เศรษฐกิจที่ไม่มีวันเหมือนเดิม

ขณะ บิ๊กตู่ ลงใต้ไปแถวๆ จังหวัดเพชรบุรี... บิ๊กป้อม ก็พยายามยักแย่ ยักยัน ขึ้นเหนือไปแค่ใกล้ๆ แถวจังหวัดอยุธยา เพราะเพียงเท่านี้ก็เหนื่อยแล้ว!!! ส่วน บิ๊กป๊อก น่าจะกบดานเป็นจระเข้น้ำลึกอยู่ ณ กระทรวงมหาดไทยดังเดิม และโดยสีสัน บรรยากาศ เช่นนี้ ก็น่าจะพอ อยู่ๆ กันไป จนกว่าจะครบปีนี้ ไปถึงช่วงปีหน้าโน่นเลย...                                                          

----------------------------------------------------   

 คือคงต้องยอมรับว่า...บรรดาผู้ที่คิดจะหัก คิดจะโค่น  พี่น้อง 3 ป. ไม่ว่าจะในรูปไหน แบบไหน ก็แล้วแต่ น่าจะออกไปทาง หัวหน้าแก๊งตายหมด กันไปเป็นรายๆ ไล่มาตั้งแต่อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดของฝ่ายค้าน ที่หนักไปทาง เหี่ยวปลาย จะโดยเพราะขาดกล้วย หรือมีแค่กล้วยระดับเป็นหวีๆ ไม่ถึงขนาด สองพันล้าน อย่างที่ ควาย หรือโค กระบือ ใดๆ ก็ตามทีได้ออกข่าว ปล่อยข่าว เหล่านี้เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ส่วนประเภท รายละห้าล้าน หรือระดับเล่นกันเป็นเครือๆ ไม่ใช่แค่หวีๆ จะถือเป็นข่าวปล่อย ข่าวลือ หรือไม่ เพียงใด ก็แล้วแต่คงต้องไปถามลิง (ประทานโทษ) ถามงู กันเอาเองก็แล้วกัน...                                                          

 ------------------------------------------------------     

ส่วนที่ไม่ได้คิดจะใช้เวทีรัฐสภา หรือไม่ได้ถือเป็นพรรคใด พรรคหนึ่ง ในถนนการเมืองช่วงนี้ แต่พยายามหันไป ลงถนน อื่นๆ กันแทนที่ ไม่ว่าจะเป็นถนนราชดำเนิน  ราษฎร์ดำเนิน หรือถนนดินแดง ฯลฯ ก็แล้วแต่ มาถึงทุกวันนี้...ก็น่าจะพอสรุปได้ว่า ต่างก็ แห้วกระป๋อง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะคาร์ม็อบ ควายม็อบ หรือคนม็อบ ก็เถอะ  เอาไป-เอามา...ต่างทำท่าว่าน่าจะ ปลุกไม่ขึ้น ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าแดง-ไม่แดงขอให้แรงเข้าว่ากันไปถึงขั้นไหน ขนาดไหน เพราะไม่เพียงต้องเจอกับกระสุนยางและแก๊สน้ำตา ยังเจอกับฝนตก-รถติด อีกซะด้วยต่างหาก  บรรดาความคึกคะนอง ความห้าว ความห่าม ที่ถูกชะล้างลงไปด้วยพระพิรุณที่หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน เล่นเอาไปไม่ออกไปไม่เป็นเอาดื้อๆ เหลือที่ยังคิดออกมาท้าฝน ท้าฟ้า ท้ากระสุนยางแก๊สน้ำตา แค่ประมาณ หะ-มอย-รอม-แรม ไม่กี่กระจุกเห็นจะได้...                                                         

-------------------------------------------------------   

ด้วยภายใต้สภาพเช่นนี้นี่เอง...พี่น้อง 3 ป. จึงคงต้องอยู่สมบูรณ์นิรันดร์ไป โดยไม่จำเป็นว่าฟ้าสีทอง หรือสีอะไรก็แล้วแต่ เหลืออยู่แต่เรื่อง โควิด กับเรื่อง เศรษฐกิจ เท่านั้น ที่อาจกลายสภาพเป็นไม้จิ้มฟันอันเบ้อเร่อ รอคอยจังหวะแทงเหงือกจนเสือกตายหรือไม่ อย่างไร ก็คงต้องคอยติดตามกันไปเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในจังหวะที่จะต้องเปิดประเทศ หรือเปิดบ้าน เปิดเมือง กันอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ไม่งั้น...อะไรที่ กู้ กันมาเป็นไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้านล้าน หนักซะยิ่งกว่า สุทธิชัย หยุ่น บวก ท่านขุนน้อย บวก พิชัย นริพทะพันธุ์ (หัวล้าน) ฯลฯ ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า ย่อมต้องกลายเป็น ปัญหา ย่อมต้องส่งผลกระทบ ให้กลายเป็น ผักติดเตียง ไปอีกตราบนานเท่านาน...                                                           

----------------------------------------------------   

คือการหาทางฟื้นตัว ฟื้นสภาพเศรษฐกิจ ให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม หรือให้เหมือนอย่างก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเด็ดขาด แม้ว่ารัฐบาลแต่ละรัฐบาลในประเทศไหนๆ ก็แล้วแต่ พยายามที่จะหลอกตัวเอง หรือปลอบประโลมตัวเอง เพียงใดก็ตาม แต่เมื่อมองถึงปริมาณ หนี้สิน ที่แต่ละรัฐบาลต้องพยายามควานหาเอามาเยียวยา เอามาประคับประคอง ผู้ซึ่งได้รับผลกระทบกันในระดับข้ามปี หรือปาเข้าไปเกือบจะ 2 ปีเข้าไปแล้ว แค่นี้...ก็แทบตายโหง ตายห่า ไปทั่วทั้งโลกเอาเลยก็ว่าได้ นั่นยังไม่รวมไปถึง...ความไม่แน่นอนในการป้องกัน การรับมือ กับวิวัฒนาการ การกลายพันธุ์ของเชื้อโรค ที่น่าจะพอสรุปได้ว่า...ไม่ว่า วัคซีน รายใด ก็คง เอาไม่อยู่ ไปด้วยกันทั้งสิ้น คือแค่ช่วยให้ไม่ถึงกับตาย แต่ไม่ได้หมายถึงไม่ติดเชื้อ แม้แต่สิ่งที่เรียกว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ อันเนื่องมาจากความพยายามไล่จิ้ม ไล่ทิ่ม วัคซีนในแต่ละเข็มไป ให้ครบ 70-80 เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่ ก็ชักกลายเป็นเรื่อง เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย ยิ่งเข้าไปทุกที...                                                              

---------------------------------------------------   

ด้วยเหตุนี้นี่เอง...การหาทางฟื้นตัว พองตัว เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม ให้ ตัวเลขจีดีพี โตๆ เข้าไว้ ยิ่งไปกว่าโตโยต้า โตมิโตซัดดะ หรือโตอะไรต่อมิอะไรก็ตามที ออกจะเป็นความฝันกลางฤดูฝน ฤดูร้อน  หรือฤดูหนาว ซะมากกว่า ยิ่งหันไปดูบรรดา เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ ของโลกทั้งโลกในช่วงนี้ ล้วนแต่น่าขนหัวลุก น่าขนพอง สยองขวัญ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่า เศรษฐกิจจีน ที่เคยเป็นความหวัง เป็นพลัง พอที่จะช่วยขับเคลื่อนอะไรต่อมิอะไรได้บ้าง แต่เมื่อดันมาเจอกับ เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป เข้าไปหนึ่งดอก เจอกับแนวโน้มการล้มละลายของบริษัทธุรกิจที่มีขนาดรายได้ระดับ 10  เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีประเทศ ถึงแม้ไม่ถึงกับ เก๋าเจ้ง แต่ก็น่าจะ อู๋บ้อ หรือ ผูบ้อ อยู่พอประมาณ...                                                                

--------------------------------------------------------    

 ส่วน เศรษฐกิจอเมริกา หรือ เศรษฐกิจยุโรป นั้น...แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เจอกับแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อ  เจอกับปัญหาหนี้สิน ระดับต้องปรับขยายเพดานหนี้แบบคราวแล้ว คราวเล่า ชนิดแทบจะตลอดนิรันดร์กาลไปแล้วก็ว่าได้ ยิ่งทำให้จังหวะและโอกาส ในการฟื้นคืนสภาพ ยิ่งน่าจะเป็นรูปตัว แอล (L) ยิ่งขึ้นไปใหญ่ ไม่ก็ตัว ดับเบิลยู (W) แต่ย่อมไม่มีวันเป็นตัว วี(V) ได้โดยเด็ดขาด!!!  และยิ่งบวกเข้ากับปัญหา ช่องว่าง ระหว่างความรวย-ความจน โลกเหนือ-โลกใต้ ก็ยิ่งส่อแววให้เห็นถึงความปั่นป่วน วุ่นวาย ที่กำลังจะมาถึง ระดับเริ่มๆ รัฐประหาร กันเป็นประเทศๆ ไปแล้วทุกวันนี้...                                                                

---------------------------------------------------------     

อันนี้นี่แหละ...ที่จะทำให้ การเปลี่ยนแปลง ใดๆ ก็ตาม หนีไม่พ้นต้องเป็นไปตาม คาถาศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อรัชกาลที่ 9 อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย นั่นคือ...ต้องปรับสภาพ ปรับตัวเอง ให้เข้าสู่ ความพอเพียง ในทางหนึ่ง ทางใด รูปหนึ่ง รูปใด อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้โดยเด็ดขาด จะมาโตโยต้า โตมิโตซัดดะ เหมือนแต่ก่อน ย่อมเป็นไปไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว และนั่นเองที่จะทำให้ รัฐบาลใดๆ ก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่ พี่น้อง 3 ป. ที่อยู่ยงคงทนมาจนถึงทุกวันนี้ ต้องหยิบไปใช้เป็น ธงนำ เป็นเครื่องชี้แนะ ในการก้าวสู่ ระยะผ่าน เพื่อที่จะให้บรรดาความเปลี่ยนแปลงนั้นๆ เป็นไปใน แง่บวก ได้มั่ง...                                                                      

-----------------------------------------------------     

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Francis  Bacon...“The virtue of prosperity is  temperance; the virtue of adversity  is fortitude. - คุณสมบัติของความมั่งคั่งอยู่ที่ความพอดี คุณสมบัติของความทุกข์ยากอยู่ที่ความเข้มแข็ง...”                               

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น