ตัวจริง...ทำจริง...ไม่อิงบารมีใคร

เลือกตั้งครั้งนี้ พินิจพิเคราะห์การหาเสียงของแต่ละพรรคให้ดีว่า คนที่พรรคเสนอเป็น Candidate นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นตัวจริงหรือไม่ ทำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นตัวของตัวเองหรือไม่ หรือว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง และคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีพฤติกรรมเช่นไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร เราสามารถไว้วางใจให้คนที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลครอบงำของคนอื่นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ฟังข้อความในการหาเสียง ดูแนวทางในการทำงาน แล้วเราจะเห็นว่าคนที่พรรคเสนอเป็น Candidate นั้นมีความเหมาะสมที่จะเป็นประมุขฝ่ายบริหารหรือไม่

ดูดีๆ ติดตามการหาเสียงและแนวทางของการเดินสู่การเลือกตั้งที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด เราก็จะพบว่าคนที่พรรคเสนอเป็น Candidate มีนายทุนสามานย์อยู่เบื้องหลัง บางคนก็อยู่ภายใต้การกำกับโดยคนที่เราไม่อาจจะไว้วางใจได้ เพราะมีประวัติของการทำงานในอดีตที่ไม่โปร่งใส คนแบบนี้เราจะไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการทำงานของเขาจะไม่ถูกครอบงำโดยนายทุนสามานย์ หรือบุคคลที่เราไม่อาจไว้วางใจได้ เพราะคนบางคนนั้น เราก็เห็นแล้วว่าโกงเป็นสันดาน โกหกเป็นสันดาน หาความซื่อสัตย์สุจริตไม่ได้

คนบางคน เมื่อเราติดตามดูการทำงานของพรรค เราก็จะพบว่าเขาเป็นเพียงตัวแทนที่เข้ามาขัดตาทัพ เพราะตัวจริงไม่สามารถทำหน้าที่ได้ เพราะมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย และถ้าหากเราติดตามดูให้ดี เราจะพบว่าเขาจะทำตามแนวทางที่เจ้าของพรรคตัวจริงเป็นคนกำหนด เพราะอำนาจเงินที่มี ทำให้เขากลายเป็นผู้กำหนดแนวทางการทำงานของพรรค ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ใครไม่ทำตามที่เขาต้องการ ก็ไม่อาจจะอยู่กับพรรคต่อไปได้ จึงมีการลาออก โบกมือลาพรรคกันเป็นทิวแถว แล้วเราพร้อมที่จะให้คนที่เป็นตัวแทนเจ้าของพรรคตัวจริงมาเป็นนายกรัฐมนตรีของเราหรือ เราคิดว่าถ้าหากพวกเขาได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน บ้านเมืองเราจะเป็นอย่างไร เขาจะเปลี่ยนแปลงประเทศเราไปในทิศทางใด เพราะฉะนั้น เราจึงต้องพิจารณาให้ดี ถ้าหากเรายังรักและห่วงใยความมั่นคงของประเทศชาติ เราต้องตัดสินใจที่จะมองข้ามพรรคที่คิดเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในทิศทางที่เราไม่ต้องการ เราต้องดำรงความเป็นไทยที่มีรากเหง้าที่แข็งแกร่ง

บางพรรค คนที่เป็นหัวหน้าพรรคที่จะเป็น Candidate นายกรัฐมนตรี เหมือนจะรู้ตัวว่าตัวเองมีบารมีไม่เพียงพอ เพราะดูจาก Poll แล้ว ความต้องการให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มีคะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ห่างไกลจากคนที่ได้อันดับต้นๆ อยู่มาก ดังนั้นจึงมีความพยายามหาเสียงด้วยการขายนายเก่าที่มากด้วยบารมี เช่นนี้แล้ว เราก็ขอตั้งคำถามว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวน ส.ส.มาเป็นจำนวนมาก จนได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (ซึ่งมีโอกาสน้อยเต็มที) คนที่เป็น Candidate เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะทำหน้าที่เป็นประมุขของฝ่ายบริหารด้วยตนเอง หรือว่าจะต้องอาศัยบารมีของนายเก่าในการทำให้คนยอมรับ

เราควรจะตั้งเป้าเอาไว้ให้ชัดเจนว่าเราจะเลือกพรรคที่เสนอ Candidate นายกรัฐมนตรีที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีนายทุนสามานย์อยู่เบื้องหลัง ไม่มีคนที่ไม่น่าไว้วางใจเป็นผู้กำกับ เป็นคนที่มีบุคลิกที่สง่างาม มีผลงานที่ชัดเจนจับต้องได้ มีภาวะผู้นำ สามารถมองเห็นความสามารถของผู้ร่วมงาน และมอบหมายงานให้แก่คนที่มีความรู้ความสามารถตรงกับบทบาทและหน้าที่ จนสามารถนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ได้ และนำพาประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้าติดอันดับต้นๆ ของโลก เป็นคนมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล ที่สำคัญคือเป็นคนที่ทำงานด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีประวัติการโกง มีผลงานเชิงประจักษ์ที่จับต้องได้ ทั้งการแก้ปัญหาและการพัฒนา

เราลองเปรียบเทียบคนที่เป็น Candidate นายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคในประเด็นต่อไปนี้ แล้วดูว่าใครคือคนที่ได้คะแนนสูงสุดเมื่อเรารวมคะแนนทุกประเด็นเข้าด้วยกัน

  • บุคลิกที่สง่างามสง่าผ่าเผย ดูโดดเด่น ไปไหนมาไหน ไม่อายใคร สังขารยังใช่ที่จะเป็นผู้นำ
  • การเป็นคนมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล ใส่ใจอนาคตของประเทศ มีเป้าหมายในการนำพาประเทศสู่ความเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีรายได้ระดับสูงด้วยความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน
  • การเป็นคนที่เข้าใจความหมายของคำว่ายุทธศาสตร์ที่เป็นแนวทางในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก ด้วยแนวทางของ ICT (Innovation, Creativity, และ Technology)
  • การเป็นคนที่มีผลงานเชิงประจักษ์ชัดเจน ทั้งการแก้ปัญหาและการพัฒนา
  • การเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต สามารถไว้วางใจได้ว่าจะบริหารประเทศเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
  • การเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีนายทุนสามานย์หรือคนที่ไว้ใจไม่ได้อยู่เบื้องหลัง
  • ความเป็นคนที่มีความชัดเจนเรื่องของความจงรักภักดี ดำรงรักษาความเข้มแข็งของชาติ ศาสน์ กษัตริย์
  • การเป็นสมาชิกของพรรคที่รวบรวมคนเก่งและคนดีมาทำงานการเมืองด้วยคุณธรรมนำความรู้

ลองให้คะแนนแต่ละคนในแต่ละประเด็น แล้วรวมคะแนนดูว่าใครได้คะแนนมากที่สุดสำหรับการมีคุณสมบัติที่เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี ใครที่น่าจะเป็นคนที่เป็นประมุขฝ่ายบริหารตัวจริงที่ไม่ต้องพึ่งพิงบารมีของใคร และที่สำคัญไม่มีนายทุนสามานย์หรือนายทุนที่เราไม่ไว้วางใจอยู่ข้างหลัง ใครที่สามารถใช้คุณสมบัติของตนเองในการหาเสียง โดยไม่ต้องพึ่งพาบารมีใคร ไม่ว่าพ่อ แม่ หรือนายเก่า...รู้ใช่ไหมว่าควรจะกาเลือกพรรคใด ทั้งบัตร 2 ใบที่ต้องกาในปี 2566 นี้นะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

ดร.เสรี ชำแหละดิจิทัล 10,000

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า แจกเงินดิจิทัล 10,000 แก่คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปที่รายได้น้อยกว่า 840,000 หรือเงินเก็บไม่เกิน 500,000 บาท ยังมีคำถามมากมาย

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล