อีกครั้งที่ทำให้นึกในใจว่า'เออว่ะ'

    วันนี้ผมขออนุญาตแฟนคอลัมน์เขียนเรื่องไร้สาระ เรื่องเบาสมอง และเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง (แฟนคอลัมน์ทุกท่านคงคิดในใจว่า ทุกสัปดาห์ก็เขียนแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?)

    ผมอยู่บนโลกใบนี้เป็นเวลา 52 ปีเต็ม สำหรับบางคนจะบอกว่า “แค่” 52 ปี บางคนจะบอกว่า “ตั้ง” 52 ปี

    จะมีมุมมองอย่างไรก็แล้วแต่ การอยู่บนโลกใบนี้ ตั้ง/แค่ 52 ปีนั้น ก็แปลว่าผมควรจะมีความรู้ ความเข้าใจ อะไรติดตัวไปบ้าง และชีวิตที่เหลือก็สะสมความรู้และความเข้าใจไปเรื่อยๆ แต่ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งมันมีความรู้ใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตทุกวันๆ ที่ทำให้เราต้องทึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ทึ่งกว่าคือ ข้อมูลทั่วไปเก่าๆ ที่ลอยไปลอยมารอบตัวเรามาตลอดชีวิต แต่เราเพิ่งรู้

    สิ่งที่ผมจะเล่าในวันนี้ ผมต้องขอบคุณลูกชายผมอายุ 5 ขวบ ที่ทำให้ผมมีความรู้กับสิ่งที่ผมเห็นและใช้ตั้งแต่ผมอายุเท่าเขา แต่ผมไม่เคยรู้ความจริงว่ามันคืออะไร

    มีอยู่วันหนึ่ง ลูกผมถามขึ้นมาว่าตัวเลขในเครื่องนี้มีไว้ทำอะไร เครื่องที่เขากำลังชี้และถามนั้น คือเครื่องปิ้งขนมปัง ข้างล่างสุดเครื่องปิ้งขนมปังทุกเครื่อง ใต้ปุ่มขึ้นลงที่จะปิ้งขนมปังของเรานั้น มักจะมีที่หมุนๆ ที่มีตัวเลข 1-5

    ผมยอมรับว่า ผมไม่เคยสงสัยว่าตัวเลข 1-5 นั้นบ่งบอกอะไร ผมเข้าใจตลอดว่า 1-5 เป็นระดับ “ความปิ้ง” ของตัวขนมปัง (คำว่า “ความปิ้ง” ของผมไม่น่าจะเป็นคำจริงๆ แต่แฟนคอลัมน์คงเข้าใจความหมายที่ผมพยายามสื่อ) ที่ผมเข้าใจมาโดยตลอด ตั้งแต่ผมอายุเท่าลูกจนถึงบัดนี้คือ ยิ่งตัวเลขมากขึ้นเท่าไหร่ ขนมปังของเราไหม้เท่านั้น เลยทำให้ผมต้องตั้งต่ำกว่าเลข 1 มาโดยตลอด เพราะมีใครในโลกชอบกินขนมปังที่ไหม้ระดับเลข 5?

    พอลูกถามผมขึ้นมา ผมเลยต้อง Search คำตอบจาก Google เพราะผมจะต้องหาคำตอบที่ฟังดีกว่า “ความปิ้ง” ขนมปัง

    ผมเพิ่งรู้ว่า ตัวเลข 1-5 เป็นนาทีครับ ซึ่งถ้าผมจะเข้าข้างตัวเอง ก็เข้าข่าย “ความปิ้ง” ของผมก็ได้ แต่ผมยอมรับเลยว่า พอรู้ว่าตัวเลข 1-5 เกี่ยวกับเวลา แล้วเป็นนาทีนั้น ผมพูดกับตัวเองว่า “เออว่ะ”

    ความจริงแล้ว ความเข้าใจเดิม เรื่อง “ความปิ้ง” ของระดับขนมปัง กับความรู้ใหม่ว่าตัวเลข 1-5 หมายถึงนาทีนั้น ก็ไม่ได้ต่างหรือห่างมากมายเท่าไหร่ ตัวเลข 1-5 หมายถึงระยะเวลา ที่ขนมปังของเราเจอกระแสไฟฟ้า ซึ่งมีผลกับ “ความปิ้ง” ของขนมปัง ตัวเลขยิ่งสูงเท่าไหร่ ขนมปังของเรายิ่งเจอกระแสไฟฟ้า ทำให้ขนมปัง “ปิ้ง” มากขึ้น

    แต่ผมก็ยังตั้งคำถามอยู่ในใจว่า มีคนชอบกินขนมปังที่ไหม้ระดับเลข 5 ด้วยเหรอครับ?

    ผมขออนุญาตแชร์อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมต้องบอกกับตัวเองว่า “เออว่ะ” เมื่อรู้ความจริง หลังจากที่เข้าใจเป็นอีกอย่างนึงเกือบตลอดชีวิต

    เรื่องมีอยู่ว่า เวลาอยู่ในรถ ผมชอบเปิดเพลง แล้วก็จะเป็นเพลงหลากหลาย จะมีไทย ฝรั่ง เพลงเก่า เพลงใหม่ เพลงร็อก เพลงรัก เพลงแรป เพลงแจ๊ส มีสารพัดเพลงแล้วแต่อารมณ์ ซึ่งทำให้ลูกผมได้รู้จักเพลงหลายแนวและหลายยุค และกลับกันครับ ทำให้ผมรู้จักเพลงเด็กของเขาเหมือนกัน

    มีอยู่เพลงหนึ่งจากวง Dire Straits ชื่อเพลง “Money for Nothing” ที่ผมรู้จักตั้งแต่ผมอายุ 15 ผมเปิดเพลงนี้ในรถและตอนนี้ลูกผมชอบฟัง มีอยู่ท่อนหนึ่งในเพลงถือว่าเป็น Hook สำคัญ ร้องว่า…

    “We got to install microwave ovens, Custom kitchens deliveries (ตรงนี้ต้องลากเสียงยาวหน่อย),    We got to MOVE THESE refrigerators, We got to MOVE THESE color TVs (ตรงนี้ก็ลากเสียงยาวเหมือนกัน)”

    แต่ที่ผมร้องตั้งแต่เพลงนี้ออกใหม่ๆ ตอนผมอายุ 15 นั้น และเพิ่งรู้ว่าผมร้องผิดมาโดยตลอด คือท่อนที่ว่า “We got to MOVE THESE refrigerators, We got to MOVE THESE color TVs” ที่ผมร้องมาโดยตลอดคือ…

    “We’ve got your MOVIES…refrigerators, We’ve got your MOVIES…. color TV’s”

    ลูกสาวผมเป็นคนชี้ว่าผมร้องผิด เพราะเวลาเขาจะฟังเพลงในรถจะผ่านระบบ Bluetooth จากมือถือของผม และระบบ streaming ที่ผมใช้ มีเนื้อเพลงปรากฏคู่กับเพลงที่กำลังฟัง ตอนฟังเพลงนี้ใหม่ๆ เขาก็ฟังผมแหกปากร้อง “MOVIES” มาโดยตลอด จนเขาบอกว่า “พ่อร้องผิด มันไม่ใช่ MOVIES มันเป็น MOVE THESE” ซึ่งผมคิดในใจว่า “โธ่เอ๊ย!! เด็กอายุ 7 ขวบจะรู้เรื่องอะไร? เพลงนี้เรารู้จักตั้งแต่อายุ 15”

    แต่พอดูเนื้อเพลง เขาก็ถูกของเขา ผมก็ร้องในใจว่า “เออว่ะ” ถ้าเขาไม่ทักขึ้นมา ในชีวิตที่เหลือของผม เวลาฟังเพลงนี้ ผมคงจะแหกปากร้อง “MOVIES” ตลอดไป หลังๆ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมคอลัมน์ ฟุดฟิดฟอไฟ ของคุณพ่อผม เขียนถึงผมบ่อย เพราะการมีลูก (ยิ่งลูกเล็กในกรณีของผม) ทำให้เราเข้าใจหรือมีมุมมอง เห็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและคุ้นตา ผ่านสายตาลูก ซึ่งกำลังเห็นสิ่งที่เราเห็นมาโดยตลอดนั้น…เป็นครั้งแรก

    มันเป็นมุมมองและประสบการณ์ที่สนุกครับ ทำให้ผมต้องอึ้งหลายครั้ง และร้องกับตัวเองว่า “เออว่ะ” อย่างที่บอกครับ ขออนุญาตเขียนเรื่องไร้สาระและเรื่องเบาๆ ก่อนที่โลกของเราจะหยุดหมุนชั่วคราวช่วงปลายสัปดาห์นี้ครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Sending a Message หรือ The Calm Before the Storm?

เมื่อสัปดาห์ก่อน ช่วงเวลาที่พวกเราสนุกและพักผ่อนกันเต็มที่ช่วงสงกรานต์นั้น มีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเกิดได้ทุกเมื่อ และในที่สุดก็เกิดขึ้นจริงๆ ครับ

หลานชายคุณปู่

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ช่วงเขียนคอลัมน์นี้ ผมยังอยู่ที่บ้านเฮา เจออากาศทั้งร้อนมากและร้อนธรรมดา เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องการขับรถขึ้นมาบ้านเฮากับลูกสาว

หลานคุณปู่

คอลัมน์สัปดาห์นี้กับสัปดาห์หน้า น่าจะเป็นคอลัมน์เบาๆ ครับ ผมเชื่อว่าแฟนๆ ครึ่งหนึ่งน่าจะหนีร้อนในไทยไปสูดอากาศเย็น (กว่า) ที่อื่น ส่วนใครที่ไม่ไปไหน คงไม่อยากอ่านเรื่องหนักๆ

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 2)

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องราวแก๊งที่ผมสัมผัสและรู้จักสมัยอยู่สหรัฐ สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงแนว Gangster Rap ก็คงจะคุ้นเคยกับสิ่งที่ผมเขียนไป แต่สำหรับหลายท่านที่เติบโตคนละยุคคนละสมัยอาจไม่คุ้นเลย

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 1)

ผมมีความรู้สึกว่า ช่วงนี้มีข่าวประเภทแก๊งมีอิทธิพลในประเภทประเทศเอลซัลวาดอร์ โคลอมเบีย และเม็กซิโก มีผลต่อเสถียรภาพการเมืองระดับชาติประเทศเขา

To Shortchange กับ To Feel Shortchanged

จากการเรียกร้องของสาวๆ (สวยๆ) ไทยโพสต์ ผมขออนุญาตสวมหมวกฟุดฟิดฟอไฟวันหนึ่ง เพื่อพูดคุยและอธิบายสไตล์ของผม ถึงคำที่ปรากฏในช่วงต้นสัปดาห์จากนิตยสาร Time ครับ