ทางเลือกในโลกที่เต็มไปด้วยอัตราเสี่ยง

ยังไม่ทันได้แซนด์บ๊ง แซนด์บ็อกซ์ อะไรซักเท่าไหร่เลย...มาอีกซะแหล่วว์ว์ว์!!! โควิด-19 เวอร์ชันใหม่ จากระดับเดลตา พัฒนาขึ้นเป็น โอไมครอน (Omicron) ยกระดับความร้าย ความอันตราย จนประเทศไหนต่อประเทศไหน ต้องหวนกลับไปปิดบ้าน ปิดเมือง โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางแถบแอฟริกาใต้ เรียกว่า...อะไรมันจะซวยแล้ว ซวยเล่า เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแว้วว์ว์ว์...

----------------------------------------

ส่วนจะร้ายขนาดไหน อันตรายขนาดไหน...คงต้องรออีกซัก 2-3 สัปดาห์ เห็นว่าองค์การอนามัยโลก WHO ท่านคงมีคำตอบ คำเฉลย พอให้ได้รับรู้กันแบบชัดๆ จะจะ แต่เท่าที่ลือๆ ตามแบบฉบับข่าวล่า-มาเรือ ก็เล่นเอาหลายต่อหลายประเทศประกาศ ห้ามเข้า

สำหรับนักเดินทาง ผู้โดยสาร ที่มาจากแถวๆ แอฟริกาใต้ บอตสวานา เลโซโท ซิมบับเว โมซัมบิก นามิเบีย เอสวาตินีหรือสวาซิแลนด์เก่า ไปจนถึงมาลาวี ซึ่งก็ถือเป็นโชคดี ที่บรรดานักท่องเที่ยว-เดินทางเหล่านี้ ไม่ได้มีอยู่ในบัญชีรายชื่อ 63 ประเทศ ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ตัดสินใจเปิดรับ แบรับ ไปก่อนหน้านี้...

-----------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...แม้ใน 63 รายชื่อ จะไม่มีประเทศแถบแอฟริกาใต้อยู่เลย แต่ประเทศที่มีอันต้องเจอกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ หรือสายพันธุ์โอไมครอนเข้าไปแล้วแบบจังเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นเบลเยียม อิสราเอล ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ไม่รู้ควรจะเอาไงต่อไปดี คือในเมื่อโลกทั้งโลกมันเชื่อมต่อกันไปหมดแล้ว ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ ที่จะปิดๆ มิดๆ  เม้มๆ ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่เพิ่งเปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศ ได้แค่ประมาณเดือนเดียวเท่านั้นเอง จะต้องเม้ม ต้องแง้ม หรือถึงขั้นต้องปิดโน่น ปิดนี่ หรือไม่ อย่างไร คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาไปว่ากันเอาเองก็แล้วกัน...

---------------------------------------------------

เพราะสำหรับ ทวยไทย อย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย...ถ้าหากไม่ถึงขั้นต้อง ป่วยตาย แนวโน้มที่อาจใกล้ๆ อดตาย ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย เพราะเท่าที่ท่านเชื้อไวรัสโควิดท่านออกฤทธิ์ ออกอาละวาด ก็ลากยาวว์ว์ว์มาระดับเกือบ 2  ปีเข้าไปแล้ว ไม่เพียงแต่ทำให้ ทุนหาย-กำไรหด รายได้จากการท่องเที่ยวอันเป็นรายได้หลัก ปาเข้าไปถึง 16 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แทบหายเกลี้ยง แทบไม่เหลือต้นทุน-กำไรเอาไว้เลย  ยังหนีไม่พ้นต้องหันไปเยียวยา หันไปอัดฉีด เพื่อให้ภาวะเศรษฐกิจสามารถหวนฟื้นคืนกลับสู่สภาพเดิมให้จงได้ หรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ จนป่านนี้...ไม่รู้ว่าเหลือเงินติดเก๊ะ อยู่อีกซักเท่าไหร่ ต่อเท่าไหร่ โอกาสที่จะกรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชรฯ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

---------------------------------------------------------   

ทำไงได้ล่ะทั่น!!!...ในเมื่อโลกใบนี้ออกจะเป็นอะไรที่โหดร้าย โหดเหี้ยม อำมหิต ยิ่งเข้าไปทุกที ทั้งดิน-ฟ้า-อากาศ ทั้งสงครามความขัดแย้ง แถมยังต้องมาเจอกับ โรคระบาด ที่น่าเกลียด น่ากลัว มิใช่น้อย ระดับพลิกโลก-เปลี่ยนโลก จากหน้ามือเป็นหลังตีน หรือหลังตีนเป็นหน้ามือ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป หรือพูดง่ายๆ...สิ่งที่เรียกว่า อัตราเสี่ยง ในเรื่องต่างๆ นับวันมันมีแต่จะสูงกับสูงยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ การหาทางปรับตัว ปรับสภาพ เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ หรืออยู่ได้อย่างยั่งยืน มั่นคง พอสมควร จึงเป็นทั้ง ทางออก และ ทางเลือก ที่บรรดาทวยไทยทั้งหลาย พึงต้องเก็บไปนั่งคิด นอนคิด กันวันละ 3 เวลาหลังอาหารซะแต่เนิ่นๆ...

--------------------------------------------------

อย่างน้อย...ทางออกหรือทางเลือกอีกทางหนึ่ง ที่รัฐบาลท่านก็ได้ทุ่มทุน ทุ่มเท เอาไว้มั่งแล้ว โดยมีแนวทางหรือพระราชดำริของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 เป็นเข็มมุ่ง และมีการสืบสานปณิธานเสริมแต่ง ต่อยอด ของล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 10 รองรับไว้อีกต่างหาก จนกลายเป็นโครงการอันเป็นที่รู้จักกันในนาม โคก หนอง นา โมเดล มาถึงขั้นนี้...ก็น่าที่จะพอเป็นรูป เป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว หรือถ้าว่ากันตามคำแถลงของโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกาฯ ที่ผ่านมา เห็นว่า...เริ่มขยับขับเคลื่อนไหวไปได้ถึง 73 จังหวัด  566 อำเภอ 22,773 หมู่บ้านเอาเลยถึงขั้นนั้น ใช้เงินงบประมาณไปแล้วประมาณ 2,000 ล้าน จากวงเงินงบประมาณโดยรวม 4,710 ล้านบาท...

--------------------------------------------------

คือไม่ว่าโดยรายละเอียด ตื้น-ลึก-หนา-บาง ของโครงการดังกล่าวจะเป็นไปในแบบใด รูปใดก็แล้วแต่ แต่โดยเข็มมุ่งและโดยหลักการพื้นฐาน ก็เพื่อหวังจะช่วยให้บรรดาเราๆ-ทั่นๆ  หรือบรรดาทวยไทยทั้งหลาย เกิดการ ลดอัตราเสี่ยง ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะในแง่ชีวิตความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ หรือลึกลงไปถึงอารมณ์-ความรู้สึกและทัศนคติ ที่มีต่อวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมซึ่งสามารถยกระดับให้เป็นไปในแง่บวกทั้งต่อตัวเองและส่วนรวมได้อย่างมีน้ำหนักและเป็นจริง เป็นจัง ขึ้นอยู่กับว่าเขาเหล่านั้นพร้อมจะปรับสภาพ ปรับตัวเอง ไปในทางไหน หรือทิศไหน...

---------------------------------------------------

ดังนั้น...ถ้าว่ากันในแง่ทางออก ทางเลือก ก็คงไม่ได้มีแค่เฉพาะโครงการเป๋าตง เป๋าตัง โครงการยิ่งใช้-ยิ่งได้ โครงการคนละครึ่ง เฟสหนึ่ง เฟสสอง ฯลฯ หรือเฟสใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ยังมีสิ่งที่น่าเลือกควรเลือก และควรที่จะใช้เป็นทางออกสำหรับชาวเราทั้งหลาย ในภาวะที่อะไรต่อมิอะไรมันชักจะเต็มไปด้วย ความเสี่ยง เสียเหลือเกิน นั่นก็คือโครงการโคก  หนอง นา โมเดล ที่ได้ขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว อย่างเป็นรูป เป็นร่าง เป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่เพียงนามธรรม อีกต่อไป...

----------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก John Stuart Mill (อีกครั้ง)... I have learned to seek my happiness by limiting  my desires, rather than in attempting to satisfy them. -  ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะแสวงหาความสุขด้วยการจำกัดความอยากของข้าพเจ้า แทนที่จะพยายามสนองตอบต่อความอยากนั้นๆ...”

--------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น