ได้รับเรื่องราวส่งต่อจากเพื่อนๆ ในห้องไลน์ห้องหนึ่ง เห็นว่าเป็นเรื่องให้ข้อคิดที่ทุกเพศทุกวัย สามารถนำไปคิดพินิจพิเคราะห์ตามอัธยาศัย หรือจะคิดเปรียบเทียบกับปัญหาสังคมและการเมืองไทยยามนี้ ก็ยังสามารถจะนำไปโยงด้วยได้นะ
...เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
สตรีผู้หนึ่งนั่งรถไฟจากนิวยอร์กไปฟิลาเดลเฟียอย่างเพลิดเพลิน และมีผู้โดยสารเพียงคนเดียวนั่งอยู่ข้างๆ ชายคนนั้นดูเคร่งขรึม แต่ความสุขของเธอหมดไปเมื่อชายคนนั้นจุดซิการ์สูบในรถไฟ
สตรีนั้นไอออกมาอย่างเปิดเผย และชักสีหน้าไม่ดีให้เห็น แต่ไม่ได้ผล ชายนั้นยังสูบต่อไป
ในที่สุดเธอก็ระเบิดออกมาว่า "คุณคงต้องเป็นชาวต่างชาติแน่ๆ คุณไม่รู้หรือว่ามีตู้รถไฟที่สูบบุหรี่อยู่ ที่่นี่เขาห้ามสูบบุหรี่"
ชายคนนั้นจึงค่อยๆ ทิ้งซิการ์ออกนอกหน้าต่างไป และก็ยังคงนิ่งสงบอยู่
เมื่อพนักงานเก็บตั๋วมาถึง สตรีนั้นจึงทราบว่าเพื่อนร่วมทางของเธอคือ นายพล Ulysses Grant และเธอก็เพิ่งตระหนักรู้ว่า เป็นเธอเองที่ขึ้นรถไฟผิดโบกี้ เธอกำลังนั่งอยู่ในโบกี้ส่วนตัวของท่านนายพล เธอจึงรีบออกจากโบกี้นั้นทันที
นายพลแกรนท์ไม่มองเธอเพื่อเธอจะได้ไม่อาย ท่านเพียงยิ้มๆ เมื่อเธอออกจากที่นั่นไปแล้ว
เขาสรุปเรื่องเล่าเรื่องนี้ว่า ..ความสุภาพถ่อมตนที่ยิ่งใหญ่นั้นเห็นได้จากผู้คนที่เข้มแข็งและมีความยิ่งใหญ่ด้วยความสุภาพเท่านั้น ผู้ใหญ่จริงต้องสุภาพถ่อมตน เราเห็นคนมากมายทั้งมีตำแหน่งและไม่มีตำแหน่งพิเศษอะไร วางตัวสูงส่ง ประกาศความศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง และเรียกร้องให้ผู้คนให้เกียรติตนเอง ใส่ร้ายคนลับหลัง ผู้คนอาจกลัวเกรง แต่สิ่งที่พวกเขาจะไม่ได้รับเลยคือความจริงใจ
อ่านจบ!! สำหรับมนุษย์ป้า คิดประมาณว่า คนแก่มากมายที่ยังยึดติดอยู่กับอดีต และความมีตัวตนของตัวเองก่อนเกษียณ มักจะปลดระวางความยิ่งใหญ่ของตัวเองยาก บ่อยครั้งเราจึงเห็นคนเหล่านี้แสดงความใหญ่โตออกมาข่มชาวบ้านแบบไม่รู้ตัว นอกจากนั้นยังมีเยาวชนคนรุ่นหลังอีกเยอะทีเดียว ที่ยกตนข่มท่าน จองหองพองขนว่าตัวเองทันสมัย รู้มากกว่า บ้างก็ถึงขั้นโหวกเหวกโวยวายด้วยความรำคาญว่า พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย "เอาต์" ควรจะฟังเด็กๆ แบบไม่มีเงื่อนไขได้แล้ว
คิดเองเออเองแล้วก็ขอตกผลึกด้วยตัวเองว่า สุภาพชนนั้นไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความอ่อนน้อมไม่สามารถหาได้จากการศึกษา แต่ต้องบ่มเพาะจากจิตใจที่รู้จักแยกแยะชั่วดี และรู้รักกตัญญูค่ะ.
'ป้าเอง'
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"


