ขึ้นข้ามหน่วยได้มั้ย

จำได้ว่าหลังการประชุม ก.ตร.ครั้งล่าสุด ที่มีการหารือกันเรื่อง ข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 มีข้อมูลออกมาว่าการแต่งตั้งระดับ "นายพัน" ปีนี้

ห้ามขึ้นข้ามหน่วย!!!

แต่พอเห็นข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.เซ็นออกมาเมื่อ 2-3 วันก่อน มีเนื้อหาทั้งหมด 47 ข้อ ใช้สำหรับการแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" ลงไปถึง "ชั้นประทวน" ทั่วประเทศปีนี้

เนื้อหาสาระหลักๆ อย่างข้อ 6 การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2566 ระดับ "นายพล" ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.-ผบก.ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค.

2566 ระดับ "นายพัน" ตำแหน่ง รอง ผบก.-สว.(สารวัตร) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 2566 ระดับ รอง สว.ลงมา ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ม.ค. 2567

ขยายระยะเวลาได้ ผบ.ตร.ต้องเสนอขอรับความเห็นชอบจาก ก.ตร.

ข้อ 41 การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามมาตรา 82 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ให้พิจารณาแยกประเภทตามที่ได้มีการประกาศลำดับอาวุโส โดยการแต่งตั้ง (1) ระดับ "รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร." พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส (2) ระดับ "ผบช.-ผบก." พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสไม่น้อยกว่า 50% (3) ระดับ "รองผบก.-สว." พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสไม่น้อยกว่า 33%

ที่ต้องขีดเส้นใต้ และขมวดคิ้วในข้อ 41 อยู่ตรงที่มีการระบุว่า การพิจารณาคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (2) และ (3) ให้พิจารณาจากข้าราชการตำรวจที่มีลำดับอาวุโสสูงที่สุดเรียงลำดับลงไปจนครบตามจำนวนสัดส่วนอาวุโส

"หากยังไม่ครบตามจำนวนให้ผู้มีอำนาจพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยการแต่งตั้งผู้ที่ดำรงตำแหน่งซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตรงตามคุณสมบัติของข้าราชการตำรวจที่รอรับการพิจารณาและมีความสมัครใจ ไปดำรงตำแหน่งอื่นเพื่อเปิดตำแหน่งว่าง ที่ไม่เป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนข้าราชการตำรวจระหว่างหน่วย สำหรับรองรับการคัดเลือกหรือแต่งตั้งให้ได้มากที่สุด

หากยังไม่ครบตามจำนวนสัดส่วนอาวุโสให้รายงานปัญหา อุปสรรค พร้อมทั้งแนวทางแก้ไขต่อ ก.ตร. พิจารณา เช่น กำหนดเป็นเหตุพิเศษ เป็นต้น จำนวนตำแหน่งว่างที่เหลือจากการพิจารณาตาม (2 )และ (3) ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน รวมทั้งบัญชีที่จัดทำตามข้อ 20 และความเหมาะสมกับตำแหน่งโดยสามารถพิจารณาคัดเลือกหรือแต่งตั้งจากบัญชีรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นของประเภทตำแหน่งอื่นก็ได้

การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม (2) และ (3) ให้ดำรงตำแหน่งเฉพาะทาง ให้พิจารณา เรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบหรือร้อยละสามสิบสามของจำนวนตำแหน่งว่างหรือกรอบตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่งตามลักษณะหน้าที่หรือลักษณะงานของตำแหน่งนั้นๆ แล้วแต่กรณี ส่วนตำแหน่งว่างที่เหลือจากการพิจารณา ให้นำความในวรรคสองและวรรคสาม มาบังคับใช้โดยอนุโลม เว้นแต่ ก.ตร.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกหรือแต่งตั้งเป็นการเฉพาะ

สำหรับข้าราชการตำรวจ ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงสุดของตำแหน่งเฉพาะทางที่ไม่ใช่กลุ่มสายงานวิชาชีพเฉพาะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือของหน่วย แล้วแต่กรณี ให้นำไปพิจารณารวมกับข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งในประเภทตำแหน่งทั่วไป"

"สีกากี" หลายคนเลยสงสัย หลายคนเลยข้องใจสรุปการแต่งตั้งปีนี้

ขึ้นข้ามหน่วยได้หรือไม่???

"ผบ.ตร." น่าจะแจกแจงให้ลูกน้องหายข้องใจหน่อยก็น่าจะดี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แบ่งงานเจ็บจี๊ด!

เห็นคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองจเรตำรวจแห่งชาติ (เพิ่มเติม)

'รอง ผบ.ตร.' ขาดแคลน

นี่ซิ...วงการ "สีกากี" ไม่ทันที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะเก็บของออกจากห้องทำงานหมด หลัง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ปิดฉาก'ผบ.ต่อศักดิ์'

ชัดเจนแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องคาดการณ์ การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2567 ปลายปีนี้ ผู้ที่มีอำนาจจัดทำบัญชีแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อย่างแน่นอน!!!

ทิศทางสีกากีเปลี่ยน!

พอทุกอย่างลงตัว คลื่นลมสงบ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หมายเรียกหมายจับ เริ่มขับเคลื่อนไปตามกระบวนการยุติธรรม ทิศทาง "สีกากี" ก็เลยชัดเจน แจ่มแจ้ง

บ่อนกับตำรวจ

เห็นท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ในการปราบปรามการพนันทั้งแบบ "ออนไลน์" และแบบ "บ่อนพนัน" ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน ผบ.ตร. ถึงขนาดมีนโยบายชัดเจน

เก้าอี้ 'ผบ.ตร.' เปลี่ยน!

มีสัญญาณที่น่าสนใจ ที่น่าจับตา ภายในรั้ว "กรมปทุมวัน" หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งแพ็กคู่ 2 นายพล ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี