เล่นน้ำดีกว่า

โรงเรียนลูกผมปิดเทอมช้ากว่าโรงเรียนไทยทั่วไป เขาไม่ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่ตามตารางโรงเรียนฝรั่งหรอกครับ โรงเรียนลูกผมเปิด-ปิดตามตารางโรงเรียนไทย เพียงแต่เปิดและปิดเทอมช้ากว่าโรงเรียนอื่นประมาณเดือนนิดหน่อยครับ

ดังนั้น ช่วงที่โรงเรียนทั่วไปเพิ่งปิดหมาดๆ เป็นช่วงที่ผมยังต้องส่งลูกไปโรงเรียน บนถนนที่โล่งทุกวัน เป็นเวลาอีกหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งจากปกติใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากบ้านถึงโรงเรียนในช่วงเปิดเทอม ก็จะลดเหลือ 15-20 นาที ในช่วงที่โรงเรียนอื่นปิดกัน

จุดหนึ่งที่ผมต้องผ่านทุกวันตอนส่งลูกคือ วัดนาวง ปทุมธานี ติดกับดอนเมืองครับ

ที่ติดกับวัด คือคลองเล็กๆ และมีสะพานข้ามที่ไม่สูง ถ้าไม่เห็นน้ำไม่ได้คิดว่าเป็นสะพานด้วยซ้ำ เพราะเปรียบเสมือนเป็นส่วนของถนน ที่คลองแห่งนี้ ถ้าเป็นส่วนติดกับวัด จะเป็นที่ทั้งให้อาหารและปล่อยปลา ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของสะพานคลองจะวิ่งผ่านบ้านในชุมชน

ผมยอมรับว่าไม่ได้เป็นจุดสวยงามอะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ได้มีอะไรดึงดูดใจขนาดนั้น แต่ตั้งแต่ปิดเทอมมา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าตอนไปส่งลูก หรือช่วงบ่ายๆ แก่ๆ ตอนไปรับเขากลับบ้าน สิ่งที่ผมเห็นและเป็นภาพประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายๆ แก่ๆ นั้น คือเด็กปิดเทอมกำลังเล่นน้ำ

อย่างที่บอกครับ สะพานนี้ไม่สูง ไม่กว้าง เหมือนสะพานข้ามแม่น้ำ ส่วนใหญ่บนสะพานแบบนั้นจะเห็นคนตกปลาบ้าง คนเดินบ้าง คนถ่ายรูปบ้าง สะพานแห่งนี้เป็นสะพานแคบๆ เพราะคลองแคบ ระหว่างรถวิ่งปุ๊บ ถ้ากะพริบตาสองครั้งก็ข้ามแล้วครับ ถ้าหาวจะข้ามสะพานก่อนหาวจบ

ที่เห็นอยู่ทุกวัน เด็กจะปีนขอบสะพานและกระโดดลงน้ำ ฝั่งสะพานข้างวัด

ดูทีไรก็เห็นเด็กสนุกทุกที ตรงนั้นเป็นจุดที่คนปล่อยปลาและให้อาหารปลาในวัด ซึ่งคงมีปลาเยอะมาก คงมีทั้งปลาใหญ่และปลาเล็กปนกันไป แล้วผมก็เห็นว่า เนื่องจากขับรถข้ามสะพานมันสั้นนิดเดียว ผมเลยไม่รู้ว่าคนที่วัดจะรำคาญหรือไม่ แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าเด็กๆ สนุกแน่ เพราะผ่านทีไรเห็นเขาหัวเราะและยิ้มทุกที

ผมยังคิดในใจว่า สักวันหนึ่งจะชวนลูกไปเล่นตรงนี้บ้าง ซึ่งชวนครั้งแรก เขาคงคิดว่าผมอำเขาเล่น แต่ผมจะต้องค่อยๆ ชวน ค่อยๆ ชี้ให้เขาเห็นว่ามันน่าจะสนุกมากๆ เพราะลูกผมว่ายน้ำเป็น แล้วไม่กลัวน้ำครับ แต่เขายังไม่มีประสบการณ์กับการกระโดดน้ำลงคลอง หรือแม่น้ำ อย่าหวังว่าผมจะหาคลองใกล้ๆ หมู่บ้านเมืองทองธานี เพราะคลองที่ผ่านในหมู่บ้านผมนั้น ทั้งน้ำเขียว ดำ และจะขึ้นเป็นฟองด้วยซ้ำ

ผมก็รู้ว่าการกระโดดลงน้ำในคลอง (หรือแม่น้ำ) เป็นกิจวัตรประจำวันของเด็กหลายคน ในหลายยุคหลายสมัย แต่นั่นเป็นเพราะบ้านเขาอยู่ละแวกนั้น เขาเลยเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ได้ทุกเมื่อ แต่ผมไม่มีครับ

หลายคนจะบอกว่าในหมู่บ้านเมืองทองเห็นมีทะเลสาบกว้างใหญ่อยู่ข้างหลังบ้านไม่ใช่เหรอ? ใช่ครับ มีทะเลสาบกว้างใหญ่มาก ใหญ่ขนาดคนเล่นเจ็ตสกี เล่นสกีน้ำ และแล่นเรือเร็วได้ แต่ขอกระซิบนิดหนึ่ง สำหรับพวกเราชาวเมืองทองธานีแท้จริง พวกเราไม่มีทางลงน้ำนี้หรอก ทุกคนที่เล่นเจ็ตสกีเล่นสกีน้ำและเอาเรือแล่น เล่นเสร็จปุ๊บ คันยิกๆ ปั๊บ (ทุกราย) แถมน้ำในทะเลสาบลึกเกินที่จะลงไปเล่น เล่นๆ

หลายคนจะบอกว่า ทำไมผมไม่พาเด็กๆ ไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา หลังบ้านผมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา? สายน้ำที่ติดกับบ้านผมนั้นดูแคบก็จริง แต่น้ำเชี่ยวและแรงครับ ถ้าไม่ระวังดีๆ ตอนลงน้ำหน้าบ้านผม แต่พอขึ้นจากน้ำจะถึงโน่น….ปากเกร็ด!!

ถ้าอยากให้เด็กๆ มีประสบการณ์เรื่องการกระโดดลงคลองหรือแม่น้ำจากสะพาน ผมจะต้องตระเวนหาจุดให้เขาเล่น แต่นั่นหมายความว่า ตระเวนหาเจอปุ๊บ เปลี่ยนชุดปั๊บ กระโดดๆ แล้วกลับบ้าน ฟังแล้วมันไม่ค่อยเป็น “ธรรมชาติ”

แต่ตรงวัดนาวงนี้ล่ะ ดูเป็น  “ธรรมชาติ” ที่สุดแล้ว ดูเป็นไปได้ที่สุด เพราะมันเห็นทุกวัน ปัญหาอยู่ที่ว่าจะขับรถไปหาที่จอด (ที่ไหนไม่รู้) และอยู่ๆ ลงน้ำปีนสะพาน แล้วกระโดดลงมันก็คงเขินครับ นอกจากรู้จักเด็กเท่านั้น และเล่นด้วยกัน ซึ่งเราไม่รู้จักใครเลย

ตามสภาพความเป็นจริงก็คงได้แต่มองพวกเขาเล่นน้ำกัน แต่ไม่แน่สักวันหนึ่งอาจมีจังหวะ อาจมีโอกาส ซึ่งโอกาสนั้น “ธรรมชาติ” อาจสร้างขึ้นมา หรือความพยายามสร้างขึ้นมาเอง ก็ว่ากันไป ระหว่างรอโอกาสตรงนั้น ให้ลูกผมเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของหมู่บ้านก่อนแล้วกัน

วันนี้ขอเขียนเรื่องเบาๆ ท่ามกลางอากาศที่ชักชวนให้ลงน้ำครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Sending a Message หรือ The Calm Before the Storm?

เมื่อสัปดาห์ก่อน ช่วงเวลาที่พวกเราสนุกและพักผ่อนกันเต็มที่ช่วงสงกรานต์นั้น มีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเกิดได้ทุกเมื่อ และในที่สุดก็เกิดขึ้นจริงๆ ครับ

หลานชายคุณปู่

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ช่วงเขียนคอลัมน์นี้ ผมยังอยู่ที่บ้านเฮา เจออากาศทั้งร้อนมากและร้อนธรรมดา เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องการขับรถขึ้นมาบ้านเฮากับลูกสาว

หลานคุณปู่

คอลัมน์สัปดาห์นี้กับสัปดาห์หน้า น่าจะเป็นคอลัมน์เบาๆ ครับ ผมเชื่อว่าแฟนๆ ครึ่งหนึ่งน่าจะหนีร้อนในไทยไปสูดอากาศเย็น (กว่า) ที่อื่น ส่วนใครที่ไม่ไปไหน คงไม่อยากอ่านเรื่องหนักๆ

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 2)

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องราวแก๊งที่ผมสัมผัสและรู้จักสมัยอยู่สหรัฐ สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงแนว Gangster Rap ก็คงจะคุ้นเคยกับสิ่งที่ผมเขียนไป แต่สำหรับหลายท่านที่เติบโตคนละยุคคนละสมัยอาจไม่คุ้นเลย

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 1)

ผมมีความรู้สึกว่า ช่วงนี้มีข่าวประเภทแก๊งมีอิทธิพลในประเภทประเทศเอลซัลวาดอร์ โคลอมเบีย และเม็กซิโก มีผลต่อเสถียรภาพการเมืองระดับชาติประเทศเขา

To Shortchange กับ To Feel Shortchanged

จากการเรียกร้องของสาวๆ (สวยๆ) ไทยโพสต์ ผมขออนุญาตสวมหมวกฟุดฟิดฟอไฟวันหนึ่ง เพื่อพูดคุยและอธิบายสไตล์ของผม ถึงคำที่ปรากฏในช่วงต้นสัปดาห์จากนิตยสาร Time ครับ