ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด "ข้าวต้มมัด" ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดทางแยกหรือไม่ ระหว่างพรรคเพื่อไทยแกนนำกับพรรคจัดตั้งรัฐบาล และพรรคอันดับหนึ่งก้าวไกลที่จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เพราะดันทุรังหมกมุ่นแก้ไขมาตรา 112 ทั้งนี้ในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 3 วันที่ 4 ส.ค.นี้
คนเพื่อไทยเตรียมดันชื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมั่นใจที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาลงมติเห็นชอบชนิดม้วนเดียวจบ อีกทั้งยังมีรายงานถึงสาเหตุการบอกเลิกเอ็มโอยู 8 พรรคโยนให้พรรคก้าวไกลตัดสินใจด้วยในวันก่อนเลือกนายกฯ เบื้องต้นเตรียมนำข้อมูลรวบรวมเสียง สส. และ สว. แจ้งต่อที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
โดยชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะรวบรวมเสียงให้ผ่านเกณฑ์เลือกนายกฯ และจะสอบถามความเห็นของ 7 พรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลถึงการแก้ปัญหาที่ยังรวบรวมเสียงไม่เพียงพอหากยังอยู่ภายใต้เอ็มโอยู 8 พรรค หากไม่มีคำตอบให้ พรรคเพื่อไทยเตรียมขอฉีกเอ็มโอยู เพื่อขอแยกตัวไปจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลพ่วงท้าย เพราะติดเงื่อนไขหลายพรรคการเมืองไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย
พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าถึงจังหวะที่ฉีกเอ็มโอยูแล้ว จะมี 3 พรรคการเมืองที่ตามมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ 9 เสียง เพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง และเสรีรวมไทย 1 เสียง และมีพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิมเพิ่มเติมเข้ามาคือ พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง และพรรคประชาธิปัตย์ 19 เสียง ปีกของ "เสี่ยต่อ" เฉลิมชัย ศรีอ่อน เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลก่อนเป็นกลุ่มแรก เมื่อรวมทั้งหมดมีเสียง สส. 255 คน เกินครึ่งมาแค่ปริ่มน้ำเท่านั้น
แต่เสียงยังไม่เพียงพอโหวตผ่านเกณฑ์ 376 เสียง ดังนั้น 151 เสียงของพรรคก้าวไกล ที่แม้จะหลุดไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พร้อมยกมือโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เพื่อขับเคลื่อนกลไกประชาธิปไตยต่อไป ปิดสวิตช์ สว.ไปในตัว รวมทั้งหมดจะได้รับเสียงโหวตประมาณ 406 เสียง
สอดรับการเจรจา “ดีลลับฮ่องกง” คนแดนไกลค่ายแดง-ผู้นำจิตวิญญาณค่ายส้ม และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรค “2 ลุง” คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ส่วนจะเป็นความจริงหรือไม่ อีกไม่นานรู้กัน หรือจะเดินตามมาสมทบในภายหลัง หลังมีภาพ “ผู้กอง” บินไปฮ่องกง ก่อนกลับมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง พปชร. ดัน ป.ที่ 4 ขึ้นมา เพื่อรับตำแหน่งทางการเมือง
ว่าด้วยเรื่องดีลลับดังกล่าว หรือ "ซูเปอร์ดีล" มีเสียงจากบรรดาด้อมส้มเรียกร้องว่า “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ไปคุยอะไรกับนายใหญ่เพื่อไทย ซึ่งบัดนี้ยังปิดปากเงียบ ทำเอาบรรดากองเชียร์หมดศรัทธา สั่นคลอนต่อความเชื่อมั่น สะท้อนได้จาก "สมชาย ปรีชาศิลปกุล” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่า ในฐานะพลเมืองคาดหวังจะเห็นการทำงานการเมืองที่ตรงไปตรงมา ไม่ใช่การ “เล่นการเมือง” ที่ใช้การเจรจาแบบลับๆ นอกสายตาของสาธารณะ
“หากพรรคก้าวไกลจะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล, คุณพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี, ข้อเสนอ 112 ต้องตกไป ฯลฯ ก็ต้องทำให้เห็นว่าเป็นผลมาจากพลังอำนาจของฝ่ายอนุรักษนิยม และรัฐธรรมนูญที่วิปริต หากจะมีดีลลับระหว่างพรรคการเมืองอื่นๆ นั่นก็เป็นแนวทางที่ไม่ควรต้องเข้าไปแปดเปื้อนด้วย”
ถ้าไม่ได้ไป ก็ต้องปฏิเสธให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้คนมั่นใจว่าแนวทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยยังคงเดินไปอย่างโปร่งใส ถ้าไปจริง ก็ต้องอธิบายว่าอะไรคือเหตุผล อะไรคือเป้าหมายของการเจรจา แน่นอน ถ้าเห็นว่าเป็นจังหวะก้าวที่ผิดพลาดก็ควรต้องยอมรับและเป็นบทเรียนต่อไปในภายภาคหน้า...
ผลพวงเรื่องนี้สรุปง่ายๆ ผู้ที่ปิดสวิตช์ พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน และ "พิธา" ตกเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 ก็คือ "ธนาธร" เจ้าของพรรคพลังส้มตัวจริงเสียงจริงนั่นเองใช่หรือไม่.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0


