาน ต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย (ชี้ว่าเป็นเผด็จการ) ต่อต้านรัฐบาลจีน (ชี้ว่ารัฐบาลเป็นคอมมิวนิสต์) และต่อต้านอิหร่านที่ปกครองตามหลักอิสลามแบบชีอะห์ ทั้งหมดล้วนถูกชี้ว่าไม่เป็นประชาธิปไตยจึงสมควรถูกต่อต้าน

     ภาพรวมระดับโลกตอนนี้ ประเทศนอกกลุ่มชาติตะวันตกรับแรงกดดันให้เลือกข้างมากขึ้น บางประเทศเลือกที่จะลุกขึ้นสู้จึงไม่สนใจคว่ำบาตรรัสเซีย หลายประเทศพยายามลดใช้เงินดอลลาร์ ลดพึ่งพาตลาดชาติตะวันตก คาดว่าอนาคตจะเช่นนี้มากขึ้น

รัสเซียจะเสริมสร้างกองทัพให้ทันสมัยให้มั่นใจว่าประเทศชาติปลอดภัย สร้างโลกที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ฟื้นฟูการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการและบรรทัดฐานพื้นฐาน คณะมนตรีความมั่นคงและสมัชชาสหประชาชาติคือเครื่องมือที่ลดความตึงเครียดระหว่างประเทศ ป้องกันความขัดแย้งต่างๆ ประกันความมั่นคงการอยู่ดีกินดีของประชาชนประเทศทั้งหลาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึกยูเครนสงครามที่รัสเซียจะไม่แพ้

สงครามยูเครนฝ่ายรัสเซียมีแต่ชนะกับเสมอ ส่วนยูเครนมีแต่เสมอกับแพ้ เพราะรัสเซียพร้อมใช้นิวเคลียร์ถ้าใกล้แพ้ ส่วนนาโตไม่กล้าใช้นิวเคลียร์ช่วยยูเครนที่กำลังปกป้องประชาธิปไตยยุโรป

State of the Union 2024 ไบเดนลั่นกลองหาเสียง

คำแถลงนโยบายประจำปี 2024 เหมือนการหาเสียงมากกว่า ซึ่งไม่แปลกเพราะตรงกับปีเลือกตั้ง แม้ไม่เอ่ยว่าคำว่า “ทรัมป์” แต่ผูกประเด็นเข้ากับคู่แข่งการเมืองอย่างชัดเจน

ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้รัสเซียในศึกยูเครน?

ไม่ว่าสงครามยูเครนจะจบปีนี้หรือปีหน้า ที่สุดแล้วน่าจะมีคำตอบว่าฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายอำนาจนิยมชนะ ตามที่รัฐบาลโลกเสรีเอ่ยถึงเรื่อยมา

ทรัมป์หาเสียงให้รัสเซียบุกชาตินาโต

ทรัมป์ยินดีให้รัสเซียทำอะไรก็ได้กับชาติสมาชิกนาโตที่ไม่ยอมตั้งงบกลาโหมตามข้อตกลง ทำให้นาโตปั่นป่วน แต่อาจเป็นแค่การหาเสียงกับคนอเมริกันเท่านั้น