‘ฝอ.ตร.’ เป็น 'อัมพฤกษ์'!

ประเดิมการก้าวเข้ามากุมบังเหียน “กรมปทุมวัน”  เพียงแค่ครึ่งเดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ของ  “ผบ.เด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

ต้องบอกว่า “สอบผ่าน” ทั้งงานบู๊ งานบุ๋น

“ผบ.เด่น” ละเอียดและใส่ใจความรู้สึก "ประชาชน" และ “ลูกน้อง” แบบจริงจัง รวดเร็ว

เห็นได้จากการไม่รีรอ กรณีออกคำสั่งเด้ง “ผู้การนราธิวาส” พล.ต.ต.แวสาแม สาและ เข้ามาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ทันที หลังจากมีข้อครหา หลังจากมีข้อร้องเรียน อาจจะเกี่ยวข้องเอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด และอาวุธสงครามในพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง

ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก ไม่มีอุ้ม ไม่มีช่วยพวกเดียวกัน

ถูกต้อง เหมาะสม...ปรบมือให้ดังๆ

เช่นเดียวกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  17 ต.ค.65 เป็นต้นมานั้น

ต้องยอมรับเมื่อ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ ออกมาและมีผลบังคับใช้ หลายมาตรา หลายข้อบังคับ ทำให้ “ตำรวจ” จำนวนไม่น้อย ข้องใจ สงสัย และเหมือน “ผบ.เด่น” จะไปนั่งอยู่ในใจ "ลูกน้อง"

ทันทีที่ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ “ผบ.เด่น” ก็มีหนังสือสั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้เร่งสร้างความเข้าใจกับกฎหมายที่มีการบังคับใช้ใหม่ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย “ผบ.เด่น” ก็ให้ความกระจ่างทันทีว่าการแต่งตั้ง “นายพัน” ปีนี้

ใช้ "หลักเกณฑ์เก่า” ในการแต่งตั้ง “นายพัน” วาระประจำปี 2565 เนื่องจากมีเงื่อนไข 180 วัน เว้นไว้เฉพาะการแต่งตั้ง ที่ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่จะไปบังคับใช้ภายใน  14 เม.ย.66

“ผบ.เด่น” ยังเน้นย้ำ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ ยังห้ามให้ตำรวจที่สังกัดสถานีตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการอื่นที่ไม่ใช่สถานีตำรวจ ซึ่งตามเจตนารมณ์กฎหมายต้องการแก้ปัญหา “ตำรวจ” โรงพักขาดแคลน ไม่เพียงพอในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนในพื้นที่

ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

แต่ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากการไม่ให้ตำรวจโรงพักไปช่วยราชการหน่วยงานอื่นๆ กำลังสร้างปัญหาให้ฝ่ายอำนวยการ หรือ ฝอ. ตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศ

กำลังกลายเป็น “อัมพฤกษ์”!!!

ขาดกำลังตำรวจทำงานทางธุรการ

เพราะที่ผ่านมากำลังฝ่าย ฝอ. โดยเฉพาะชั้นประทวน  หลายปีก่อนหน้านี้ได้ย้ายไปอยู่ สตม.ที่มีการขยายหน่วย  บางส่วนก็ไปอยู่ บช.ท่องเที่ยว ที่เปิดใหม่ แล้วก็ไม่มีตำรวจใหม่มาลงตำแหน่ง ฝอ.แทน ทำให้ ฝอ.ขาดแคลนกำลังพลมาตลอด จนต้องร้องขอจากโรงพักมาช่วยบางส่วน

เมื่อ กม.ห้ามดึงตำรวจจากโรงพักมาช่วยราชการแล้ว  ฝอ.แต่ละกอง แต่ละ บช.เลยมีปัญหาขาดกำลังพล ขาดคนทำงาน

“ผบ.เด่น” คงต้องรีบหาวิธีรักษา “อัมพฤกษ์” ให้งาน ฝอ.ทั่วประเทศ

ก่อนจะหนักหนาจนเป็น “อัมพาต”!!!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รอง ผบ.ตร.' ขาดแคลน

นี่ซิ...วงการ "สีกากี" ไม่ทันที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะเก็บของออกจากห้องทำงานหมด หลัง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ปิดฉาก'ผบ.ต่อศักดิ์'

ชัดเจนแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องคาดการณ์ การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2567 ปลายปีนี้ ผู้ที่มีอำนาจจัดทำบัญชีแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อย่างแน่นอน!!!

ทิศทางสีกากีเปลี่ยน!

พอทุกอย่างลงตัว คลื่นลมสงบ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หมายเรียกหมายจับ เริ่มขับเคลื่อนไปตามกระบวนการยุติธรรม ทิศทาง "สีกากี" ก็เลยชัดเจน แจ่มแจ้ง

บ่อนกับตำรวจ

เห็นท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ในการปราบปรามการพนันทั้งแบบ "ออนไลน์" และแบบ "บ่อนพนัน" ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน ผบ.ตร. ถึงขนาดมีนโยบายชัดเจน

เก้าอี้ 'ผบ.ตร.' เปลี่ยน!

มีสัญญาณที่น่าสนใจ ที่น่าจับตา ภายในรั้ว "กรมปทุมวัน" หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งแพ็กคู่ 2 นายพล ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

แฉมาตายหมู่!

ช่วงนี้ขออนุญาตไม่รับนัดใคร ไม่ขอไปไหนไกลเกิน 2 ลี้ เดี๋ยวลุกจากเก้าอี้แถวหน้าเวทีมหกรรมแห่งการแฉ "แวดวงสีกากี" แล้วจะเสียม้า เสียที่ ไม่ได้ยินเรื่องราวเต็มสองหู ไม่ได้เห็นด้วยตาแบบชัดๆ