'พระองค์ภาฯ' ของไทย

ในสุข-มีทุกข์, ในทุกข์-มีสุข

นี่แหละ....

คือสิ่งที่เรียกว่า "ชีวิต" มนุษย์

เมื่อเข้าใจ เราก็จะเห็น "จริงที่ประจักษ์"

เมื่อประจักษ์ ทั้งหนทางตนและหนทางประเทศ ก็เห็นชัด อะไรที่ติดขัดด้วยจิตข้อง ก็พลันสลาย

มองผ่านน้ำใส ย่อมเห็นก้นลำธาร ฉันใด, มองอนาคตชาติ อนาคตตน ผ่านใจที่หลุดข้อง ย่อมกระจ่างใส ก็ฉันนั้น

การที่ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา"

ทรงมี "พระอาการประชวร" ดังทราบ

นั่นไม่ต่างสายฟ้าฟาด "กลางใจ" ประชาชน!

ทุกข์ "ร่วมใจ" โดยมิได้นัดหมาย เฉียบพลัน

เมื่อมีแถลงการณ์ "ฉบับแรก" ออกมา คำว่า "ถอนหายใจโล่งอก" เป็นอย่างไร รับรู้ได้ในแต่ละตัวคน ว่าเช่นนี้เอง

ต่างใจจดจ่อ รอแถลงการณ์ ฉบับที่ ๒

ท่ามกลางการ "ปล่อยข่าว" ในทางร้ายจากสามานย์มนุษย์เจ้าเดิม ต่างๆ นานา

เมื่อฉบับที่ ๒ ออกมา ปวงประชาประหนึ่งยอดหญ้าได้รับแสงตะวันอาบยามเช้า หมอกจาง สายตาเศร้าเจือยิ้มอุ่น

ประเมินน้ำหนักจากแถลงการณ์ว่า "พระองค์ภาฯ" ทรงผ่านพ้นช่วงวิกฤตขีดสุดแล้ว

เหล่าข้าราชการ องค์กร พ่อค้า ประชาชน คนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

เดินทางมาถวายพระพรชัย "พระองค์ภาฯ" ที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาฯ สภากาชาดไทย ไม่ขาดสาย

ในหมู่ดารา ต่างทวีต โพสต์ ข้อความ ถวายพระพรชัย ขอให้ "พระองค์ภาฯ" ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว มากมาย  อันมิเคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน

ที่ผมเท้าความมาทั้งหมดนี้....

เพื่อจะบอกว่า "ในทุกข์มีสุข, ในสุขมีทุกข์" เป็นเหตุปัจจัยต่อกันและกัน ประมาณนี้

พระองค์ภาฯ ประชวร ประหนึ่ง "ทุกข์ประเทศ"

"สิ่งดี" ในทุกข์ครั้่งนี้่ คือ....

ทำให้เรารู้ว่า ประชาชนมีทัศนคติอย่างไร  ต่อสถาบันและต่อพระองค์ภาฯ?

คำตอบที่ชัดออกมา คือ.........

ในหัวใจประชาชน มีสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งพระองค์ภาฯ ประทับสนิทแน่นอยู่ มั่นคง มิคลอนคลาย

การประชวรของ "พระองค์ภาฯ"

 ไม่ต่างปรอทวัด "อุณหภูมิสังคมภักดิ์" ต่อสถาบัน ต่อพระองค์ภาฯ

ผลปรากฏ ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกชนชั้่น ทุกวัย-ทุกรุ่น รักในพระองค์ภาฯ ท่วมท้นใจทั้งแผ่นดิน

รักไม่มีชนชั้น รักไม่มีขีดคั่น รักมีวรรณะเดียวคือ "เสมอเหมือนกัน" ด้วยรัก

ดังนั้น จึงเห็นภาพที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน....

พี่น้องวินมอเตอร์ไซค์ สวมเสื้อวิน ถือดอกไม้คนละช่อ เข้าแถวถวายพระพรชัย หน้าพระรูป "พระองค์ภาฯ" 

เป็นภาพสะท้อน "เจ้าฟ้า" ทอดสายใย เชื่อมโยงใจ "ยอดหญ้า" คือสามัญชนต่ำศักดิ์ เสมอด้วยรัก ค่าเหนือคำบรรยาย

นี่เทียบเท่ากับ "สุขในทุกข์" ยามนี้!

เท่าที่ฟังเสียงระดับชาวบ้าน ว่าเขารักพระองค์ภาฯ เพราะเหตุใด?

คำตอบที่ออกมาเหมือนๆ กัน คือ

พระองค์ภาฯ "ไม่ถือพระองค์" เป็นถึงเจ้าฟ้า แต่ทรงเรียบง่าย นอบน้อม ถ่อมตน แม้กับชาวบ้านที่เรียกกันว่า "ตาสี-ตาสา" ยามทักทาย "พระองค์ภาฯ" ก็ยังทรงยอบกาย

มีพระจริยวัตรงดงาม ทรงห่วงใยชาวบ้าน สอดส่องดูแลทุกข์สุขชาวบ้านสม่ำเสมอ

อีกทั้งเป็นพระธิดาที่รักพ่อ แบ่งเบาราชภารกิจของพ่อคือ "ในหลวง" โดยมิห่วงพระองค์เอง

เป็นแบบอย่างที่ดี ให้ "รุ่นเก่า-รุ่นใหม่" ยึดถือเป็นแบบอย่างทางสังคมชาติ-สังคมครอบครัวได้

เหล่านี้ ค่อยๆ หล่อหลอมเป็นรักบริสุทธิ์สะสมจน "ตกผลึกในหัวใจประชาชนโดยมิรู้ตัว

เมื่อข่าว "พระองค์ภาฯ ประชวร" แพร่ออกไปเท่านั้่นแหละ

ทั้งแผ่นดิน ใจแทบแตกสลาย ไม่เป็นอันกิน-อันนอนกันทั้งประเทศ

นั่นแหละ แต่ละคนถึงประจักษ์แก่ใจตัวเอง "รักพระองค์ภาฯ" ฝังลึกกันขนาดไหน?

ถอดความคำว่า "รัก" ในพระองค์ภาฯ เป็นภาษาชาวบ้านก็คือ

ทุกคน "เอ็นดู" พระองค์ภาฯ" มากๆๆๆ และมากๆๆๆ

ค่าที่ว่า เห็นเจ้าฟ้า "องค์น้อยๆ" พระองค์นี้กันมา ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จนเจริญเติบใหญ่

ทุกคน วางตำแหน่ง "พระองค์ภาฯ" ในฐานะเป็นกำลังใจให้พ่อ คือในหลวง

และเป็นกำลังแผ่นดินให้ประชาชน คือประเทศไทย

การประชวรของพระองค์ภาฯ....

ไม่เพียงวัดปฏิกิริยาสังคมประเทศเท่านั้น  ยังบ่งบอกถึง "ความรับรู้" นานาประเทศ ต่อพระองค์ภาฯ ด้วย

เห็นได้จาก สาส์นแสดงความห่วงใยในพระอาการและถวายพระพรชัยให้ทรงหายประชวรโดยเร็ว

และวันนี้ ๒๒ ธันวา.๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น.

"สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก" แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่ทรงแนบแน่นกับพระราชวงศ์ไทย

จะเสด็จฯ มาลงพระนามถวายพระพร "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา  นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา" ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ

นับเป็นที่สุดของ "ความสุดซึ้ง" ในหัวใจปวงชนชาวไทย

ความผูกพัน แนบแน่น ระหว่าง ๒ ประเทศ ๒ ราชวงศ์นี้ ประทับ-รับรู้ ในจิตวิญญาณชาวไทย สุดจะหาคำใดเอ่ย

"จิตตานุภาพ" พวกเรา ปวงชนชาวไทย อย่าลืมกันนะครับ

สวดมนต์ ส่งจิตถวายเป็นพระพรชัย มุ่งตรงที่ "พระองค์ภาฯ" กันมากๆ ให้สม่ำเสมอ

ในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรเหนือ "พลานุภาพแห่งจิตบริสุทธิ์"

ปาฏิหาริย์ "มีจริง" ได้จากสิ่งเดียว คือ...

"ปาฏิหาริย์แห่งจิต"!

ท่านอย่าเชื่อผมหรือเชื่อใคร แต่จงเชื่อใน "ความบริสุทธิ์แห่งจิต" ของตัวท่านเอง

"พระองค์ภาฯ" คือ "พลังแผ่นดิน"

ยามนี้ พระองค์ดุจ "พระมหาชนก" ลอยคอกลางทะเล พระองค์ต้องทรง "ผ่านด่านทดสอบ" นี้่ ไปสู่จุดนั้น ในอนาคตได้แน่นอน

ด้วย "พลังแห่งรัก" จากรากสู่ยอดนี้แหละ

จะเป็น "ปาฏิหาริย์" ปลุกพระองค์ภาฯ ให้ทรงตื่นขึ้นมาอยู่กับประชาชน ที่ "เฝ้ารัก-เฝ้าหวัง" ในพระองค์มาตลอด ๔๔ ปี

"พระองค์ภาฯ" ต้องไม่ทอดทิ้่งประชาชน!

คุย "การบ้าน-การเมือง" กันซักหน่อยนะ  แต่วันนี้ ขอเป็น "การครอบครัว" เป็นกรณีพิเศษ

ท่าน "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานที่ปรึกษาพรรค "ชาติพัฒนากล้า" ซึ่งมีความผูกพันรักใครนับถือกันเสมือนญาติ

ส่งการ์ดมาบอก "ลูกสาวจะแต่งงาน" วันศุกร์ ๒๓ ธันวา. คือพรุ่งนี้ ผมก็พลอยปลื้มอก-ปลื้มใจเป็นพิเศษ

ลูกสาวท่านสุวัจน์ คือ "คุณพราวพุธ ลิปตพัลลภ" กับพลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ เห็นตั้งแต่คลาน พี่ชายเขกหัว หกล้ม-หกลุก ร้องไห้ขี้มูกโป่ง

เผลอแป๊บเดียว โตเป็นสาว แถมเก่งเกินพ่อ บริหารธุรกิจด้วยตัวคนเดียว เรียกว่าทั้่งแกร่ง-ทั้งกล้าเกินหญิง

แป๊บของผม ก็กว่า ๓๐ ปีนะ

ความจริงพรุ่งนี้ไม่ใช่วันแต่งงานโดยตรง หากแต่เป็นวันเลี้ยงฉลอง "สมรสพระราชทาน"

เจ้าบ่าว คือ "คุณอิทธิชัย พูลวรลักษณ์" ลูกชาย "คุณพิมพ์นิภา พูลวรลักษณ์"

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกอบพิธีสมรสพระราชทานให้ "พราวพุธ-อิทธิชัย" บ่าวสาวผู้มีนามเป็นมงคลชัย เรียบร้อยแล้ว

ที่ "โฟร์ซีซันส์" ริมเจ้าพระยา จึงเป็นงานเลี้ยงฉลองเป็นเกียรติแก่บ่าวสาว

ผมก็อวยพรให้พราวพุธ "หลานสาว" กลายๆ ของผมคนนี้ กับคุณอิทธิชัย จงเป็นครอบครัวสมบูรณ์พร้อม

คำว่า "สมบูรณ์พร้อม" หัวใจอยู่ที่ ต้องมีหลานพอดีๆ ที่ ๕ คน การมีลูกหลานวันนี้ ไม่ได้มีความหมายแค่ผู้สืบสานวงศ์ตระกูลเท่านั้่น

แต่มีความหมายถึงการผลิต "ทรัพยากรบุคคล" ให้เป็นกำลังของประเทศชาติด้วย

เพราะยุคนี้ เกิดค่านิยมใหม่ แต่งงานแล้วไม่ยอมมีลูก

โดยเฉพาะคนมีศักยภาพทางสติปัญญา ทางการศึกษาและสังคม อนาคตประเทศจึงน่าเป็นห่วง

ทุกวันนี้ สภาพสังคมไทยด้านประชากรศาสตร์ เหมือน "ถั่วงอกหัวโต" คือเด็กเกิดใหม่น้อย ในขณะเดียวกัน คนแก่-คนชรา-คนสูงอายุ มากขึ้น

"คนแก่" จะเป็นภาระสังคมที่หนักด้าน "งบประมาณ" จ่ายเพื่อรอตาย จนไม่เหลือไปจ่ายเพื่อเลี้่ยงประเทศให้โต!

ฉะนั้น การสนับสนุนให้แต่งงานแล้วมีลูกอย่างน้อยซัก ๓ คน นอกจากสร้าง "สมบูรณ์สุข" ให้ครอบครัว, วงศ์ตระกูลแล้ว

ภาวะนี้ ยังถือว่า "เสริมสร้างอนาคตชาติ" ด้วย!

อย่างพราวพุธ เรียนเก่ง จบโทมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งอังกฤษ เห็นตัวเล็กๆ ขี้แย แต่ที่แท้ เก่ง-แกร่ง

เมื่อทราบว่าแต่งงาน ผมจึงกระตือรือร้น อยากให้หลานมีลูกสืบวงศ์ตระกูล ไม่ใช่เอาแต่งานอย่างที่เป็นอยู่

อ้าว....

จะคุยเรื่องพรรค "ชาติพัฒนา" ซักหน่อย ที่ได้ข่าว หลังจาก "คุณกรณ์ จาติกวณิช" ยกกล้ามารวมเป็น "ชาติพัฒนากล้า" แล้ว

จะมีอีกพรรคมา "ยุบรวม" กับชาติพัฒนากล้าเป็น "พรรคที่ ๓" แสดงว่า รอบนี้ คุณสุวัจน์ผู้อาวุโสทางการเมือง "เอาจริง"

ก็ดี มี "พรรคกลางๆ" ที่ยึดมั่นใน "ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์" ผนึกเป็นปึกแผ่น

ทำการเมือง ถ้าหวังครองเมือง จะผิดหวัง

แต่ถ้าหวังประโยชน์บ้านเมือง จะสมหวัง!

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐมนตรีถุงขนม' ๒

เมื่อวาน ........ นำคำสั่งคดี "นายพิชิต ชื่นบาน" ติดคุก ๖ เดือน กรณี "ถุงขนม" ตั้งเป็นโจทย์ให้ศึกษากันไปแล้ว

'รัฐมนตรีถุงขนม' ๑

อีกปัญหาหนึ่งของรัฐบาล "เศรษฐา ๒" คือการแต่งตั้ง "นายพิชิต ชื่นบาน" ที่เรียกกันว่า "ทนายถุงขนม" เป็นรัฐมนตรี!

'ผู้กำลังจะมากับดาว'

"ดาวพฤหัสบดี" เทพเจ้าแห่งคุณธรรม "ดาวปราบมาร" ย้ายบ้านจาก "เมษ" ไปอยู่ "พฤษภ" แล้ว เมื่อวาน (๓๐ เม.ย.๖๗) พฤษภ เป็นภพ "กดุมภะ" ของดวงเมือง

"จะแถกไปได้ซักกี่เดือน?"

เรา "เห็นอะไร"..... จากการลาออกจากตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" ของท่าน "ปานปรีย์ พหิทธานุกร"?