จริงๆ ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." คนที่ 14 ที่จะเข้ามาแตะมือต่อไม้ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งจะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 66
จบไปตั้งแต่ไก่โห่แล้ว
แต่พอการเมืองอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน การแต่งตั้ง "นายพลสีกากี" ทั้งตำแหน่ง "ผบ.ตร." และ "รอง ผบ.ตร." ลงมาถึง "ผบก." วาระประจำปี
ก็เลยสะดุด!!
ตามมาด้วยแรงกระเพื่อมในการเรียกร้องแนวทางการแต่งตั้งต้องคำนึงถึง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ตามหมวด 1 การจัดระเบียบราชการข้าราชการตำรวจ มาตรา 60 การจัดระเบียบข้าราชการตำรวจตามพระราชบัญญัตินี้ ให้คำนึงถึงระบบคุณธรรม
โดยเฉพาะ (3) การพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนตำแหน่ง และการให้ประโยชน์อื่นแก่ข้าราชการ
ตำรวจต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรม โดยพิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ และความประพฤติ ประกอบกัน และจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้
กระแสการคำนึงถึงระบบคุณธรรม ด้วยการยึดหลัก "อาวุโส" จึงดังกระหึ่ม
การแต่งตั้ง "ผบ.ตร." จึงต้องยื้อ จึงต้องขยับออกไป เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง เป็นไปตามกฎหมาย ที่สำคัญการประชุม ก.ตร.ต้องไม่เกิดความวุ่นวาย ต้องไม่เกิดปัญหา
ยิ่งเมื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ยืนยันถึงแนวทางการคัดเลือก ผบ.ตร. ต้องพิจารณาทั้ง "อาวุโส" ควบคู่ "ผลงาน" ก็ชัดเจนว่า "รอง ผบ.ตร." ที่จะขยับขึ้น "ผบ.ตร." ต้องมีคุณสมบัติทั้ง "อาวุโส" และ "ผลงาน" ควบคู่กัน
ตอนนี้เลยมีข่าวลือสะพัดแนวทางผ่าทางตันเก้าอี้ "ผบ.ตร." เพื่อให้ตำแหน่ง "ผู้นำสีกากี" จะได้จบ จะได้ไม่มีปัญหา
ทุกฝ่าย วิน-วิน !!!
ว่ากันว่าแนวทางดังกล่าวคือการขยับ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เกษียณปี 2567 ออกจากรั้ว "กรมปทุมวัน" ไปนั่งเก้าอี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ เลขาฯ สมช. แทน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาฯ สมช. ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.นี้
เมื่อเปิดหัว รอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 1 แล้ว แคนดิเดต ผบ.ตร. ก็จะเหลืออยู่ 3 ราย
บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นรต.47 เกษียณปี 2574
บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. นรต.41 เกษียณปี 2569
บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เกษียณปี 2567
คราวนี้ก็มาพิจารณา อาวุโส ความรู้ความสามารถ และความเหมาะสม จาก 3 แคนดิเดต เข้ามาประกอบกัน
ด้วยเงื่อนไข "อายุราชการ" จาก 3 แคนดิเดต ก็ดูเหมือน "บิ๊กต่อ" จะมีภาษีดีกว่าเพื่อน เพราะเหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียว ก็ดูจะเหมาะสมไม่กระทบการเติบโตของตำรวจรายอื่นๆ มากนัก
หากกระแสข่าวลือดังกล่าวเป็นจริง ก็เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะจบ และน่าจะได้ชื่อ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นนั่งเก้าอี้ "ผบ.ตร." คนที่ 14 กลางเดือนนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใครประเดิม 'ก.พ.ค.ตร.'
จับกระแสการแต่งตั้ง "นายพัน" ระดับ รองผู้การ ลงมาถึง สารวัตร วาระประจำปี 2566 ยุค "ผบ.ต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กุมบังเหียนผู้นำกรมปทุมวัน ในรอบนี้
รอยด่าง 'โผนายพัน'
หมดกัน! โผแต่งตั้ง "ตำรวจ" ยุค ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กุมบังเหียนกรมปทุมวัน อุตส่าห์ฟูมฟักแถวตรงมาตั้งแต่การแต่งตั้ง “นายพล” จนได้รับเสียงชื่นชม ได้รับเสียงปรบมือ
จูบปาก..ไม่จบ!
เห็น "ผบ.ต่อศักดิ์" สานต่อโครงการดีๆ ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. อย่างโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน แล้ว
เขย่าเก้าอี้ 'บิ๊กจ้าว'
เอ๊ะยังไง! ชื่อ บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนจะมีข่าวลือไปพัวพันหลายๆ เรื่อง
โชว์ตัว...ขาลอย!
"แต่งตั้งโยกย้าย"
บรรทัดฐานโยกย้าย
ต้องร้องอุต๊ะ! แต่งตั้ง "นายพลสีกากี" หรือ "นายพลเล็ก" ตำแหน่ง รอง ผบช.ลงมาถึง ผบก. วาระประจำปี 2566 ที่มี นายกฯ เศรษฐา ไปนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร. เมื่อวันก่อน