เลือก 'ประธาน ก.ตร.'

อย่าเพิ่งตกใจ อย่าเพิ่งมึนงง อย่าเพิ่งสับสนว่าตำแหน่ง "ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ" หรือ "ประธาน ก.ตร." มีการเปลี่ยนแปลงจาก "โดยตำแหน่ง" มาเป็น "คัดเลือก"

แบบที่ "ตำรวจ" บางส่วนพยายามเรียกร้องเพื่อให้ "ประธาน ก.ตร." ปราศจากการเมือง

เพราะตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ฉบับใหม่ล่าสุด ที่ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 139 ตอนที่ 64 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ประกาศเอาไว้ ในหมวด คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ก็ยังระบุให้

"นายกรัฐมนตรี" เป็น "ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ" เหมือนเดิม

ทว่าที่จั่วหัว "เลือกประธาน ก.ตร." ก็เพราะมีการเลือกประธาน ก.ตร.จริงๆ เพียงแต่ไม่ใช่การเลือกประธาน ก.ตร.แบบทางตรง แต่เป็นการเลือกตั้ง ประธาน ก.ตร. แบบทางอ้อม

อ้อมยังไง???

ก็อ้อมมาจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 หรือวันอาทิตย์นี้

คือเมื่อพรรคการเมืองใดได้ ส.ส.เกินกว่า 25 คน ก็มีสิทธิตามกฎหมายที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคให้ ส.ส.และ ส.ว.ในสภายกมือโหวตให้ดำรงตำแหน่ง

"นายกรัฐมนตรี" คนที่ 30

นั่นก็หมายถึงว่า หาก "ตำรวจ" กว่า 2 แสนนาย อยากได้ใครมาเป็น ประธาน ก.ตร. ก็ให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ ตามที่ตนเองมีภูมิลำเนา เลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนคนคนนั้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.

เมื่อได้ นายกรัฐมนตรีแล้ว นั่นก็เหมือนเลือก "ประธาน ก.ตร." ไปในตัว

ต้องไม่ลืมว่าตามกฎ ตามระเบียบ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่นี้ ก.ตร.มีส่วนสำคัญในการบริหารงานของ "ตำรวจ" อย่างมาก เพราะมีหน้าที่และอำนาจมากมาย

ทั้งการกำหนดมาตรฐานการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม จัดระบบราชการตำรวจ ตลอดทั้งนโยบายและมาตรฐานการอบรมและพัฒนาข้าราชการตำรวจ

ที่สำคัญมีอำนาจในการพิจารณาให้ความเห็นชอบการคัดเลือกข้าราชการตำรวจ เพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจของผู้บังคับบัญชาทุกขั้นตอนให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจและกฎ ก.ตร.โดยเคร่งครัด

หากได้ ประธาน ก.ตร.ที่เข้าใจตำรวจ รักตำรวจ มีความเที่ยงธรรมต่อตำรวจ การกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะดีตามไปด้วย

ดังนั้นแล้วในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 หาก "ตำรวจ" รายใดยังไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ก็ออกไปใช้สิทธิ์กันเยอะๆ

เพื่อให้ได้ "นายกรัฐมนตรี" อย่างที่ต้องการ และนั่นหมายถึงก็จะได้ "ประธาน ก.ตร." อย่างที่ต้องการไปด้วย

จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบ่งงานเจ็บจี๊ด!

เห็นคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (เพิ่มเติม)

'รอง ผบ.ตร.' ขาดแคลน

นี่ซิ...วงการ "สีกากี" ไม่ทันที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะเก็บของออกจากห้องทำงานหมด หลัง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ปิดฉาก'ผบ.ต่อศักดิ์'

ชัดเจนแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องคาดการณ์ การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2567 ปลายปีนี้ ผู้ที่มีอำนาจจัดทำบัญชีแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อย่างแน่นอน!!!

ทิศทางสีกากีเปลี่ยน!

พอทุกอย่างลงตัว คลื่นลมสงบ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หมายเรียกหมายจับ เริ่มขับเคลื่อนไปตามกระบวนการยุติธรรม ทิศทาง "สีกากี" ก็เลยชัดเจน แจ่มแจ้ง

บ่อนกับตำรวจ

เห็นท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ในการปราบปรามการพนันทั้งแบบ "ออนไลน์" และแบบ "บ่อนพนัน" ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน ผบ.ตร. ถึงขนาดมีนโยบายชัดเจน

เก้าอี้ 'ผบ.ตร.' เปลี่ยน!

มีสัญญาณที่น่าสนใจ ที่น่าจับตา ภายในรั้ว "กรมปทุมวัน" หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งแพ็กคู่ 2 นายพล ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี