จีนกับสงครามยูเครนเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของการแสดงจุดยืนของรัฐมนตรีต่างประเทศฉิน กังในสัปดาห์ที่ผ่านมา
เป็นจังหวะที่เขามีโอกาสตอบโต้ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯจากวอชิงตันว่าปักกิ่งกำลังพิจารณาจะส่งอาวุธร้ายแรงให้รัสเซียไปทำสงครามในยูเครน
ขณะที่จีนเพิ่งเสนอ “แผนสันติภาพ” 12 ข้อเพื่อให้มีการหยุดยิงอันจะนำไปสู่การเจรจาให้โลกกลับไปสู่ภาวะปกติ
ฉิน กังบอกว่าวิกฤตยูเครนเป็น “โศกนาฏกรรมที่สามารถหลีกเลี่ยงได้”
เขาบอกว่าการที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงจุดนี้นั้นถือเป็นบทเรียนที่เจ็บปวด ซึ่งทุกฝ่ายควรค่าแก่การไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง
ว่าแล้วเขาก็วิเคราะห์ให้ฟังว่าวิกฤตการณ์ยูเครนมีเหตุผลทางประวัติศาสตร์และสถานการณ์ปัจจุบันที่ซับซ้อน
โดยพื้นฐานแล้ว ความรุนแรงที่ยูเครนนั้นเป็นเป็นการประทุครั้งใหญ่ของความขัดแย้งในธรรมาภิบาลความมั่นคงของยุโรป
“เรามักจะตัดสินข้อดีข้อเสียของเรื่องราวแบ่งแยกจากกัน เช่นระหว่างสันติภาพกับสงคราม เราเลือกสันติภาพ ระหว่างการเจรจาและการคว่ำบาตร เราเลือกการเจรจา ระหว่างการลดอุณหภูมิกับการเพิ่มอุณหภูมิ เราเลือกลดอุณหภูมิ...”
แต่ฉิน กังยืนยันว่าจีนไม่ใช่ทั้งผู้ก่อเรื่องหรือผู้มีส่วนร่วมในวิกฤตนี้
และย้ำว่าจีนไม่ได้จัดหาอาวุธให้กับฝ่ายใดในความขัดแย้งนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมจึงโทษจีนหรือแม้แต่ออกมาตรการคว่ำบาตรและข่มขู่จีน
“เราจะไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้อย่างเด็ดขาด”
เขาบอกว่าจีนได้เผยแพร่เอกสาร “จุดยืนจีนต่อทางออกทางของวิกฤตยูเครน” ซึ่งได้เสนอแผนการสันติภาพ 12 ข้อ
อาทิเช่น การเคารพอำนาจอธิปไตยของทุกประเทศ การละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น การหยุดยิง และเริ่มการเจรจาสันติภาพเป็นต้น ซึ่งแกนหลักของข้อเสนอคือการส่งเสริมให้มีการเจรจาสันติภาพ
แต่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนบอกว่าน่าเสียดายที่ความพยายามในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพถูกบ่อนทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เหมือนมี “มือมืด” ที่คอยผลักดันให้ความขัดแย้งเพิ่มระดับขึ้น โดยพยายามใช้วิกฤตยูเครนเพื่อการสมคบคิดอย่างใดอย่างหนึ่งทางภูมิรัฐศาสตร์
เขาบอกว่าถึงวันนี้วิกฤตยูเครนดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
มีทั้งความพยายามในการหยุดยิง การฟื้นฟูสันติภาพและกลับสู่แนวทางการแก้ปัญหาด้วยการเมือง
มีทั้งความพยายามในการเติมเชื้อไฟ ขยายวิกฤตและลากความขัดแย้งสู่ห้วงลึกที่ไม่อาจควบคุมได้ ถึงที่สุดแล้ว
แต่จีนเชื่อว่าการเผชิญหน้า การคว่ำบาตร และการกดดัน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
สิ่งสำคัญตอนนี้คือความใจเย็น ความมีเหตุผล และการเจรจา ควรมีการเริ่มต้นกระบวนการเจรจาสันติภาพโดยเร็วที่สุด และควรเคารพข้อกังวลด้านความมั่นคงที่สมเหตุสมผลของทุกฝ่าย เพื่อแสวงหากลยุทธ์ในการบรรลุเสถียรภาพระยะยาวของยุโรป
ฉิน กังเสริมว่าโลกปัจจุบันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เกิดอะไรขึ้นกับโลก เราควรทำอย่างไร มนุษยชาติได้เดินทางมาถึงทางแยกของประวัติศาสตร์อีกครั้ง
เขาอ้างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ได้ชี้ให้เห็นแนวทางที่ถูกต้องของธรรมาภิบาลโลกจากมุมมองของโลก ประวัติศาสตร์ และมนุษยชาติ
ฉิน กังบอกว่าในช่วงสิบปีของยุคใหม่สี จิ้นผิงได้เสนอข้อริเริ่มและข้อเสนอที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ การร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
ค่านิยมร่วมกันของมวลมนุษย์
ข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก
และข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก
หัวใจหลักของแนวคิดเหล่านี้คือทุกประเทศต่างพึ่งพาอาศัยกัน มวลมนุษย์ล้วนมีโชคชะตาร่วมกัน ประชาคมระหว่างประเทศควรสามัคคีและร่วมมือกัน
ความสามัคคีและความร่วมมือสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ และสามารถแก้ไขการขาดดุลในสันติภาพ การพัฒนา ความมั่นคง และธรรมาภิบาลได้
อีกทั้งสามารถสร้างโลกที่มีสันติภาพอย่างยั่งยืน มีความมั่นคงทั่วไป มีความรุ่งเรืองร่วมกัน มีการเปิดกว้างและไม่แบ่งแยก และมีความสะอาดสวยงามได้
แต่เขาก็ยอมรับว่าเส้นทางสู่ธรรมาภิบาลระดับโลกนั้นไม่ได้ราบรื่นเสมอไป
แล้วก็ยกเอาคำกล่าวชาวจีนโบราณว่า “โลกจะสงบถ้าผู้คนรักใคร่ปรองดองกัน ถ้าผู้คนเกลียดกันจะเกิดความวุ่นวาย”
และมีอีกคำกล่าวหนึ่งว่า “การปฏิบัติที่ยึดประโยชน์ส่วนตนจะเกิดความวุ่นวาย การปฏิบัติที่ยึดกฎระเบียบจะเกิดธรรมาภิบาล”
และเสริมด้วยการอ้างถึงภูมิปัญญาของคนโบราณว่าการสร้างธรรมาภิบาลของโลกต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและปฏิบัติตามหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศที่สะท้อนอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ
ต้องรักษาความยุติธรรม ต่อต้านความเป็นเจ้าโลกและการมุ่งหาผลประโยชน์ส่วนตน
ต้องคงไว้ซึ่งความสมัครสมานสามัคคี ไม่สร้างความแตกแยกและการเผชิญหน้า
ในเมื่อประเทศกำลังพัฒนามีสัดส่วนประชากรมากกว่าร้อยละ 80 ของโลก และมีส่วนร่วมในการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกมากกว่าร้อยละ 70 ประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาควรมีสิทธิที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และประเทศกำลังพัฒนาควรมีสิทธิ์มีเสียงในกิจการโลกมากขึ้น
ฟังคำให้สัมภาษณ์ร่ายยาวอย่างนี้แล้วจะบอกว่าฉิน กังสอนมวยสหรัฐฯก็ได้
เขาบอกว่าในวิถีแห่งศีลธรรม-จรรยา โลกนี้ล้วนเป็นของส่วนรวม
จีนจะยึดมั่นในความคำนึงถึงโลกอยู่เสมอ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการธรรมาภิบาลโลก และสร้างคุณูปการมากขึ้นเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของโลกและความก้าวหน้าของมนุษย์
ถือว่าวันนี้จีนกำลังจะรุกหนักทางด้านต่างประเทศ, ความมั่นคงและเศรษฐกิจ
และสี จิ้นผิงกับฉิน กังใช้โอกาสของการประชุมใหญ่ของสภาประชาชนและสภาที่ปรึกษาประชาชนเปิดฉากโยนระเบิดกลับไปใส่วอชิงตัน
เปิดฉากการทูตร้อนแรงสำหรับปีนี้อย่างดุเดือดเต็มที่
เราควรจะเตรียมการสำหรับการปะทุของ “สงครามเย็น” รอบใหม่ให้จงหนัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


