ก่อนเลือกตั้งก็ถก อภิปรายกันต่างๆ นานา ว่าประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นยังไง หากยึดตามนโยบายลด แลก แจก แถม สัญญาว่าจะให้ตามที่พรรคการเมืองต่างๆ หาเสียง ..เรียกว่าเครียดไปตามๆ กัน เพราะรู้สึกไม่ได้ดังใจสักพรรค
หลังเลือกตั้ง ผลออกมา ก็สมควรที่จะต้องยอมรับ และเฝ้าดู พร้อมกับเตรียมตรวจการบ้านที่เหล่านักการเมืองได้สัญญิงสัญญาไว้
แต่ปรากฏว่า เครียดกันมากกว่าเดิม ด้วยเหตุผลต่างๆ สารพัด
นี่เข้าตำรา political stress syndrome หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า PSS แปลเป็นไทยว่า ภาวะเครียดจากการเมืองหรือเปล่า..หนอ!! เพราะดูเหมือนในโลกโซเชียลจะมีการบ่นกัน ประชด แดกดัน และวิพากษ์วิจารณ์กันโจ๋งครึ่ม จนถึงขั้นบางคนประกาศว่า มีอาการซึมเศร้ากันเลยทีเดียว
อาการน่าเป็นห่วงนะ หลังจากที่มนุษย์ป้าเฝ้าสังเกตห้องแชตต่างๆ ของเพื่อนๆ
เพราะถ้าว่ากันตามวิชาการล่ะก็ คนที่คอยติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลาอาจเกิดอาการความเครียดโดยไม่รู้ตัว หากไม่สามารถจัดการกับมันได้ หรือไม่หายไปตามระยะเวลาที่ควร อาจพัฒนาสู่กลุ่มอาการ pss ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตเราไปในระยะยาวเลยทีเดียว
แม้กลุ่มอาการเครียดแบบนี้ ไม่ใช่โรคที่เกิดจากปัญหาทางสุขภาพจิตก็ตาม แต่ปฏิกิริยาของอารมณ์ และจิตใจที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีความสนใจปัญหาทางการเมือง ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด หรือเอนเอียงไปทางกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้น อาจส่งผลทำให้มีอาการทางกาย จิตใจ และกระทบต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่นได้
ที่สำคัญคือ ความคิดคาดการณ์ที่นำไปสู่ความรู้สึก วิตกกังวล หรือการเครียดต่อเหตุการณ์ในอนาคต เช่นกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง ก็มีโอกาสสะสมได้
ดังนั้น ปล่อยวางกันได้แล้วนะคะ สหายทั้งหลาย ขอให้ยอมรับว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เมื่อเราได้ทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมาเราก็ต้องเคารพ และเดินหน้ากันต่อไปไม่ว่าจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ขอให้สังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างด้วยนะคะ หากเครียดถึงขั้นปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อตึงบริเวณขมับ ต้นคอ หรือตามแขนขา นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ หงุดหงิดง่ายล่ะก็ จงหาวิธีบำบัดตัวเองด้วยการเลิกสนใจการเมืองไปชั่วคราวจะดีกว่า
ชีวิตวันนี้เปลี่ยนเป็นไปออกกำลังกาย หรือท่องเที่ยวที่ไกลๆ เลิกเสพข้อมูลข่าวสารสักพักนะคะ เพราะเกิดเป็นคน ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปตามที่เราต้องการตลอดเวลาหรือเสมอไปนะคะ ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติจ้า.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"


