ระหว่างเชื้อไวรัสกับการเมืองไทย

ยังไม่ถึงกับแจ่มแจ้ง ชัดเจน มากมายซักเท่าไหร่นัก...สำหรับรายละเอียด ตื้น-ลึก-หนา-บาง ของท่านเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่จะเรียกว่า โอไมครอน หรือ โอมิครอน คงไม่น่าจะมีใครถือสา หาความ อะไรกันมากมาย เอาแค่ให้พอรู้ๆ ว่าถือเป็นการ กลายพันธุ์ รอบใหม่ ของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะร้าย-ไม่ร้าย น่าเกลียด-น่ากลัว กว่าสายพันธุ์ เดลตา มากหรือน้อยขนาดไหน ก็คงต้อง รอพักชมโฆษณาอีกจั๊กกู้ หรือรอให้ผู้เชี่ยวชาญระดับองค์การอนามัยโลกนั่นแหละ ออกมาฟันธง ฟันเฟิร์ม ให้ชัดๆ อีกไม่น่าจะนานเกินไปนับจากนี้...

----------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...เท่าที่ลองพยายามฟังๆ บรรดาพวก กูรู หรือ กูรู้ ทั้งหลาย ดูๆ น่าจะมีทั้งแง่บวก-แง่ลบ ผสมกันไป-ผสมกันมา คือมีทั้งประเภท หูแหก-ตาแหก สั่งปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดประเทศ ห้ามคนเข้า-คนออก โดยเฉพาะคนแอฟริกาใต้ ตื่นตระหนก ตกใจ กับจำนวน-ปริมาณของการ แพร่ระบาด ที่ว่ากันว่า...ออกจะรวดเร็ว ฉับพลัน-ทันที กว่าสายพันธุ์เดิมๆ หลายต่อหลายเท่า แต่ก็มีทั้งประเภท หูลี่-ตาตี่ หรือประเภทที่ไม่ถึงกับหวาดวิตกจนเกินไป แถมยังพยายามมองในแง่บวกเอาไว้ก่อน ประมาณว่า...ด้วยช่วงจังหวะ เวลา แห่งการ กลายพันธุ์ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายๆ อาจทำให้ศักยภาพ อานุภาพ แห่งการออกฤทธิ์ ออกเดช ของท่านเชื้อไวรัสตัวนี้ ไม่ถึงกับน่าเกลียด น่ากลัว น่าตะลึงพรึงเพริด มากมายซักเท่าไหร่ คืออาจคล้ายๆ โรคหวัด ธรรมดาๆ ยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ถึงกับต้องล้มหมอน-นอนเสื่อ ไม่ถึงกับต้องแอดม้ง แอดมิต แย่งเตียง จองเตียง ให้ชุลมุน-ชุลเก ชนิดระบบสาธารณสุขอาจต้องล่มสลายไปเป็นประเทศๆ อะไรทำนองนั้น...ฯลฯลฯ...

-----------------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...สุดท้ายคงต้องรอการฟันธง ฟันเฟิร์ม ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายให้ชัดๆ กันอีกครั้ง โดยระหว่างนี้ย่อมหนีไม่พ้นต้องยกการ์ด สวมการ์ด สวมหมวกกันน็อกเอาไว้ก่อน แต่จะยกอย่างไร สวมอย่างไร ไม่ให้ปิดหู ปิดหน้า ปิดตา จนมองอะไรไม่เห็น หรือไม่ถนัดชัดเจนเอาซะเลย อันนี้นี่แหละ...ที่ออกจะละเอียดอ่อน ออกจะหาจุดสมดุล จุดลงตัว ค่อนข้างลำบากมิใช่น้อย ยิ่งเมื่อถึงเวลาต้องเปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศ ก่อนจะทุนหาย กำไรหด มากมายเกินไปกว่านี้ หรือก่อนที่จะกรอบเป็นข้าวเกรียบเมืองเพชร ชนิดถึงขั้น กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง เอาง่ายๆ การเปิดๆ-แง้มๆ มันเลยน่าจะเป็นอะไรที่ลำบาก กว่าการอ้า การแบ อยู่แล้วแน่ๆ...

----------------------------------------------------------

ยิ่งในช่วงใกล้ๆ จะถึงปีหน้า-ฟ้าใหม่ ช่วงเวลาแห่งการเฉลิม-ฉลอง ท่ามกลางบรรยากาศอันสดใส ซาบซ่า ของฤดูหนาวที่กำลังมาเยือน ก็ยิ่งต้องคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อย ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น เพราะถ้าหากคิดจะถ่าง คิดจะแบ กันแบบอ้าซ่าๆ สามารถ รินหนา-ปัญญาเกิด กันได้นับแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวไทยๆ หรือเทศๆ ก็แล้วแต่ ที่ต้อง มันจุกอก มาเกือบจะ 2 ปีเข้าไปแล้ว แต่ถ้าหากมันดัน โอไมครอน-โอมิครอน แบบชนิดต้องตายโหง ตายห่า กันระดับเป็นหมื่นๆ แสนๆ ตัวเลขการติดเชื้อ แพร่เชื้อ หวนกลับมาเป็นหมื่นๆ เหมียนเดิม หรือต้องแย่งเตียง จองเตียง กันจนระบบสาธารณสุข หรือบุคลากรทางการแพทย์ อาจถึงขั้นต้อง อตัมมยตา หรือถึงกับ กูไม่เอากับมึง...แล้วโว้ย อะไรประมาณนั้น อันนี้...ก็รับรองว่า ผู้ที่จะต้องไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี เป็นรายแรก น่าจะได้แก่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮาทั้งหลาย นั่นแล...

------------------------------------------------------------

คือการที่สามารถ อยู่ยาวว์ว์ว์ มาได้กว่า 7 ปี เกือบ 8 ปีเข้าไปแล้ว ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ผู้เป็นที่รู้จักกันตามแนวเนื้อร้อง ทำนองและบทเพลง อันว่าด้วย เราจะทำตามสัญญา...ขอเวลาอีกไม่นาน ฮึ้มฮึม ฮึ้มหึ่ม หรือตามคำขวัญสโลแกนว่า เลือกความสงบ...ต้องจบที่บิ๊กตู่ อะไรทำนองนั้น คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า ออกจะหนักไปทาง บุญช่วย หรือ บุญบังเอิญ มิใช่น้อย เรียกว่า...ไม่ว่าใครจะคิดร้าย ทำลาย คิดหัก คิดโค่น จู่ๆ...ก็ดันปากบูด ปากเบี้ยว เส้นเลือดในสมองแตก เป็นมะรุม มะรง มะเร็ง ไม่ก็หันมา กัดกันเอง ด่าทอ เล่นงาน ระดับตบหน้าและโดดถีบซึ่งกันและกัน หรือล้วนแล้วแต่ แพ้ภัยตัวเอง ไปด้วยกันทั้งสิ้น โดย บิ๊กตู่ แทบไม่ต้องเสียเวลาทำอะไรเอาเลยแม้แต่น้อย แค่เต้นย็อกๆ แย็กๆ อยู่กลางเวทีเอาขาเขี่ยไป-มา ถูกบุกหนักๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็เด้งเชือก ฉากหลบ มุดจั๊กกะแร้ฝ่ายตรงข้าม เพียงเท่านี้ก็สามารถอยู่รอดปลอดภัย มาได้อย่างแทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็คงต้องเชื่อกันจนได้...

----------------------------------------------------------

แม้แต่ต้องเจอกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจปีแล้ว ปีเล่า คราวแล้ว คราวเล่า ของบรรดาพวกฝ่ายค้านในสภาฯ เจอกับการประท้วงแล้ว ประท้วงเล่า ของพวกฝ่ายแค้นนอกสภาฯ แถมยังเจอกับเชื้อโควิดมาตลอด 2 ปีก็เถอะ ฯลฯ แต่จนถึงทุกวันนี้ไม่ว่าจะ เซียนการเมือง ระดับไหนต่อระดับไหน ต่างต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า โอกาสที่ บิ๊กตู่ จะตีตั๋วยาวต่อไปอีกซักสมัย หรืออีก 4 ปีข้างหน้านั้น ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย การขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ของบรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ เลยล้วนแล้วแต่ต้องเริ่มตั้งโจทย์กันที่การอยู่-การไป ของ บิ๊กตู่ นี่แหละเป็นสำคัญ...

--------------------------------------------------------------

คืออย่างน้อย...ก็คงต้องขบโจทย์ ตีโจทย์ให้แตกซะก่อน ว่า บิ๊กตู่ จะไป-ไม่ไปในตอนไหน? เมื่อไหร่? และอย่างไร? ถึงพอจะสามารถสร้าง สมการทางการเมือง ของตัวเองให้พอเป็นรูป เป็นร่าง ขึ้นมาได้มั่ง ดังนั้น...อาการ พล่านน์น์น์ ทางการเมืองในช่วงนี้ ไม่ว่ากลุ่มโน้น กลุ่มนี้ พรรคโน้น พรรคนี้ จึงแทบไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ น่าคิด น่าสะกิดใจ มากมายซักเท่าไหร่นัก จนกว่ารายละเอียดตื้น-ลึก-หนา-บาง ในการอยู่-การไปของ บิ๊กตู่ จะปรากฏออกมาชัดๆ แบบเดียวกับการฟันธง ฟันเฟิร์ม ในเรื่องเชื้อไวรัสโอมิครอนอะไรทำนองนั้น ถึงจังหวะนั้นนั่นแหละ...ถึงพอจะสรุปได้ว่าใครเป็นใคร? ไผเป็นไผ? ใครเป็นผู้เหมาะสม สอดคล้อง กับ การเมืองไทยในอนาคต ที่สุดแสนจะซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ยิ่งเข้าไปทุกที...

-------------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก E.B. White”... There’s no limit to how complicated thing can get, on account of one thing always leading to another.- เรื่องราวต่างๆ สามารถทวีความซับซ้อนได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยเหตุเพราะสิ่งหนึ่ง-ย่อมนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่งเสมอๆ...”.

---------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น