บันทึกหน้า 4

www.thaipost.net ไทยโพสต์ ขับเคลื่อน "อิสรภาพแห่งความคิด" @ ประชาชื่น46 การเมืองใกล้เลือกต่างๆ นอกจะหาเสียงอัดกันแหลกแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นขั้วเดียวกันหรือต่างขั้ว โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่หวังให้  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกฯ และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เป็นนายกฯ รอบ3 ให้ได้ ด้วยจุดขาย “ฝ่ายอนุรักษ์สุดโต่ง” เพื่อดึงคะแนนฟากนี้มาให้ตัวเองให้มากที่สุด โดยไม่สนใจเพื่อนที่เคยเป็นนั่งร้านให้ตัวเองอย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทย  

ล่าสุดในการหาเสียงที่เมืองโคราชเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้สร้างความอือฮาด้วยการเคลมผลงานของพรรคการเมืองอื่นๆ เป็นของตัวเองทำนองว่าเป็นของปลอม โดยอ้างว่าเป็นเพราะนายกฯ 

อนุมัติโครงการต่างๆ ให้ มิเช่นนั้นผลงานจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ พร้อมทั้งเสนอนโยบายเพิ่มสิทธิ์บัตรสวัสดิการพลัส เป็น 1,000 บาท เรียกว่าตีแสกหน้าพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” 700 บาท อย่างจัง เมื่อคำนวณวงเงินแล้วพบว่า ผู้มีสิทธิ์หรือผู้มีรายได้น้อยมีทั้งหมด 15 ล้านคน ต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.5 หมื่นล้าน หรือปีละ 1.8 แสนล้านบาทเลยทีเดียว     ส่วนจะทำได้ตามคำสัญญาหรือไม่ ต้องรอติดตามชมกันว่า รทสช.จะได้ ส.ส.เกิน 25 เสียง และรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้เกิน 250 เสียงหรือไม่ และพรรคอื่นๆ จะยอมให้นั่งนายกฯหรือไม่หากตัวเองได้ ส.ส.น้อยกว่า แต่ที่แน่ๆ ก่อนจะถึงวันนั้น ย้อนไปเตือนความจำในการประชุม ครม.เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” เคยติติงพรรคการเมืองอื่นๆ ในเรื่องการหาเสียงใช้งบประมาณจำนวนมาก และดักคอเพราะเกรงว่าเงินในคลังประเทศจะไม่เพียงพอ แต่พอมาวันนี้เมื่อตัวเองสวมเสื้อพรรคการเมืองเต็มตัว กลับเลือกเทกระจาดเสียเอง ไม่รู้หลังเลือกตั้งจะมีมหกรรมกู้ให้คนไทยเป็นหนี้กันอีกกี่รอบ รวมทั้งยังจะทำให้ชาวบ้านเคยตัวหรือไม่ด้วยประชาชนนิยมสุดโต่ง

๐ ต่อด้วยกรณี “จอมแฉ” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองที่แฉไม่หยุดไม่หย่อน ที่ผ่านมาทำผลงานได้ดีเรื่องการแฉเงินสีเทา และความไม่ชอบมาพากลในแวดวงสีกากี ระยะหลังติดใจ ขยายผลออกมาแฉเกี่ยวโยงกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มในกระทรวงคมนาคม และเรื่องนโยบายกัญชา โดยก่อนหน้านี้  “เสธหิ” หรือนายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถึงขนาดลงทุนพาเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล ก่อนส่งตัวให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาฯ นายกฯ และหัวหน้าพรรค รทสช.ลงมารับเรื่องด้วยตัวเอง จากเรื่องการแฉทุจริตแบบธรรมดา จึงมองว่ามีอะไรแอบแฝงเพื่อดิสเครดิตพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่  

“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.กลาโหมและหัวหน้าพรรคภูมิไทย (ภท.) ยอมรับว่า “รู้ๆ กันอยู่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง” และเชื่อว่าสังคมก็พอจะเดาทางออก แต่หากจะโฟกัสไปที่ “จอมแฉ” ว่าทำไมอยู่ๆ ถึงออกอัดคนกันเองทั้งที่ก็รู้จักกันดี กระทั่งหัวหน้าพรรคเลือดน้ำเงิน บอกว่าถึงความสัมพันธ์ว่า “เคยคิดทำการเมืองใน กรุงเทพฯ ด้วยกัน แต่พรรค ภท.ในขณะนั้นคิดว่า ในกรุงเทพฯ คงจะยาก ไม่เหมือนตอนนี้ แต่ตอนนี้เราก็ได้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มาช่วยพอดี นายชูวิทย์ก็อาจจะโกรธที่ไม่ได้ไปชวน” ...ฟังจบก็พอจะถึงบางอ้อ

๐ อีกด้านหนึ่งทางฝั่งพรรคเพื่อไทย (พท.) กับเป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อสานฝันให้นายหญิงเล็ก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ทายาทรุ่น 4 เป็นนายกฯ ฉะนั้นหากจะได้อย่างสบายใจต้องรวบรวมเสียง ส.ส.ให้ได้ 376 เสียงเท่านั้น ไม่ต้องหวังพึ่ง ส.ว.ที่ควบคุมไม่ได้ ยิ่งไม่นานนี้ก็ดาหน้าออกดักคอขวางตระกูลชินวัตรอย่างจัง เพราะกลัวความขัดแย้ง แถมย้อนยุคไปถึงวีรกรรมของระบอบทักษิณในอดีตให้คนไทยหวาดกลัว ดังนั้น จึงต้องให้นายใหญ่เร่งเครื่องกวาดต้อน ส.ส.ทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะกลุ่มโรงแป้งโคราช กลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรี หรือเครือข่ายกลุ่มสามมิตร ที่เด็กๆ หลายคนได้ย้ายไปพึ่งกระแสพรรคเสื้อแดงกันแล้ว

 แต่ระดับแกนนำอย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม และแกนนำกลุ่มจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะบอกว่าอยู่บ้านเดิม แต่ยังเป็นที่สงสัยอาจย้ายตามมานาทีสุดท้ายภายหลังยุบสภา เพราะอยู่พรรคเดิมก็ไร้บทบาท อีกทั้งยังถูก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีบทบาทคุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ไม่นับก่อนหน้ายังถูก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ดอดไปดึงคนของสามมิตรด้วยตัวเอง มัดใจด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี ข้ามหัว “เสี่ยไก่ชน” และจำต้องทนกลืนเลือดมาแล้ว ฉะนั้นเรื่องย้ายขั้วจึงยังมีมูลสอดรับกับที่ “เสี่ยเต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรคเพื่อไทยปราศรัยหาเสียงที่เมืองเชียงใหม่วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา จู่ๆ ก็ประกาศ “เรามีนโยบายวัวล้านตัว” หากนึกย้อนไปในอดีตคอการเมืองรู้ทันทีว่าใครคือเจ้าของไอเดียนี้. 

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

งามไส้อีกแล้ว! นักโทษตรวจโผ ครม. "เศรษฐา 2" เร่งด่วนขนาดนายกฯ ควงภูมิธรรม แจ้นกินข้าวเที่ยงกับ "นายใหญ่" ที่โรงแรมย่านสุขุมวิท คราวนี้ต่างจากครั้งมุดบ้านจันทร์ส่องหล้ารดน้ำสงกรานต์

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับความพยายามของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสียจริงๆ เพราะ อุตส่าห์สร้างภาพ “ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก” โดยให้บรรดารัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลมายืนร่วมด้วย

กองเชียร์ไม่เยอะ

กระแสข่าวเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เล่นเอารัฐมนตรีว้าวุ่นแล้ว ไม่พอยังลามไปถึงการยกเครื่อง การทำงานของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย

บันทึกหน้า 4

โผ ครม.เศรษฐา 2 นิ่งแล้ว โดยมีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง จะนั่งเก้าอี้นายกฯ ตำแหน่งเดียว โดย นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกฯ นั่ง รมว.การคลัง

บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ฝุ่นยังตลบอยู่ทุกวันสำหรับโผ ครม. โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันอากาศร้อนๆๆ แต่คงไม่ร้อนเท่ากับจิตใจของคนในสังคมไทย ที่เห็นภาพ "นักโทษ" เดินลอยชายอวดศักดาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง